035 323239, 035 323240, 089 8129392
เหตุที่พระมหาอุปราชา ขอวัดใจกับพระนเรศวรเป็นครั้งสุดท้าย!!
เช้าของวันจันทร์ แรม ๒ ค่ำ เดือนยี่ ปีมะโรง พ.ศ. 2135 สมเด็จพระนเรศวร ทรงช้าง
นามว่า เจ้าพระยาไชยานุภาพ กระทำการยุทธหัตถีกับพระมหา
นามว่า พลายพัทธกอ ที่บริเวณหนองสาหร่าย
พระมหาอุปราชา จากหนังสือพงศาวดารของพม่า
นภัสกร มิตรเอม ในบท สมเด็จพระมหาอุปราชา
พันโทวันชนะ สวัสดี รับบทเป็นสมเด็จพระนเรศวรมห
*** ข่าวพลังภูผา..***
เหตุที่พระมหาอุปราชา
ขอวัดใจกับพระนเรศวรเป็นครั้งสุดท้าย!!
www.arjanpong.com
#ยุทธหัตถี #หงสาวดี #ธรณีสันฑะฆาต
ตั้งแต่ต้นจนปลายว่าพระเจ้าหงสาวดีนันทบุเรงให้มาตีเมืองไทยไม่สมประสงค์หลายครั้งก็ทรงพระวิตก เกรงเหล่าประเทศราชและไพร่บ้านพลเมืองจะพากันประมาทหมิ่นพระเดชานุภาพ
ครั้นพระมหาอุปราชาแตกทัพกลับไปก็ยิ่งทรงโทมนัส ด้วยพระมหาอุปราชาเป็นผู้จะรับราชทายาทสืบพระองค์ต่อไป มาซ้ำเสียเกียรติยศลงอีกองค์หนึ่ง จึงเห็นว่าอย่างไรๆ จำจะต้องปราบปรามเมืองไทยลงให้จงได้ ทำนองในชั้นนี้จะได้ปลอบโยนพระมหาอุปราชาให้รับอาสามาตีเมืองไทยแก้ตัวใหม่ แต่พระมหาอุปราชามีความครั่นคร้ามทูลว่าเคราะห์ยังร้าย ดังกล่าวในหนังสือพระราชพงศาวดาร เป็นเหตุให้พระเจ้าหงสาวดีขัดเคือง ปรากฏในหนังสือพงศาวดารพม่าว่า
วันหนึ่งมีรับสั่งให้หาเจ้านายและข้าราชการผู้ใหญ่มาประชุมพร้อมกันที่ในท้องพระโรง แล้วพระเจ้าหงสาวดีตรัสตตัดพ้อว่า ทุกวันนี้ทั้งเจ้าทั้งขุนนางช่างไม่มีใครช่วยเอาใจเจ็บร้อนในเรื่องเมืองไทยบ้างเลย พระนเรศวรครองกรุงศรีอยุธยามีรี้พลเพียงสักหยิบมือเดียว ก็ไม่มีใครจะกล้าไปรบพุ่ง นี่เมืองหงสาวดีจะหมดสิ้นคนดีเสียแล้วหรืออย่างไร
ขณะนั้นขุนนางคนหนึ่งชื่อว่าพระยาลอ ทูลพระเจ้าหงสาวดีว่ากรุงศรีอยุธยานั้นสำคัญที่พระนเรศวรองค์เดียว เพราะกำลังหนุ่มรบพุ่งเข้มแข็ง ทั้งบังคับบัญชาผู้คนก็ สิทธิ์ขาด รี้พลทั้งนายไพร่กลัวพระนเรศวรเสียยิ่งกว่ากลัวความตาย เจ้าให้รบพุ่งอย่างไรก็ไม่คิดแก่ชีวิตด้วยกันทั้งนั้น คนน้อยจึงเหมือนกับคนมาก เจ้านายในกรุงหงสาวดีรุ่นเดียวกับพระนเรศวรที่ทำสงครามเข้มแข็งเคยชนะทัพศึกเหมือนอย่างพระนเรศวรก็มีหลายองค์ ถ้าจัดกองทัพให้เป็นหลายทัพแล้วเลือกเหล่าเจ้านายที่เข้มแข็งการศึกให้เป็นนายทัพ ยกไปช่วยกันรบพระนเรศวรก็เห็นจะเอาชัยชนะได้ ถ้าชนะพระนเรศวรแล้วกรุงศรีอยุธยาก็เหมือนอยู่ในเงื้อมมือคงตีได้โดยง่าย
พระเจ้าหงสาวดีได้ทรงฟังพระยาลอทูลแนะนำให้แต่งเจ้านายไปทำศึกประชันกันก็เห็นชอบด้วย แต่เกรงว่าถ้าไม่ให้พระมหาอุปราชาไปด้วยคนทั้งหลายก็จะพากันดูหมิ่นรัชทายาทยิ่งขึ้น พระเจ้าหงสาวดีคงตรัสตอบตามทำนองความที่กล่าวในหนังสือพระราชพงศาวดารว่า
ที่พระยาลอว่านั้นก็ดีอยู่ แต่ตัวของข้าเป็นคนอาภัพไม่เหมือนพระมหาธรรมราชาธิราช นั้นเขามีลูกพ่อไม่ต้องพักใช้ให้ไปรบพุ่ง มีแต่กลับจะต้องห้ามเสียอีก แต่ตัวข้าไม่รู้ว่าจะใช้ใคร
พระมหาอุปราชาได้ยินพระราชบิดาตรัสบริภาษเช่นนั้นก็อัปยศอดสู ก็กราบทูลขอรับอาสามาตีเมืองไทยแก้ตัวใหม่....
Credit : สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ
ความคิดเห็น
วันที่: Mon Apr 29 04:10:54 ICT 2024