Support
Arjan Pong
035 323239, 035 323240, 089 8129392
Your shopping cart
ดูตะกร้าสินค้าของคุณ
ไม่มีสินค้าในตะกร้าของคุณ

มันอยู่ที่ใจ

ArjanPong | 22-12-2555 | เปิดดู 2528 | ความคิดเห็น 0

 

          ฮือฮา! สื่อนอกตีข่าวหนุ่มอังกฤษสุดมุ่งมั่นลดความอ้วนกว่า 100 กก.

               หลังฝึกมวยไทยที่ “ภูเก็ต” แม้หมอเคยบอกจะตายใน 5 ปี

 

 

   

 

 

 

 

 

 



 


 

 

 เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - สื่อต่างประเทศรายงาน “เจมส์ เมสัน” หนุ่มเมืองผู้ดี สามารถลดความอ้วนได้กว่า 100 กิโลกรัม หลังเดินทางมาฝึก “มวยไทย” ที่จังหวัดภูเก็ต เมืองท่องเที่ยวชื่อดังทางภาคใต้ของไทยไม่ถึงปี

รายงานข่าวซึ่งมีการตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ “เดลีเมล์” ของอังกฤษ รวมถึงสื่ออีกหลายสำนักในยุโรป ระบุว่า เจมส์ เมสัน หนุ่มวัย 27 ปี จากแคว้นเอสเซกส์ ซึ่งเป็นโรคอ้วนขั้นร้ายแรง เดินทางมายังจังหวัดภูเก็ตเมื่อ 9 เดือนก่อน และตัดสินใจสมัครเรียนมวยไทยที่ค่าย “ไทเกอร์” เพื่อต้องการ
ลดความอ้วน หลังจากเมื่อปีที่แล้วแพทย์ที่อังกฤษลงความเห็นว่า เมสันที่มีน้ำหนักถึง 250 กิโลกรัมจะต้องทนทุกข์กับปัญหาสุขภาพร้ายแรงหลายอย่าง และจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกิน 5 ปี

รายงานข่าวระบุว่า เมสันตั้งใจฝึกมวยไทยอย่างจริงจังเพื่อรักษาชีวิตไม่ให้เป็นไปตามคำพูดหมอ สามารถ
ลดความอ้วนจนเหลือ 147 กิโลกรัม ภายในเวลาเพียง 9 เดือน

เมสันซึ่งเคยประกอบอาชีพเป็นเซลส์ขายรถยนต์ระบุ น้ำหนักตัวของเขาเป็นผลมาจากวิถีชีวิตแบบไม่ใส่ใจสุขภาพสมัยอยู่ที่อังกฤษ โดยเขามักรับประทานอาหารเต็มไปด้วยไขมัน ของทอด และรับประทานพร่ำเพรื่อไม่เป็นเวลา จนส่งผลให้เขามีปัญหาสุขภาพหลายอย่าง รวมถึงอาการหายใจติดขัด และขาบวม

หนุ่มเมืองผู้ดีรายนี้ยอมรับว่า ในวินาทีที่เขาเริ่มตระหนักว่าตนเองอาจมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน เขาก็เริ่มค้นหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ต จนได้รู้จักกับค่ายมวยไทย “ไทเกอร์” ที่จังหวัดภูเก็ต จึงตัดสินใจลาออกจากงานประจำและเดินทางมาประเทศไทยทันที ทั้งที่สภาพร่างกายในขณะนั้นย่ำแย่ถึงขั้นแทบก้าวขาเดินไม่ได้

อย่างไรก็ดี กว่าที่เมสันจะสามารถ
ลดความอ้วน
ได้ เขาต้องเผชิญอุปสรรคหลายประการ รวมถึงการล้มป่วยจากการถูกเชื้อจุลินทรีย์กัดกินร่างกาย, การต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลของไทยนานกว่า 3 เดือน และต้องกลับไปพักฟื้นร่างกายที่อังกฤษกว่าครึ่งปี ก่อนจะได้กลับมาฝึกมวยไทยอย่างจริงจังที่ภูเก็ต

หลังจากเข้ามาอยู่ที่ค่ายมวยไทยดังกล่าว เมสันต้องออกกำลังกายด้วยการวิ่งเป็นระยะทางถึง 10 กิโลเมตรทุกวันในตอนเช้า และต้องรับประทานข้าวซ้อมมือ รวมถึงอาหารที่เน้นผักและผลไม้เป็นหลัก ตลอดจนต้องฝึกการต่อสู้ด้วยมวยไทยนาน 3-4 ชั่วโมงต่อวัน

ด้านวิลล์ เอลเลียต ผู้อำนวยการของค่ายไทเกอร์ ออกมายอมรับว่า ความมุ่งมั่นและผลสำเร็จของเมสันถือเป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจอย่างเหลือเชื่อ และเรื่องราวของเมสันยังถือเป็นแรงบันดาลใจให้กับอีกหลายคนในการลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงชีวิต

รายงานข่าวระบุว่า พ่อแม่และเพื่อนๆ ของเมสันต่างตกตะลึงกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับเขาเมื่อเขากลับไปเยี่ยมบ้านที่อังกฤษ โดยหลายคนถึงขั้นเดินสวนโดยจำไม่ได้ว่าเขาคือใคร

ทั้งนี้ เมสันซึ่งเพิ่งเดินทางกลับไปฉลองคริสต์มาสที่บ้านเกิด ประกาศจะกลับมายังประเทศไทยอีกเพื่อปั่นจักรยานระยะทางไกลหลายร้อยกิโลเมตรจากภูเก็ตมุ่งหน้าเข้าสู่กรุงเทพฯ ในเดือนมกราคมปีหน้า เพื่อระดมเงินบริจาคช่วยเหลือเด็กพิการในประเทศไทย

“ผมยังมีชีวิตอยู่ได้ก็เพราะมวยไทย และกำลังใจมหาศาลที่ผมได้รับจากคนไทยหลายคน ผมคิดว่าถึงเวลาแล้วที่ผมต้องทำอะไรบางอย่างให้แก่แผ่นดินไทยบ้าง” เมสันกล่าว

 

 

                                                             พายุสุริยะ

 

ปรากฏการณ์ "พายุสุริยะ" คือปรากฎการณ์ที่ทำให้ดวงอาทิตย์ส่งพลังงานประจุไฟฟ้าออกมายังโลกและดาวเคราะห์ดวงอื่น ๆ ซึ่งประจุไฟฟ้าที่ ส่งออกมาคือสิ่งที่มีต่อการเปลี่ยนแปลงของ "ภูมิอากาศ" และ "ระบบธรณีวิทยา" บนโลก
แล้วปรากฏการณ์พายุสุริยะเกิดขึ้นได้อย่างไร !
การจะเกิดพายุสุริยะได้ต้องมี 3 องค์ประกอบ คือ
1) ดวงอาทิตย์เคลื่อนที่ด้วยความเร็ว
2) เกิดปรากฏการณ์เรียงตัวกันเป็นระนาบในทางช้างเผือก และ
3) มีรังสีคอสมิก

จากข้อมูลขององค์การนาซ่าแห่งสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นเจ้าพ่อใหญ่แห่งวงการอวกาศโลก ชี้แจงว่าทุกๆ 11 ปี ขั้วแม่เหล็กของดวงอาทิตย์จะกลับหัวกลับหางจากเหนือเป็นใต้ เป็นเหตุให้ "จุดดับ" บนผิวดวงอาทิตย์ออกฤทธิ์เปล่งพลังงานมหาศาลออกมาในอวกาศในลักษณะคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าก่อให้เกิดรังสีต่างๆได้แก่ รังสีแกมม่า และรังสีเอ็กเรย์ ซึ่งมีผลต่อโลกในสามระดับ กล่าวคือ

1.ระดับรุนแรงที่สุด (X-Class) ทำให้คลื่นวิทยุสื่อสารล้มเหลวทั้งโลกเป็นเวลานาน อุปกรณ์ต่างๆที่ต้องใช้การติดต่อผ่านดาวเทียมและระบบคอมพิวเตอร์จะเข้าสู่ภาวะ Blackout เรียกง่ายๆว่าระบบอิเล็กโทรนิคทั้งหลายเป็นใบ้สิ้นเชิง เราๆท่านๆที่ฝากวิถีชีวิตไว้กับโลก "ออนไลน์" คงต้องทำใจกลับไปสู่ยุคไปรษณีย์จดหมายธรรมดา นักบินมือหนึ่งที่เคยชินกับการนำร่องโดยระบบคอมพิวเตอร์และจีพีเอส ก็คงต้องหันกลับมาบังคับเครื่องแบบ "ตาดู หูฟัง" ท่านที่นิยมทำธุรกรรมออนไลน์คงต้องกลับมาสู่ระบบส่งดร๊าฟทางไปรษณีย์ และที่แน่ๆการประมูลโครงก่อสร้างระดับบิ๊กๆมหาโปรเจคหมื่นล้านที่กระทรวงการคลังคุยนักคุยหนาว่า "อี อ๊อกชั่น" คงต้องกลับมาใช้วิธียื่นซองเหมือนเดิม ส่วนบรรดาผู้มีรสนิยมไฮโซชอบเล่น 3G 4G และ Facebook คงต้องระงับความอยากไว้ชั่วคราว

2.ระดับปานกลาง (m-class) เป็นอาการเดียวกับข้อแรกแต่เกิดแบบชั่วคราว เราๆท่านๆที่เป็นนักออนไลน์ และฝากชีวิตไว้กับสื่ออิเลคโทรนิค ต้องยุติความทันสมัยชั่วคราวคงไม่ถึงกับลงแดง

3. ระดับอ่อน (c-class) ไม่มีผลอะไรเลย แบบที่วัยรุ่นเรียกว่า "ชิว ชิว"

ขณะเดียวกัน เมื่อปี 2551 องค์การนาซาได้ตรวจพบ "รูรั่ว" ในสนามแม่เหล็กโลกที่มีขนาดใหญ่กว่าที่เคยคาดไว้ และยังพบชั้นบรรยากาศของโลกที่หดตัวลงมากเป็นประวัติการณ์ ซึ่งทั้ง 2 สิ่งนี้เปรียบเสมือนสิ่งที่เป็นเกราะป้องกันรังสีจากนอกโลกไว้
ประเด็นคือยิ่งปริมาณ "รังสีคอสมิก" เข้ามามากเท่าไหร่ จะเกิดความแปรปรวนของภูมิอากาศในโลก จะมีน้ำก่อตัวมากขึ้น ที่น่าเป็นห่วงคือเมื่อปี 1978 มีนักวิทยาศาสตร์ชาวฝรั่งเศสท่านหนึ่งเคยคาดการณ์ล่วงหน้าว่า ในช่วงเร็ว ๆ นี้ระบบสุริยะที่มีดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลาง กำลังจะเคลื่อนตัวเข้าสู่กลุ่มก๊าซขนาดใหญ่ในอวกาศ ทำให้มี "รังสีคอสมิก" เข้ามาในระบบสุริยะมากขึ้น และส่งผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศบนดาวเคราะห์ทุกดวงในระบบสุริยะ

สมมติฐานนี้ได้ถูกคอนเฟิร์มแล้ว เมื่อปี 2009 จากข้อมูลของดาวเทียม voyager 1 และ 2 ของนาซาที่โคจรอยู่บริเวณขอบของระบบสุริยะ จึงตั้งข้อสังเกตว่า หลายประเทศ ทั่วโลกที่กำลังมีความเคลื่อนไหว อาทิ พม่าย้ายเมืองหลวงไปที่เนปิเดา ห่างชาย ฝั่งทะเล 400 กิโลเมตร เนเธอร์แลนด์สร้างบ้านลอยน้ำ อเมริกากำลังสร้างเมืองลอยน้ำ นอรเวย์ย้ายฐานทัพทหารลงใต้ดิน รัสเซียกำลัง สร้างฐานทัพและหลุมหลบภัยใต้ดิน 5 พันแห่ง ฯลฯ จะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรือไม่ !

สัญญาณบอกเหตุ 1-3 วัน
ย้อนกลับมาดูผลศึกษาเหตุการณ์ในอดีต พบว่าเมื่อปี 1859 พายุสุริยะเคยเกิดขึ้นทำให้ระบบสายส่งโทรเลขขัดข้อง มีเจ้าหน้าที่ถูกไฟฟ้าชอร์ตเพราะพลังงานเหล่านี้ถูกส่งผ่านจากชั้นบรรยากาศ

ถัดมายุคปัจจุบัน เริ่มจากวิกฤตอุทกภัยในภาคกลางของประเทศไทยเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ปรากฏว่าเมื่อ วันที่ 22 กันยายน 2554 ได้เกิดพายุสุริยะขึ้น เป็นช่วงที่ดวงอาทิตย์มีการระเบิดอย่างรุนแรง โดยหน่วยงาน spaceweather.com ของสหรัฐทำนายว่า ในวันที่ 26 กันยายน จะเกิดประจุไฟฟ้ามาตกกระทบที่ขอบโลก ด้านนอก และตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน ปริมาณน้ำก็เพิ่มขึ้นมากและเกิดน้ำท่วมต่อมา และในวันเดียวกันที่ประเทศสเปนยังมีภูเขาไฟระเบิดอีกด้วย

ล่าสุดกับ "น้ำท่วมภาคใต้" ปรากฏว่าตรวจพบพายุสุริยะเมื่อ 26 ธันวาคม จากนั้น 28 ธันวาคม 2554 เกิดฝนตกหนัก และวันที่ 30-31 ธันวาคม 2554 น้ำก็ท่วม ส่วนการเกิดคลื่นสึนามิที่ประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2554 ปีที่ผ่านมา ก็ตรวจพบดวงอาทิตย์มีการระเบิดอย่างรุนแรง ทำให้ "จุดดับ" บนดวงอาทิตย์เกิดการหดหรือขยายตัว จึงมีการตั้งข้อสังเกต หากจุดดับบนดวงอาทิตย์หดหรือขยายตัว จะสัมพันธ์กับการเกิดแผ่นดินไหวบนโลก นั่นหมายความว่า ก่อนจะเกิดปรากฏการณ์ภัยพิบัติธรรมชาติ จะมีพายุสุริยะหรือการระเบิดของดวงอาทิตย์เกิดขึ้นก่อน เฉลี่ย 1-3 วัน

ระหว่างปี 2012-2015 ยังมีโอกาสที่ดวงอาทิตย์จะเกิดปฏิกิริยาพายุสุริยะได้ตลอด แต่ ไม่ขอฟันธงว่า ภัยพิบัติธรรมชาติจะเกิดขึ้นในเมืองไทยหรือประเทศอื่น แต่เชื่อว่าแนวโน้มสภาพอากาศ แปรปรวน ปัญหาน้ำท่วมยังคงมีอยู่ และมีโอกาสจะรุนแรงกว่าปีที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม หลังจากปี 2015 ความถี่การเกิดพายุสุริยะจะลดลง จนกว่าจะผ่านไปอีก 11 ปี ที่วงรอบการเกิดพายุสุริยะถี่จะกลับมา ระหว่างนี้ คนไทยจึงไม่ควรประมาทกับภัยธรรมชาติที่อาจจะเกิดขึ้น "สำหรับประเทศไทย ปัญหาน้ำท่วม บอกไม่ได้ ว่าเกิดที่ไหน รุนแรงเท่าใด แต่ความเสี่ยงยังมีอยู่ ช่วงระหว่างปี 2012-2015 เมื่อคำนวณจากปรากฏการณ์พายุสุริยะ"

 

 

 

ส.ส.นราฯจวกรัฐอ่อนแอ ปล่อยเผา อบต.กลางวันแสกๆ

 
 
Pic_314911

 

 

 

'เจะอามิง' จวกยับอำนาจรัฐอ่อนแอ ปล่อยให้โจรใต้บุกเผา อบต.บาเจาะ วอดทั้งหลังกลางวันแสกๆ ปัญหาใหญ่ที่ควรแก้เพื่อประชาชน แต่ดันให้ความสำคัญกับการแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อคนๆ เดียวมากกว่า...

 

วันที่ 21 ธ.ค.55 นายเจ๊ะอามิง โต๊ะตาหยง ส.ส.จังหวัดนราธิวาส พรรค ปชป. ไปตรวจที่เกิดเหตุและดูซากอาคาร อบต.บาเจาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ที่ถูกโจรใต้บุกเผาวอดทั้งหลังกลางวันแสกๆ เหตุเกิดเมื่อวานนี้ พร้อมกล่าวว่า เหตุที่โจรใต้ 7 คน บุกเข้าไปข่มขู่ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ อบต. 13 คน และถามหาข้าราชการชาวไทยพุทธ คล้ายต้องการฆ่าทิ้ง โชคดีที่ลาหยุดไม่มาทำงาน จากนั้นคนร้ายได้ทำการเผาอาคาร อบต.วอดทั้งหลังตอนเที่ยงวัน แสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอของอำนาจรัฐ และเมื่อย้อนกลับไปถึงเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ในระยะนี้ เป็นการสะท้อนถึงความอ่อนแอที่สุดของการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่

 

แม้ว่าพฤติกรรมดังกล่าวจะเกิดจากสถานการณ์ความไม่สงบ หรือเป็นการทำลายหลักฐานของทางราชการเพื่อผลประโยชน์ของบุคคลบางกลุ่มที่ต้องรอการพิสูจน์ แต่จากเหตุที่เกิดขึ้นในเวลากลางวัน ในขณะที่หน่วยงานฝ่ายความมั่นคงก็ยังคงปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่ แต่เหตุใดจึงปล่อยให้เกิดเหตุร้ายแรงขึ้นได้ และจากการลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบเหตุการณ์ดังกล่าวชาวบ้านได้แสดงความหวาดกลัวจนไม่สามารถดำเนินชีวิตให้เป็นไปตามปกติสุข เนื่องจากไม่มั่นใจว่าเหตุร้ายจากกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบจะเกิดขึ้นกับตนเองเมื่อใด

 

ทั้งนี้นายเจ๊ะอามิง โต๊ะตาหยง เชื่อว่าความรุนแรงของสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในขณะนี้ กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบพยายามท้าทายอำนาจรัฐด้วยวิธีการต่างๆ เนื่องจากเห็นว่ากลไกของรัฐไม่ได้มีความพร้อมในการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างแท้จริง อีกทั้งยังหวังให้มวลชนหวาดกลัวจนไม่กล้าให้ความร่วมมือกับภาครัฐ ซึ่งเหตุที่เกิดขึ้นจะสร้างบาดแผลที่รุนแรงในระยะยาว หากภาครัฐโดยเฉพาะรัฐบาลไม่พยายามขับเคลื่อนนโยบายเชิงรุกในการแก้ปัญหาสถานการณ์ความไม่สงบ ทั้งงานในเชิงจิตวิทยามวลชนเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน รวมถึงการตรวจสอบเชิงลึกว่าขณะนี้เราต่อสู้อยู่กับใคร เพื่อผลประโยชน์อะไร

 

การควบคุมสถานการณ์ความไม่สงบไม่ให้มีการขยายวงกว้างจากการทำร้ายเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ประชาชนผู้บริสุทธิ์ มาถึงข้าราชการครู และขณะนี้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นซึ่งถือว่าเป็นหน่วยงานที่ใกล้ชิดกับประชาชนมากที่สุดก็ยังถูกรังแก ซึ่งในขณะที่ประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มีสภาพจิตใจย่ำแย่อย่างหนักจากความหวาดกลัวไฟใต้ แต่รัฐบาลกลับเอาจริงเอาจังกับการทำประชามติ เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อผลประโยชน์ให้กับบุคคลเพียงคนเดียว สิ่งที่ดำเนินการอยู่นี้เรียกว่าเป็นความชอบธรรมหรือไม่ในการบริหารประเทศ ที่ต้องดูแลทุกข์สุขของประชาชนทั้งประเทศอย่างทั่วถึงเป็นหลัก.

ความคิดเห็น

วันที่: Sat May 18 20:27:25 ICT 2024

แสดงความคิดเห็น
All Comments: 0 Pages: 1/0

 <iframe width="560" height="315" src="https://www.youtube.com/embed/_jUHKM1YHcc" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>