Support
Arjan Pong
035 323239, 035 323240, 089 8129392
Your shopping cart
ดูตะกร้าสินค้าของคุณ
ไม่มีสินค้าในตะกร้าของคุณ

ดุยังกะเสือ!! กลัวกันทั้งวัง ก็ยังโดนดุ้นเเสมตีเสียจนเลือดอาบ!!

ArjanPong | 24-01-2562 | เปิดดู 1436 | ความคิดเห็น 0

 

           

    เจ้าจอมแว่น หรือ เจ้าคุณจอมแว่น พระนามเดิมว่า เจ้านางคำแว่น

  หรือ อัญญานางคำแว่น เป็นพระบรมวงศานุวงศ์จากนครเวียงจันทน์

 

          

                    ท่านผู้หญิงนาค (สมเด็จพระศรีสุริเยนทรามาตย์)

 

           

               พระตำหนักแดง ปัจจุบันอยู่ในพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ พระนคร

 

           

    ประชาชนได้สร้างพระธาตุบรรจุพระอัฐิของพระองค์ไว้ ณ วัดนางเขียวค้อม เมืองพานพร้าว

          เรียกว่า ธาตุนางเขียวค้อม ริมแม่น้ำโขงในเขต อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย.

 

*** ข่าวพลังภูผา..***
ดุยังกะเสือ!! กลัวกันทั้งวัง ก็ยังโดนดุ้นเเสมตีเสียจนเลือดอาบ!!
www.arjanpong.com
#คุณเสือ #เจ้าจอมเเว่น #ท่านผู้หญิงนาค 
เจ้าจอมแว่น หรือ เจ้าคุณจอมแว่น พระนามเดิมว่า เจ้านางคำแว่น หรือ อัญญานางคำแว่น บ้างออกพระนามว่า เจ้านางบัวตอง ชาวลาวและชาวอีสานนิยมออกคำลำลองพระนามว่า เจ้านางเขียวค้อม เป็นพระบรมวงศานุวงศ์จากนครเวียงจันทน์ อดีตนางพระกำนัลในพระอัครมเหสีของสมเด็จพระเจ้าสิริบุญสารแห่งเวียงจันทน์

ต่อมาได้รับการสถาปนาเป็นพระสนมเอกในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (รัชกาลที่ 1) ผู้รับใช้เบื้องพระยุคลบาทอย่างใกล้ชิด ตั้งแต่เมื่อครั้งรัชสมัยสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีจนผลัดราชวงศ์ใหม่ เจ้าจอมแว่นเป็นพระสนมเอกที่มีอิทธิพลต่อราชสำนักสยามฝ่ายในอย่างสูง จนชาววังได้ยกย่องให้เป็น เจ้าคุณข้างใน และถือเป็นเจ้าคุณคนแรกในพระราชวงศ์จักรี อีกทั้งยังเป็นเจ้านายชั้นผู้ใหญ่ที่คอยอภิบาลสมเด็จพระเจ้าลูกเธอที่ยังทรงพระเยาว์อย่างเข้มงวด จนได้รับฉายาว่า คุณเสือ

เดิมเจ้าจอมแว่นอาศัยอยู่กับพระบิดาที่นครเวียงจันทน์ ตั้งแต่เมื่อครั้งพระบิดาทำราชการดำรงบรรดาศักดิ์ที่ เพียเมืองแพน กรมการเมืองธุรคมหงส์สถิต ในแขวงนครเวียงจันทน์ ขึ้นแก่ราชอาณาจักรศรีสัตนาคนหุตล้านช้างเวียงจันทน์ ในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชที่ 3 (สมเด็จพระเจ้าสิริบุญสาร)

ต่อมาพระบิดาได้เลื่อนเป็นเจ้าเมืองรัตนนคร จากนั้นพระนางได้ตามเสด็จพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (รัชกาลที่ 1) มาสู่กรุงธนบุรีตั้งแต่ พ.ศ. 2322 เมื่อครั้งทรงเป็นแม่ทัพยกพลไปทำลายเมืองนครเวียงจันทน์ เมื่อ พ.ศ. 2321และกวาดต้อนครัวชาวลาว พระราชบุตร พระราชธิดา พระบรมวงศานุวงศ์ ขุนนางท้าวเพีย ทรัพย์สมบัติสิ่งของเครื่องศาสตราวุธและช้างม้าเป็นอันมาก พร้อมทั้งอัญเชิญพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกต) พระบาง และพระพุทธรูปมีค่าจำนวนมากกลับมายังกรุงธนบุรี ขณะที่พระสวามียังดำรงบรรดาศักดิ์ขุนนางเป็นเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก ในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้ากรุงธน

หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช บันทึกไว้ในหนังสือ โครงกระดูกในตู้ ว่า

"...เมื่อเจ้าจอมแว่นมาอยู่ในทำเนียบสมเด็จเจ้าพระยาฯที่พระตำหนักเเดงแล้ว ท่านผู้หญิง (สมเด็จพระอมรินทราบรมราชินี) ก็หึงหวงมาก มีปากเสียงกับสมเด็จเจ้าพระยาฯ ด้วยเรื่องคุณแว่นนี้อยู่บ่อยๆ จนคืนวันหนึ่ง ท่านผู้หญิงถือดุ้นแสมไปยืนดักคอยอยู่ในที่มืด บนนอกชานเรือน พอคุณแว่นเดินออกมาจากเรือนหลังใหญ่ อันเป็นที่อยู่ของสมเด็จเจ้าพระยาฯ ท่านผู้หญิงก็เอาดุ้นแสมตีหัว คุณแว่นก็ร้องขึ้นว่า เจ้าคุณขา คุณหญิงตีหัวดิฉัน สมเด็จเจ้าพระยาฯ ก็โกรธยิ่งนัก ฉวยได้ดาบออกจากเรือนจะมาฟันท่านผู้หญิง ฝ่ายท่านผู้หญิงก็วิ่งเข้าเรือนที่ท่านอยู่ แล้วปิดประตูลั่นดาลไว้ สมเด็จเจ้าพระยาฯ ก็เอาดาบฟันประตูอยู่โครมๆ...

ที่เหตุการณ์เป็นเช่นนี้เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก (รัชกาลที่ 1) ยังมิได้ปราบดาภิเษกนั้น ทรงดำรงตำแหน่งเป็นสมเด็จเจ้าพระยา สมเด็จเจ้าพระยาทรงเสน่ห์หาในตัวอาชญานางแว่นมาก ด้วยหน้าตางามสวยหมดจดและเป็นเชื้อสายลาวพุงขาว แต่ทรงเกรงในท่านผู้หญิงนาค (สมเด็จพระอมรินทรามาตย์) ที่มีปากเสียงกับสมเด็จเจ้าพระยาด้วยเรื่องของบาทบริจาริกาและหญิงบำเรออยู่บ่อยๆ

สมเด็จเจ้าพระยาจึงได้แต่ให้อาชญานางแว่นดูแลงานบ้านงานเรือนทั่วไป รอเวลาให้ท่านผู้หญิงนาคไปประทับในพระราชวังเป็นเพื่อนบุตรสาวที่เป็นสนมเอกในพระเจ้าตากสิน

ท่านผู้หญิงนาคนั้นรู้ทันในสามี จึงสั่งนางข้ารับใช้ชื่อกลัดซึ่งมีหน้าที่บีบนวดให้สามีทุกคืนว่า หากท่านสั่งหาอาชญานางแว่นให้มาเคาะบอกแก่ท่านเสียก่อน แล้วค่อยไปตามอาชญานางแว่นมา ส่วนตัวท่านผู้หญิงนาคเองก็ไม่เข้าไปค้างแรมในพระราชวังมาเป็นเวลานานถึง 2 เดือน จนคืนหนึ่งท่านสมเด็จเจ้าพระยาอดรนทนไม่ไหว จึงสั่งให้นางกลัดไปตามหาอาชญานางแว่นมาหา นางกลัดก็ทำตามที่ท่านผู้หญิงนาคสั่ง คือเคาะบอกท่านก่อนจึงไปตามอาชญานางแว่นมา ท่านผู้หญิงนาคก็ถือดุ้นแสมไปยืนคอยดักอยู่ในที่มืดบนนอกชานเรือน พออาชญานางแว่นทาแป้งและน้ำอบเสร็จแล้วเดินมาทางเรือนหลังใหญ่อันเป็นห้องของท่านสมเด็จเจ้าพระยา ท่านผู้หญิงก็เอาดุ้นแสมตีลงไปกลางศีรษะอาชญานางแว่นจนเลือดไหลท่วมไปหมด อาชญานางแว่นเมื่อเห็นท่านผู้หญิงนาคทำดังนั้นก็ร้องขึ้นหาสมเด็จเจ้าพระยา

ฝ่ายท่านผู้หญิงนาคเมื่อเห็นเลือดออกมากก็ตกใจ วิ่งเข้าเรือนแล้วปิดประตูลั่นดาลไว้ ท่านสมเด็จเจ้าพระยาออกมาเห็นอาชญานางแว่นเจ็บดังนั้นก็โกรธยิ่งนัก ฉวยดาบออกจากเรือนจะมาฟันท่านผู้หญิงนาค มาถึงเรือนถีบประตูไม่ออกก็เอาดาบฟันประตูเสียงดังอึกทึกคึกโครม เมื่อคุณฉิม (รัชกาลที่ 2 ในกาลต่อมา) บุตรชายคนโตได้ยินเหตุการณ์เข้า นึกว่าเจ้าคุณพ่อโมโหใหญ่โตเช่นนั้น หากปล่อยไว้เกรงว่าแม่จะได้รับอันตราย จึงช่วยกันกับคุณจุ้ยและพี่เลี้ยงเข็นเอาครกตำข้าวหลายใบมาต่อใต้หน้าต่างเรือนท่านผู้หญิงนาคพลางร้องเรียกให้หนีลงมา และพาหลบหนีไปอยู่ในพระราชวังหลวง โดยอาศัยอยู่ในตำหนักเจ้าจอมฉิมใหญ่ พระราชธิดาของท่านที่เป็นพระสนมเอกในพระเจ้าตากสิน

เมื่อท่านสมเด็จเจ้าพระยาเข้ามาและเห็นดังนั้น จึงให้อาชญานางแว่นรับตำแหน่งดูแลข้าทาสและความเรียบร้อยในเรือนทั้งหมดแทนท่านผู้หญิงนาค เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก (รัชกาลที่ 1) ได้ปราบดาภิเษกสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์และพระบรมมหาราชวังขึ้น ท่านผู้หญิงนาคหรือสมเด็จพระอมรินทรามาตย์ก็มิได้เคยเสด็จเข้ามาประทับในพระบรมมหาราชวังเลย แต่ประทับอยู่ที่พระราชวังเดิมฝั่งธนบุรีกับเจ้าฟ้าชายฉิมพระราชโอรส จะเสด็จมาเยี่ยมพระราชธิดาในพระบรมมหาราชวังแต่เพียงครั้งคราวเท่านั้นตราบจนสวรรคต ดังนั้นอาชญานางแว่นจึงได้รับการสถาปนาเป็นเจ้าจอมแว่น พระสนมเอก โปรดให้รับใช้ใกล้ชิดเบื้องพระยุคลบาทตลอดรัชกาล จนชาววังยกย่องเป็น เจ้าคุณข้างใน......"

Credit : https://th.wikipedia.org/

...............

พลังภูผา..
#แก้กษัย #ปวดเมื่อย #ท้องผูก #กรดไหลย้อน 
สนใจที่ : www.arjanpong.com
โทร : 0898129392

ความคิดเห็น

วันที่: Mon Apr 29 10:42:23 ICT 2024

แสดงความคิดเห็น
All Comments: 0 Pages: 1/0

 <iframe width="560" height="315" src="https://www.youtube.com/embed/_jUHKM1YHcc" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>