Support
Arjan Pong
035 323239, 035 323240, 089 8129392
Your shopping cart
ดูตะกร้าสินค้าของคุณ
ไม่มีสินค้าในตะกร้าของคุณ

สตรีที่ตกเป็นเหยื่อของการปฎิวัติผลัดเเผ่นดิน!!

ArjanPong | 18-01-2562 | เปิดดู 1559 | ความคิดเห็น 0

 

กรมหลวงโยธาเทพ ภายหลังออกพระนามว่า สมเด็จพระรูปเจ้า มีพระนามเดิมว่า

พระสุดาเทวี หรือ เจ้าฟ้าสุดาวดี (พ.ศ. 2199—2278) เป็นพระราชธิดาใน

สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ซึ่งประสูติแต่พระมเหสีฝ่ายขวา พระองค์มีบทบาท

ด้านการค้าค่อนข้างสูงในรัชสมัยของพระราชบิดา และได้รับพระราชทานให้ดำรง

ระอิสริยยศเป็น "กรมหลวงโยธาเทพ" และคงมีพระอำนาจสูงมาก

 

 

พระเมรุพระศพเจ้าฟ้าสุดาวดี กรมหลวงโยธาเทพ

 

 

ราชทูตไทยที่ถูกส่งไปเข้าเฝ้าพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 เมื่อ พ.ศ. 2229 

 

 

วัดเตว็ด พระนครศรีอยุธยา มีหน้าเป็นลวดลายตะวันตกอันชัดเจน เป็นงานหลุยส์

คำว่าหลุยส์ เป็นศัพท์ตลาด มีความหมายว่างานในช่วงเวลาหลุยส์ที่ 14,15,16 ซึ่งถือว่า

เป็นยุคทองของฝรั่งเศสเป็นงานเรียกว่า"ร้อคโคโค่"ในยุคนั้นสมัยนั้น อจ. นณ ปากน้ำ

วิเคราะห์ไว้ว่าที่นี่น่าเป็นที่กรมหลวงโยธาเทพกับกรมหลวงโยธาทิพย์ มเหสีซ้ายขวาของ

พระเจ้าบรมโกศ ที่ลามาบวชชีอยู่ใกล้วัดพุทไธสวรรย์

 

*** สตรีที่ตกเป็นเหยื่อของการปฎิวัติผลัดเเผ่นดิน!!...***
www.arjanpong.com
#กรมหลวงโยธาเทพ #พระนารายณ์ #อยุธยา

กรมหลวงโยธาเทพ หรือ เจ้าฟ้าสุดาวดี ภายหลังออกพระนามว่า สมเด็จพระรูปเจ้ากรมหลวงโยธาเทพ (พ.ศ. 2199—2278) เป็นพระราชธิดาเพียงพระองค์เดียวในสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ซึ่งประสูติแต่เจ้าฟ้าสุริยงรัศมีพระอัครมเหสี พระองค์มีบทบาทด้านการค้าค่อนข้างสูงในรัชสมัยของพระราชบิดา และได้รับพระราชทานให้ดำรงพระอิสริยยศเป็นเป็น "กรมหลวงโยธาเทพ" และคงมีพระอำนาจสูงมาก โดยจากหลักฐานของลาลูแบร์ได้กล่าวว่าพระองค์ "...ดำรงอิสริยยศเยี่ยงพระมเหสี..."และบางครั้งชาวตะวันตกก็เรียกแทนพระองค์ว่าเป็น "ราชินี"

พระองค์มีบทบาทอย่างสูงเนื่องจากทรงมีส่วนริเริ่มการปฏิวัติผลัดแผ่นดิน ทั้งยังมีความสัมพันธ์อันดีกับแพทย์หลวงชาวฝรั่งเศสที่ชื่อ ดาเนียล บรูชบูรด์ ผู้ที่ถูกกล่าวโทษว่าวางยาลอบปลงพระชนม์สมเด็จพระนารายณ์ แต่ท้ายที่สุดพระองค์ก็ตกเป็นเหยื่อของเหตุการณ์นี้เสียเองทั้งที่ไม่เต็มพระทัยนัก ด้วยการเป็นพระมเหสีฝ่ายซ้ายของสมเด็จพระเพทราชา แต่หลังสิ้นรัชกาลสมเด็จพระเพทราชา พระองค์และกรมหลวงโยธาทิพ(น้องสาวพระนารายณ์) ได้ถวายบังคมออกจากพระบรมมหาราชวังมาประทับและดำรงพระชนม์อย่างสงบด้วยการผนวชเป็นรูปชี แต่นั้นเป็นต้นมาชาววังได้ออกพระนามว่า "สมเด็จพระรูปเจ้า"

แต่เดิมพระองค์ประทับอยู่ในพระตำหนักคูหาสวรรค์หรือพระตำหนักตึกภายในพระที่นั่งบรรยงก์รัตนาสน์ พระราชวังหลวงอยุธยา หลังจากสมเด็จพระเพทราชาเสด็จสวรรคต พระองค์และเจ้าฟ้าตรัสน้อยทรงย้ายไปประทับอยู่ ณ พระตำหนักใกล้พระอารามวัดพุทไธศวรรย์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเชื่อว่าประทับดังกล่าวปัจจุบันคือวัดเตว็ด เนื่องจากเป็นโบราณสถานที่ตั้งอยู่ไม่ไกลไปจากวัดพุทไธศวรรย์[

ส่วนพระตำหนักคูหาสวรรค์ได้กลายเป็นที่ประทับของพระมเหสีองค์อื่น ๆ ของราชวงศ์บ้านพลูหลวงต่อไป พระองค์ทรงดำรงพระชนมชีพอย่างสงบสุข จนกระทั่งเสด็จสวรรคตเมื่อปี พ.ศ. 2278 สิริพระชนมายุได้ 79 พรรษา ในแผ่นดินสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ขณะที่ผนวชเป็นรูปชี โดยในพงศาวดารกล่าวว่าพระองค์ได้เสด็จ "นิพพาน" ความว่า

"วัน ๒ ๕ฯ ๖ จุลศักราช ๑๐๙๗ ปีเถาะสัพศก เพลาย่ำฆ้องค่ำแล้ว ๓ บาท สมเด็จพระรูปเจ้าเสด็จนิพพาน ณ วัดพุทไธสวรรย์ฯ [สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ] เสด็จลงไป ณ พระศพ จึงทรงฯ สั่งว่าให้เชิญสมเด็จพระบรมศพขึ้นไปไว้ ณ พระที่นั่งไพชยนต์มหาปราสาทนั้นแล..."

การนี้สมเด็จพระเจ้าบรมโกศโปรดเกล้าฯ ให้ทำพระเมรุมาศ ณ วัดพุทไธศวรรย์ แล้วเชิญพระโกศขึ้นพระยานุมาศแห่มาเข้าพระเมรุกรมหลวงโยธาเทพ..........

Credit : https://th.wikipedia.org/

 

ความคิดเห็น

วันที่: Mon Apr 29 10:54:11 ICT 2024

แสดงความคิดเห็น
All Comments: 0 Pages: 1/0

 <iframe width="560" height="315" src="https://www.youtube.com/embed/_jUHKM1YHcc" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>