Support
Arjan Pong
035 323239, 035 323240, 089 8129392
Your shopping cart
ดูตะกร้าสินค้าของคุณ
ไม่มีสินค้าในตะกร้าของคุณ

สมเด็จโตหลับเพลินเลยเพล เด็กวัดเห็นร้องลั่น “พระกินข้าวเย็น”!!

ArjanPong | 21-02-2562 | เปิดดู 1271 | ความคิดเห็น 0

 

          

  

สมเด็จพระพุฒาจารย์ เกิดในรัชสมัย[พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาร] (หลังสร้างกรุงรัตนโกสินทร์

ได้แล้ว 7 ปี เมื่อวันพฤหัสบดี เดือน 5 ขึ้น 12 ค่ำ ปีวอก จุลศักราช 1150 เวลาพระบิณฑบาต (ตรงกับวันที่ 17

เมษายน พ.ศ. 2331) ณ บ้านไก่จ้น (บ้านท่าหลวง) อำเภอท่าเรือ พระนครศรีอยุธยา

ราวปี พ.ศ. 2410 สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) ได้มาเป็นประธานก่อสร้างปูชนียวัตถุครั้งสุดท้ายที่สำคัญของท่าน

คือ พระพุทธรูปหลวงพ่อโต (พระศรีอริยเมตไตรย) ที่วัดอินทรวิหาร (ในสมัยนั้นเรียกว่า วัดบางขุนพรหมใน)

ทว่าการก่อสร้างก็ยังไม่ทันสำเร็จ โดยขณะนั้นก่อองค์พระได้ถึงเพียงระดับพระนาภี (สะดือ) สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต)

ก็ได้มรณภาพบนศาลาเก่าวัดบางขุนพรหมใน ณ วันเสาร์ แรม 2 ค่ำ เดือน 8 ปีวอก ตรงกับวันที่ 22 มิถุนายน

พ.ศ. 2415 ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สิริรวมอายุได้ 84 ปี อยู่ในสมณเพศ 64 พรรษา

เป็นเจ้าอาวาสครองวัดระฆังโฆสิตารามได้ 20 ปี

 

 

          

  ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์โปรดปรานพระมหาโตเป็นอย่างยิ่ง ในปี พ.ศ. 2395

พระองค์จึงได้พระราชทานสมณศักดิ์พระมหาโตเป็นครั้งแรก เป็นพระราชาคณะที่ "พระธรรมกิติ" และดำรงตำแหน่ง

เป็นเจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตาราม ขณะนั้นท่านอายุ 65 ปี โดยปกติแล้วพระมหาโตมักพยายามหลีกเลี่ยงการรับ

พระราชทานสมณศักดิ์ แต่ด้วยเหตุผลบางประการ ทำให้ท่านต้องยอมรับพระราชทานสมณศักดิ์ในที่สุด

 

          

  ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์โปรดปรานพระมหาโตเป็นอย่างยิ่ง ในปี พ.ศ. 2395

พระองค์จึงได้พระราชทานสมณศักดิ์พระมหาโตเป็นครั้งแรก เป็นพระราชาคณะที่ "พระธรรมกิติ" และดำรง

ตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตาราม ขณะนั้นท่านอายุ 65 ปี โดยปกติแล้วพระมหาโตมักพยายามหลีกเลี่ยง

การรับพระราชทานสมณศักดิ์ แต่ด้วยเหตุผลบางประการ ทำให้ท่านต้องยอมรับพระราชทานสมณศักดิ์ในที่สุด

 

          

  เป็นภาพลายเส้น พระปรางค์วัดอรุณราชวราราม
และแม่น้ำเจ้าพระยา สันนิษฐานว่าเขียนสมัยต้นรัตนโกสินทร์ 

 

สมเด็จโตหลับเพลินเลยเพล 
เด็กวัดเห็นร้องลั่น “พระกินข้าวเย็น”!!
www.arjanpong.com
#สมเด็จโต #วัดระฆัง #กรุงเทพ
ในหนังสือชีวประวัติสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) ซึ่ง พระยาทิพโกษา (สอน โลหนันท์) คนรุ่นที่เคยฟังเทศน์สมเด็จโต ได้ติดตามค้นหาเรื่องที่เกี่ยวกับสมเด็จโต วัดระฆัง ซึ่งท่านทำเรื่องแปลกๆให้โจษขานกันไว้มาก บันทึกไว้เพื่อให้เล่าต่อกันสืบไป ได้บันทึกเรื่องหนึ่งไว้ว่า

ครั้งหนึ่งสมเด็จโต อริยสงฆ์ผู้แตกฉานพระไตรปิฎก ได้รับนิมนต์ไปเทศน์ที่คลองบางนกแขวก และเดินทางไปทางเรือ ท่านนอนจำวัดหลับไปนาน มาตื่นเอาตอนบ่ายสองโมง จึงถามคนแจวเรือว่าเพลหรือยัง

คนแจวเรือตอบว่า “เพลแล้วขอรับ”
ท่านถามอีกว่า “เพลที่ไหนจ๊ะ”
“เพลที่วัดล่างขอรับกระผม” คนแจวเรือบอก

ท่านก็อ้อนวอนเขาว่า “พ่อคุ้ณ พ่ออย่าเห็นกับเหน็จกับเหนื่อย พ่อช่วยพาฉันไปฉันเพลที่วัดตีกลองเพลสักหน่อยเถอะจ๊ะ นึกว่าช่วยชีวิตฉันไว้”

คนเรือก็แจวกลับไปอีกสามคุ้งน้ำ ถึงวัดที่ตีกลองเมื่อเพล ท่านก็ขึ้นไปขออนุญาตสมภารเจ้าวัด สมภารก็ปูเสื่อที่หอฉันใกล้กับกลองให้ คนเรือก็ไปยกสำรับกับข้าวจากเรือขึ้นมาประเคน ท่านก็ฉันโดยมีสมภารคอยดูแล พระเด็กๆพากันมาแอบดู พวกเด็กวัดก็กรูเกรียวกันมาห้อมล้อม บ้างก็ตะโกนบอกกันว่า
“พระกินข้าวเย็นโว้ย”

เด็กบางคนวิ่งไปบอกผู้ใหญ่ที่บ้าน ชาวบ้านรู้ข่าวก็พากันขนขนมผลไม้และกับข้าวมาถวายท่านจนฉันไม่หวาดไม่ไหว เลี้ยงคนเรือกับเด็กจนอิ่มแต้ไปตามกัน

(บางทีท่านเห็นในตติยคัณฐีฎีกา แก้โภชนะมีบาลีว่า “อญญตฺร รตฺติยา มาภุญชติ” แปลว่า ให้เจ้าภิกขุขบฉันในเวลากาล ตั้งแต่เห็นดวงอาทิตย์ขึ้นจนถึงดวงอาทิตย์ตก ยังเห็นดวงเรียกว่ากาล ถ้าค่ำคืนเรียกว่าวิกาล ฉันกลางวันนี้ เป็นบัญญัติเพิ่มเติมเมื่อครั้งแผ่นดินพระเจ้าทรงธรรม ในกรุงศรีอยุธยายังเป็นราชธานีอยู่นั้น)

ถ้าจะยึดข้อนี้ฉันมาม่า ก็อย่าให้พระอาทิตย์ตกก่อนนะขอรับ...

Credit : https://m.mgronline.com

ความคิดเห็น

วันที่: Mon May 20 18:35:21 ICT 2024

แสดงความคิดเห็น
All Comments: 0 Pages: 1/0

 <iframe width="560" height="315" src="https://www.youtube.com/embed/_jUHKM1YHcc" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>