Support
Arjan Pong
035 323239, 035 323240, 089 8129392
Your shopping cart
ดูตะกร้าสินค้าของคุณ
ไม่มีสินค้าในตะกร้าของคุณ

เธอผู้กล้า

ArjanPong | 03-12-2555 | เปิดดู 3100 | ความคิดเห็น 0

 

 

ประธานาธิบดีโอบามา”จัดพิธีรำลึก “โรซา พาร์คส์” วีรสตรีผู้ปลดแอกชนชั้นของชาวผิวสี                                                                                                                                                               

วันนี้ (1 ธ.ค.) ตามเวลาในประเทศสหรัฐฯ ถือเป็นวันครบรอบ 57 ปีที่ นางโรซา พาร์คส์ (Rosa Parks) ปฏิเสธที่จะลุกให้คนผิวขาวนั่งบนรถเมล์ ประธานาธิบดีบารัค โอบามาจึงจัดพิธีรำลึกถึงโดยขึ้นไปนั่งบนรถเมล์เลียนแบบนางพาร์คส์จากเหตุการณ์ “การคว่ำบาตรรถประจำทางมอนต์โกเมอรี” (Montgomery Bus Boycott)

 

 


สังคมอเมริกันในอดีตคนผิวสีไม่ส
มารถใช้สถานที่สาธารณะ รวมถึงระบบบริการสาธารณะร่วมกับคนอเมริกันผิวขาวได้ ตามกฎหมายกีดกันคนผิวดำ คนผิวสีไม่สามารถโดยสารรถประจำทาง และนั่งบริเวณด้านหน้าของรถได้ แต่นั่งได้เฉพาะที่นั่งด้านหลังเท่านั้น และเมื่อมีผู้โดยสารเป็นจำนวนมาก คนผิวสีต้องลุกยืนให้คนอเมริกันนั่งแทน

 

 

 

 


คนแอฟริกันต้องอดทนอดกับสภาพที่เกิดขึ้น จนกระทั่งในวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ.2498 นางพาร์คส์ แกนนำของสมาคมเพื่อการพัฒนาคนผิวสีแห่งสหรัฐฯ ได้ถูกคนขับรถประจำทางสั่งให้ให้เสียสละที่นั่งแก่คนอเมริกัน นางพาร์คส์ กลับปฏิเสธที่ลงจากรถโดยสารของชาวผิวขาวและยืนกรานว่าจะนั่งต่อไป เป็นเหตุให้เธอต้องถูกจับดำเนินคดี ก่อนจะได้รับการประกันตัวออกมา โดยใช้หลักทรัพย์ประกันตัวถึง 100 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 3,000 บาท)

 



ภายหลังนางพาร์คส์เข้าร่วมสมาคมพัฒนามอนต์โกเมอรี (Montgomery Improvement Association; MIA) ซึ่งเป็นองค์กรสนับสนุนการต่อต้านการเลือกปฏิบัติในมลรัฐอลาบามา สมาคมนี้ ได้กล่าวสรรเสริญในความกล้าหาญของเธอ ทำให้การต่อต้านการเลือกปฏิบัติได้ขยายไปอย่างกว้างขวางในสังคมอเมริกัน นับเป็นจุดเริ่มต้นของกระบวนการเพื่อสิทธิมนุษยชน (the civil rights movement) จนกระทั่งรัฐบาลท้องถิ่นต้องยกเลิกกฎหมายฉบับนี้
 

 


ประธานาธิบดี บุช ได้กล่าวสดุดีนางพาร์คส์ โดยกล่าวว่า เธอคือผู้จุดประกายกระบวนการเพื่อความเท่าเทียมกันและเสรีภาพของชาวอเมริกัน ผลจากวีรกรรมของเธอและกระบวนการต่อสู้ตลอดที่ผ่านมา ส่งผลให้สภาคองเกรสออกกฎหมายเพื่อแก้ไขการเลือกปฏิบัติระหว่างผิวสีรวมถึงสิทธิในการเลือกตั้งของคนผิวสีด้วย
 

 


นางพาร์คส์ เสียชีวิต เมื่ออายุ 92 ปี ถือเป็นบุคคลสำคัญคนหนึ่งในประวัติศาสตร์อเมริกา และกลายเป็นหญิงผิวสีคนแรกที่ได้รับการจารึกนามไว้ใน “อนุสาวรีย์พลเมือง” (Statuary Hall) สำหรับผู้ทำคุณความดีให้แก่ชาติ และโลกจะจดจำการต่อสู้ของนางพาร์คส์ตลอดไป

 

บิดาผู้ก่อตั้งประเทศสหรัฐอเมริกา คือ เจมส์ เมดิสัน

รัฐธรรมนูญ เป็นบทกฎหมายสูงสุด ที่จัดระเบียบการปกครองประเทศ ซึ่งถ้ากฎหมายฉบับใดขัดกับหลักที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมแล้ว ก็เป็นอันต้องตกไป ไม่สามารถนำมาบังคับใช้ได้
และถ้าพูดถึงรัฐธรรมนูญที่เก่าแก่ฉบับหนึ่งของโลกแล้ว ต้องยกให้ "สหรัฐอเมริกา" นี่แหละ ที่ได้รับการกล่าวขวัญถึงกันบ่อยที่สุด

เพราะนับตั้งแต่ก่อตั้งประเทศมากว่า 200 ปี ถึง ณ ปัจจุบันนี้ก็ยังใช้ฉบับเดิมอยู่ ไม่มีการก่อปฏิวัติรัฐประหารแล้วฉีกทิ้ง แตกต่างจากบางประเทศที่ใช้รัฐธรรมนูญฉบับแล้วฉบับเล่า เนื่องจากถูกปฏิวัติรัฐประหารแล้วก็ฉีกทิ้งกันอยู่ร่ำไป


โดยบุคคลผู้เปรียบเสมือนเป็น "บิดาแห่งรัฐธรรมนูญ" ของสหรัฐฯ นั้น เขายกให้กับรัฐบุรุษคนสำคัญของเมืองลุงแซมผู้หนึ่ง นั่นคือ..."เจมส์ เมดิสัน"


ผลงานสำคัญของเขานั้น ก็คือ เป็นผู้นำในการร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อเตรียมไว้ใช้ปกครองประเทศสหรัฐอเมริกา หลังจากได้รับเอกราชจากอังกฤษ จึงทำให้เขาได้รับการยกย่องเป็นอย่างมาก


นอกจากนี้ นายเจมส์ เมดิสัน ที่ต่อมาได้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 4 ของสหรัฐฯ ยังตระหนักถึงเรื่องสิทธิเสรีภาพต่างๆ ของประชาชนทุกหมู่เหล่าด้วย ถึงขนาดที่ว่า รัฐบาลที่มาจากเสียงส่วนใหญ่ของประชาชนนั้น จะต้องรับฟังความคิดเห็นของกลุ่มประชาชนที่เป็นเสียงส่วนน้อยด้วย หากรัฐบาลใดไม่รับฟังก็สุ่มเสี่ยงที่จะกลายเป็นทรราชย์ในที่สุด ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้เขาได้รับการยกย่องให้ "บิดาแห่งกฎหมายว่าด้วยสิทธิเสรีภาพของสหรัฐฯ" อีกตำแหน่ง


สำหรับประวัติโดยสังเขปของเจมส์ เมดิสันนั้น เกิดเมื่อวัน 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2294 ที่รัฐเวอร์จิเนีย ประเทศสหรัฐฯ เสียชีวิตเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2379 สิริรวมอายุ 85 ปี

ความคิดเห็น

วันที่: Thu May 09 17:19:01 ICT 2024

แสดงความคิดเห็น
All Comments: 0 Pages: 1/0

 <iframe width="560" height="315" src="https://www.youtube.com/embed/_jUHKM1YHcc" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>