Support
Arjan Pong
035 323239, 035 323240, 089 8129392
Your shopping cart
ดูตะกร้าสินค้าของคุณ
ไม่มีสินค้าในตะกร้าของคุณ
guest

Post : 2018-08-22 14:03:56.0     Forum: ข่าว  >  เด็ก ป.4 ผูกคอตาย!! เเม่ลนลานรีบเผา พบพิรุธอื้อ!!

 

 

 

                   

 

*** ข่าวพลังภูผา...***
เด็ก ป.4 ผูกคอตาย!! เเม่ลนลานรีบเผา พบพิรุธอื้อ!!
www.arjanpong.com
#ป4ผูกคอตาย #มีพิรุธ #ชัยภูมิ #พลังภูผา


เมื่อวันที่ 22 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในโลกออนไลน์วิพากษ์วิจารณ์กันสนั่น เกี่ยวกับการเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำของ "ด.ช.โด้" (นามสมมุติ) อายุ 10 ปี นักเรียนชั้น ป.4 ใน จ.ชัยภูมิ ที่มีการระบุว่า ด.ช.โด้ ใช้เข็มขัดนักเรืยนผูกคอตัวเองกับขื่อห้องน้ำบ้านพัก แต่คดีดังกล่าวเกิดความน่าสงสัย เนื่องจากขื่อห้องน้ำที่ ด.ช.โด้ ใช้ผูกคอตายนั้นมีความสูงจากพื้นกว่า 2 เมตร แถมไม่มีจุดที่จะให้ปีนขึ้นไป รวมทั้งยังพบรอยฟกช้ำที่บริเวณหน้าผากและแผ่นหลังของศพ ซ้ำยังไม่พบว่ามีลิ้นจุกปากตามลักษณธของผู้ที่ผูกคอตายทั่วไป แต่ผู้เป็นแม่กลับไม่ติดใจในสาเหตุการเสียชีวิตของลูกชาย และเชื่อว่าลูกชายได้ผูกคอตายเอง พร้อมทั้งมีการจะเร่งเผาศพบุตรชาย โดยอ้างว่าไม่มีเงินจัดงานศพเป็นเวลาหลายวัน.....

ขณะที่บางคนเห็นความผิดปกติ เนื่องจากก่อนหน้าจะพบ ด.ช.โด้ เสียชีวิต ยังคงวิ่งเล่นสนุกสนานกับเพื่อนๆ ต่อมา ยายได้เรียกใช้ให้ ด.ช.โด้ ไปซื้อของ เมื่อกลับมาถึงบ้านช้าก็ถูกพ่อเลี้ยงทำโทษ ก่อนในเวลาต่อมา พ่อเลี้ยงจะเป็นคนไปแจ้งว่า ด.ช.โด้ ผูกคอตาย แต่ชาวบ้านไม่เชื่อ แม้แค่ครูผู้สอนที่ใกล้ชิดกับเด็กก็ไม่ปักใจเชื่อ เพราะปกติ ด.ช.โด้ แม้จะเรียนไม่เก่ง และมีนิสัยดื้อตามวัย แต่ก็สามารถร่วมกิจกรรมและเชื่อฟังคำสั่งได้ดี โดยปูมหลังครอบครัวของ ด.ช.โด้ มีฐานะยากจน พ่อแม่ได้แยกทางกัน และแม่ได้แต่งงานใหม่ บางวัน ด.ช.โด้ ไม่มีเงินไปโรงเรียน ใส่กางเกงขาดๆ ครูต้องพาข้ามถนนกลับบ้านไปเปลี่ยน หนำซ้ำในช่วงวันหยุด ด.ช.โด้ ยังต้องออกไปเดินเก็บขวดขาย เพื่อหาเงินค่าขนม.....

อย่างไรก็ตาม สำหรับกรณีการตายของ ด.ช.โด้ นั้น ได้มีชาวบ้านบางส่วนเรียกร้องให้มีการส่งศพไปชันสูตรหาสาเหตุที่แน่ชัด เพื่อให้เกิดความกระจ่าง เพราะเกรงว่าจะเป็นการฆาตกรรมอำพราง ซึ่ง ด.ช.โด้ อาจถูกคนทำร้ายจนเสียชีวิต แล้วจัดฉากให้ดูว่าเป็นการผูกคอตาย โดยเรื่องราวดังกล่าวได้มีผู้คนแห่แชร์ข้อมูลเป็นจำนวนมาก เพราะเห็นภาพแล้วก็อดเคลือบแคลงสงสัยไม่ได้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในพื้นที่ความรับผิดชอบ สภ.ภูเขียว ขณะนี้ทางตำรวจได้นำศพส่งไปชันสูตรแล้ว.....

Credit : https://www.dailynews.co.th/regional/661877
https://www.youtube.com/watch?v=6YCtzNiAG6c

.............................................................

รายการ : ข่าวพลังภูผา
Radio online : www.arjanpong.com
FM 89.75 MHz. พระนครศรีอยุธยา 
Time : 06.00-08.00 น./17.00-19.00 น ทุกวัน 
โทร/line : 0898129392

guest

Post : 2018-08-21 13:56:13.0     Forum: ข่าว  >  ลูกสุดเศร้า!! เเม่ขายขนมจีนในวัด ถูกตะขาบกัดตายสยอง!!

 

 

 

                      

 

*** ข่าวพลังภูผา..***
ลูกสุดเศร้า!! เเม่ขายขนมจีนในวัด ถูกตะขาบกัดตายสยอง!!
#ตะขาบกัดตาย #ป้าขายขนมจีน #จันทบุรี #พลังภูผา
เมื่อวันที่ 21 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ค่ำวานนี้ (20 ส.ค.) ได้เดินทางไปยังศาลาบำเพ็ญกุศล วัดอิมั้ง ต.ซึ้ง อ.ขลุง จ.จันทบุรี ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งศพนางสำเนาว์ เผื่อแผ่ อายุ 69 ปี อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง หลังได้รับแจ้งจากทางญาติว่านางสำเนาว์ เสียชีวิตจากการถูกตะขาบกัด พบมีบรรดาลูกหลานตลอดจนญาติสนิทและเพื่อนบ้านมาร่วมฟังสวดพระอภิธรรมคืนแรกบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า.....

นายธเนศ เผื่อแผ่ ลูกชายนางสำเนาว์ ผู้ตาย กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่วัดแห่งนี้ โดยเมื่อช่วงเช้าวันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งตรงกับวันพระ ขณะที่แม่กำลังยืนขายขนมจีนอยู่ในศาลาวัด ตอนนั้นเกิดฝนตกหนักน้ำท่วมขังทั่วบริเวณ ต่อมามีเพื่อนบ้านที่มารอซื้อขนมจีนสังเกตเห็นตะขาบหนีน้ำไต่ขึ้นมาอยู่บนพื้นใกล้กับที่ๆ แม่ยืนอยู่ จึงเตือนให้ระวัง แต่แม่ไม่ได้สนใจกระทั่งระหว่างที่ยืนขายของอยู่แม่รู้สึกเวียนหัวมากจึงกลับไปนอนพักที่บ้าน แต่อาการไม่ดีขึ้นลูกๆ จึงพาไปหาหมอที่โรงพยาบาลประจำอำเภอ.....

เมื่อไปถึงแพทย์ตรวจพบรอยเขี้ยวที่บริเวณข้อเท้าซ้ายจึงทำการรักษา ระหว่างนั้นแม่มีอาการอาเจียนตลอดเวลาจนเวลาผ่านไปหลายชั่วโมง เมื่ออาการทุเลาขึ้นลง แม่อยากกลับไปพักที่บ้านแพทย์ได้ตรวจดูอาการอีกครั้งก่อนจะอนุญาต แต่เมื่อกลับมาถึงบ้านแม่กลับมีอาการร้อนๆ หนาวๆ ขึ้นมาอีก และพบว่าบริเวณขาที่ถูกตะขาบกัด เริ่มมีสีเขียวคล้ำเข้มจนเกือบดำ ลูกๆ เห็นว่าแม่เริ่มมีอาการไม่ดี จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลอีกครั้ง จู่ๆ แม่แน่นิ่งไปจึงได้รีบทำการปั๊มหัวใจพร้อมกับโทรเรียกรถพยาบาลแต่ไม่ทันการณ์แล้ว.....

"ต่อมาแพทย์ได้ทำการตรวจชันสูตรสาเหตุการเสียชีวิต โดยได้วินิจฉัยว่าแม่เสียชีวิตเนื่องจากติดเชื้อในกระแสเลือดอย่างรุนแรง ซึ่งเป็นเชื้อโรคที่อยู่ในเขี้ยวของตะขาบ จึงขอฝากเป็นอุทาหรณ์กับทุกคนด้วยให้พึงระวังสัตว์เลื้อยคลานช่วงฝนตกน้ำท่วมขังด้วย" นายธเนศ กล่าว.....

Credit : https://www.onbnews.com/post/28394

...........................................................

รายการ : ข่าวพลังภูผา
Radio online : www.arjanpong.com
FM 89.75 MHz. พระนครศรีอยุธยา 
Time : 06.00-08.00 น./17.00-19.00 น ทุกวัน 
โทร/line : 0898129392
Email : arjanpong123@hotmail.com

guest

Post : 2018-08-20 13:54:51.0     Forum: ข่าว  >  เผยความจริง!! คลิปพ่อปู่บาทา ดูดนิ้วเท้ารักษาโรค ไม่ใช่อย่างที่คิด!!

 

 

 

                       

 

*** ข่าวพลังภูผา..***
เผยความจริง!! คลิปพ่อปู่บาทา ดูดนิ้วเท้ารักษาโรค ไม่ใช่อย่างที่คิด!!
www.arjanpong.com
#พ่อปู่บาทา #ดูดหัวเเม่เท้า #พลังภูผา
จากกรณีโลกโซเลียลมีเดียพากันแชร์คลิปวิดีโอพ่อปู่บาทา พร้อมระบุข้อมูลอ้างว่า รักษาโรคด้วยการให้ชาวบ้านดูด อม และดม หัวแม่เท้า รวมทั้งเจิมศีรษะด้วยเท้าอันศักดิ์สิทธิ์ จึงนำมาซึ่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมาย.....

เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว ล่าสุด ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Kornkit Disthan ได้ออกมาเผยข้อมูลว่า คลิปวิดีโอและเรื่องราวที่ถูกแชร์ต่อกันไม่เป็นความจริงเลย โดยที่เห็นในคลิปนั้นไม่ใช่ทั้งพ่อปู่และไม่ใช่คนทรงเจ้าใด ๆ ทั้งสิ้น และที่สำคัญไม่ใช่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยด้วย แต่เป็นพิธีพราหมณ์ที่บาหลี ซึ่งถือศาสนาพราหมณ์ และมีรูปแบบพิธีกรรมที่ชัดเจน.....

โดยผู้ใช้เฟซบุ๊ก Kornkit Disthan ได้กล่าวว่า ภาพที่เห็นคือ หัวหน้าพราหมณ์นั่งบนบัลลังก์ให้ศิษย์ล้างเท้าให้ ผู้หญิงจะล้างด้วยผ้าขาว ส่วนผู้ชายจะล้าง แล้วจูบที่เท้า ไม่ใช่อม คาดว่าพิธีนี้เป็นการแสดงความเคารพอาจารย์อย่างสุดซึ้ง เรียกว่า เซมบาห์ (Sembah) คือการแสดงความเคารพครั้งแล้วครั้งเล่าต่ออาจารย์ เพื่อถวายตัวเป็นศิษย์ จากนั้นอาจารย์จะมอบเครื่องรับรองกับถ่ายทอดวิชาให้เป็นการเฉพาะ.....

เรื่องนี้มีเขียนไว้ในหนังสือ Island of Bali โดย Miguel Covarrubias โดยพราหมณ์บาหลีจะใส่ใจเท้ามาก พอตะวันพลบเสร็จกิจแล้วจะล้างเท้าด้วยน้ำปรุงดอกไม้ทุกวัน นอกจากนี้ พราหมณ์ในภาษาบาหลี เรียกว่า ปาดันดะ (Pada-n-da) หรือ ปาทันทะ แปลว่า ตีน หรือเท้า หมายถึง ลัทธิบูชาเท้าพระอาจารย์เทียบกับเท้าพระศิวะ หรือศิวปาท (ดูใน Religion in Bali ของ Christiaan Hooykaas หน้า 13).....

การล้างเท้าและจูบเท้าอาจารย์ จึงเป็นเรื่องปกติในศาสนาพราหมณ์ ที่อินเดียก็ยังทำอยู่ ในศาสนาคริสต์บาทหลวง หรือแม้แต่สมเด็จพระสันตปาปา รวมถึงอธิราชในยุโรปก็ยังมักล้างเท้าและจูบเท้าคนทุกข์ยาก แบบที่พระเยซูเคยล้างเท้าและจูบเท้าสาวก อันแสดงความถ่อมพระองค์......

Credit : https://hilight.kapook.com/view/176685
https://www.youtube.com/watch?v=tBVIzr7YVcI

.............................................................

รายการ : ข่าวพลังภูผา
Radio online : www.arjanpong.com
FM 89.75 MHz. พระนครศรีอยุธยา 
Time : 06.00-08.00 น./17.00-19.00 น ทุกวัน 
โทร/line : 0898129392
Email : arjanpong123@hotmail.com

guest

Post : 2018-08-19 12:44:55.0     Forum: ข่าว  >  กานต์-วิภากร ยอมรับ เสก โลโซ ป่วย!! กลัวคิดฆ่าตัวตาย!!

 

 

 

                         

 

*** ข่าวพลังภูผา ***
กานต์-วิภากร ยอมรับ เสก โลโซ ป่วย!! กลัวคิดฆ่าตัวตาย!!
www.arjanpong.com
#เสกโลโซ #ฆ่าต้วตาย #พลังภูผา

เมื่อวันที่ 16 ส.ค. จากกรณี นายเสกสรรค์ ศุขพิมาย หรือ เสก โลโซ ร็อกเกอร์คนดัง ได้ออกมาไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กอย่างต่อเนื่องในช่วงนี้ และมีการวิพากษ์วิจารณ์ผู้อื่นอย่างรุนแรง อาทิ ทักษิณ และพานทองแท้ ชินวัตร อากู๋ ไพบูลย์ ดำรงค์ชัยธรรม รวมถึงโชว์การทำกิจวัตรประจำวัน จนทำให้ผู้ใช้สังค,ออนไลน์เป็นห่วง พร้อมตั้งคำถามวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมากนั้น.....

กานต์-วิภากร อดีตภรรยา โพสต์เฟซบุ๊ก ขอร้องคนในสังคมอย่างเข้าไปดูหรือวิพากษ์วิจารณ์พฤติกรรมของร็อกเกอร์ชื่อดังที่กำลังป่วย เพราะจะเป็นการทำให้ผู้ป่วยคิดว่าตัวเองเจ๋งและไม่หยุดแสดงพฤติกรรมเช่นนี้ พร้อมอย่ามองว่าเป็นตัวตลกในโซเชียล เพราะตนสงสารลูกๆ และมันอาจทำให้ผู้ป่วยฆ่าตัวตายได้.....

ด้าน แซนวิช-ปภาดา โชติกวณิชย์ เปิดเผยว่า ร็อกเกอร์คนดัง ป่วยเป็นโรคไบโพลาร์ หรือ โรคอารมณ์สองขั้วจริง โดยต้องกินยาเป็นประจำและเมื่อก่อนต้องไปหาแพทย์เดือนละ 1 ครั้ง ส่วนสาเหตุที่พฤติกรรมเป็นเช่นนี้ คาดว่าช่วยนี้น่าไม่ได้กินยา ทั้งนี้ ตนไม่ได้เจออดีตแฟนนานแล่ว.....

ส่วนพฤติกรรมของ เสก เมื่อก่อนเป็นบุคคลที่บ้างานมา แต่บุคคลิกตอนนี้เปลี่ยนแปลงไปมาก แซนวิช กล่าวว่า เมื่อเห็น เสก เป็นอย่างนีก็เป็นห่วงตามสถานภาพ แต่ทำอะไรมากไม่ได้เพราะไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว.....

Credit : https://www.posttoday.com/ent/news/561061
https://www.youtube.com/watch?v=3wwh6xWV4ug

........................................................

รายการ : ข่าวพลังภูผา
Radio online : www.arjanpong.com
FM 89.75 MHz. พระนครศรีอยุธยา 
Time : 06.00-08.00 น./17.00-19.00 น ทุกวัน 
โทร/line : 0898129392
Email : arjanpong123@hotmail.com

guest

Post : 2018-08-18 13:19:05.0     Forum: ข่าว  >  อาถรรพ์ป่าภูพาน

 

 

 

                    

 

 

*** ข่าวพลังภูผา ***
ปาฎิหารย์!! ลุงหลงป่าภูพาน 
เดินตามลูกไฟสีเขียว นำทางจนออกมาได้!!
www.arjanpong.com
#ลุงหลงป่าภูพาน #อาถรรพ์ป่า #พลังภูผา

จากกรณี นายสมพูล ภูมองชัย ชาวบ้านไชยวาร มีอายุ 59 ปี อำเภอหนองกุงศรี จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งพลัดหลงกับเพื่อนบ้านขณะเข้าป่าภูพานเพื่อไปเก็บเห็ด ในเขตตำบลสร้างค้อ อำเภอภูพาน จังหวัดสกลนคร เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2561ทางจังหวัดสกลนคร และจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้ร่วมกันค้นหาตามที่เสนอข่าวไปนั้น.....

เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2561 ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ส่วนหน้าจังหวัดกาฬสินธุ์ โดย นายสมเจตน์ เต็งมงคล นายอำเภอสมเด็จ ได้รายงาน นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.กาฬสินธุ์ ว่าพบ ชายอายุประมาณ 55-65 ปี ในสภาพร่างกายอิดโรย โดยมีเด็กสองคนเป็นชาวบ้านโป่งนกแซว ตำบลดินจี่ อำเภอคำม่วง จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้พาตัวลงมาและภายหลังสอบถามทราบว่า คือ นายสมพูล หรือลุงก้อย ภูมองชัย อายุ 59 ปี ชาวบ้านไชยวาร อำเภอหนองกุงศรี จังหวัดกาฬสินธุ์. ที่เข้าไปเก็บเห็ดในป่าที่พัดหลงไปซึ่งจังหวัดกาฬสินธุ์ และจังหวัดสกลนครระดมกำลังค้นหา.....

ทันทีที่ได้รับรายงาน นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.กาฬสินธุ์ ได้สั่งการให้ทีมแพทย์ขึ้นไปรับตัว ที่บ้านโป่งนกแซว อำเภอคำม่วง และนำตัวส่งไปยังโรงพยาบาลอำเภอสมเด็จ และ ส่งต่อมายังโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ ในสภาพร่างกายที่อิดโรย ทันทีที่ถึงโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ นพ.บรรพจน์ สุวรรณชาติ ผอ.โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ ได้ทำการตรวจสภาพร่างกาย พบว่าได้รับบาดเจ็บที่มือและแขนสองข้างรวมถึงขาที่มีรอยถลอกทั้งสองข้าง เจ้าหน้าที่ยังได้ทำการเจาะเลือด เนื่องจากเกรงว่าจะมีเชื้อโรคในร่างกาย แต่เบื้องต้นไม่พบแต่แพทย์ได้ให้พักรักษาตัวเพื่อดูอาการเป็นเวลา 7 วันเพื่อฟื้นฟูสภาพร่างกายให้แข็งแรง แต่เนื่องจาก "ลุงก้อย" มีสภาพร่างกายที่แข็งแรงและกำลังใจดีเยี่ยมสามารถพูดคุยได้จึงได้ให้สื่อมวลชนเข้าเยี่ยมดูอาการพร้อมกับนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อทำการซักถาม ภายในห้องพิเศษชั้น 5 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาพระบารมี.....

นายสมพูล หรือลุงก้อย ภูมองชัย กล่าวว่า ตนไม่เคยเข้าไปหาป่าในเขตเทือกเขาภูพาน แต่ด้วยฐานะยากจนและเห็นเพื่อบ้านที่ไปหาเห็ดในป่าภูพาน ได้กลับมาจำนวนมาก จึงได้ขอไปด้วย เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม ที่ผ่านมา และไปด้วยกัน 12 คน แต่ในระหว่างที่จะเดินทางกลับ ไม่รู้เป็นอะไร จู่ๆ ก็ไม่ให้มีใครอยู่ในป่า และไม่ได้ยินเสียงอะไร จึงตัดสินใจเดินหาทางออก แต่ก็หาไม่พบ จึงตัดสินใจเดินเท้าลัดเลาะลงเข้าไปเรื่อยๆ จนเวลาผ่านไปหลายวัน ก็อาศัยกินหยวกกล้วยและน้ำในลำธารประทังชีวิต ในใจคิดว่าคงจะต้องตายแน่ๆ และเดินเท้าลัดเลาะมาตลอดซึ่งในช่วงกลางคืนก็จะอาศัยหลับนอนใต้ต้นไม้.....

"ผมได้ปีนหน้าผาถึง 4 ครั้งเพื่อที่จะเดินลงมาในพื้นที่ราบ และที่ในช่วงที่เดินทางก็ไปเห็นคนเลี้ยงวัวในป่า ซึ่งก็พยามจะพูดด้วยแต่คนเลี้ยงวัวในป่าก็ไม่ตอบ จึงคิดว่านี่คืออาถรรพ์ที่ตนได้เห็นในป่าภูพาน ต่อข้อซักถามที่ว่า การค้นหาเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม "ลุงก้อย" ได้ยินเสียงหรือเห็นผู้ค้นหาหรือไม่นั้น "ลุงก้อย" ตอบทั้งน้ำตาว่า ไม่เคยได้ยินเสียงใครเลย เหมือนมีอะไรมาบังตา.....

โดยเฉพาะในช่วงกลางคืน ในวันที่ 16 สิงหาคม 2561 ตนได้เห็นแสงสีเขียวดวงใหญ่รอยอยู่ในบริเวณที่ตนนอน ชัดเจนว่าไม่ใช่แสงของหิ่งห้อยแน่นอน แต่เชื่อว่าเป็นแสงสีเขียวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ในเช้าวันที่ 17 สิงหาคม จึงตัดสินใจเดินมุ่งหน้ามาตามจุดที่เคยเห็นแสง ก็มาพบ เด็กสองคนและครั้งนี้เมื่อตนได้เรียก เด็กก็ตอบจึงเชื่อว่าตนเองปลอดภัยและเด็กทั้งสองคนก็ได้พาลงมาพบเจ้าหน้าที่"นายสมพูล กล่าว..........

Credit : https://www.msn.com/…/%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%8…/vi-BBM2Ska

.............................................................................

รายการ : ข่าวพลังภูผา
Radio online : www.arjanpong.com
FM 89.75 MHz. พระนครศรีอยุธยา 
Time : 06.00-08.00 น./17.00-19.00 น ทุกวัน 
โทร/line : 0898129392
Email : arjanpong123@hotmail.com

guest

Post : 2018-08-17 14:26:57.0     Forum: ข่าว  >  หม่องชะตาขาด!! เตะจานข้าวพี่เขย โดนฟันเเขนขาดคอขาด!!

 

 

 

                             

 

หม่องชะตาขาด!! เตะจานข้าวพี่เขย โดนฟันเเขนขาดคอขาด!!
www.arjanpong.com
#ตัดเเขนตัดคอ #กาญจนบุรี #เมียนมา #พลังภูผา

16 ส.ค.61 จากกรณีพบศพชายไม่ทราบชื่อและสัญชาติ อายุระหว่าง 30-40 ปี ถูกตัดศรีษะและแขนทั้ง 2 ข้างขาดหายไป ซึ่งศพดังกล่าวลอยมาตามสายน้ำแม่น้ำแควน้อย และมีชาวบ้านล่องเรือไปพบเห็น จึงได้รีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ โดยพบศพเมื่อวันที่ 13 ส.ค.ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ให้ความสำคัญต่อคดีนี้เป็นอย่างมาก เพราะถือว่าเป็นการฆาตกรรมที่โหดเหี้ยม.....

จึงสั่งการให้คณะเจ้าหน้าที่ตำรวจ ประกอบด้วย พล.ต.ต.สมชาย รักเสนาะ ผบก.สส.ภาค 7 พ.ต.อ.สุภาพ วัยนิพิฐพงษ์ ผกก.สส.1 กก.สส.ภาค 7 รวมทั้งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.จว.กาญจนบุรี นำกำลังลงพื้นที่เพื่อคลี่คลายคดีร่วมกับ พ.ต.อ.ธานี สงวนจีน ผกก.สภ.ไทรโยค พ.ต.ท.วิษณุ ทวีแสง รอง.ผกก.สส.สภ.ไทรโยค พ.ต.ท.สนธยา ฉายเกียรติ์ขจร สว.สส.สภ.ไทรโยค พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนและเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 7 ภ.จว.กาญจนบุรี.....

จากนั้นวันที่ 14 ส.ค.เจ้าหน้าที่สืบทราบว่าผู้เสียชีวิตคือ นายสุไข่ ไม่มีนามสกุล ชาวเมียนมา ส่วนผู้ลงมือก่อเหตุคือ นายสุนัย ไม่มีนามสกุล ชาวเมียนมา และเป็นพี่ชายภรรยาของนายสุไข่ผู้ตาย ส่วนจุดก่อเหตุอยู่ภายในเพิงพักกลางสวน ติดกับแม่น้ำแควน้อย พื้นที่บ้านแก่งจอ หมู่ 4 ต.ไทรโยค อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี จากนั้นวันที่ 15 ส.ค.เจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดี สามารถติดตามจับกุมตัว นายสุนัย ได้ที่บ้านพุถ่อง หมู่ 1 ต.ลิ้นถิ่น อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ซึ่งเจ้าหน้าที่ใช้เวลาเพียงแค่ 3 วันเท่านั้นก็สามารถคลี่คลายคดีได้.....

ล่าสุดวันนี้ 16 ส.ค.61 พ.ต.อ.ธานี สงวนจีน ผกก.สภ.ไทรโยค พ.ต.ท.วิษณุ ทวีแสง รอง.ผกก.สส.สภ.ไทรโยค พ.ต.ท.สนธยา ฉายเกียรติ์ขจร สว.สส.สภ.ไทรโยค พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ไทรโยค ได้คุมตัวนายสุนัย ผู้ต้องหาใช้อาวุธมีดฆ่าตัดแขนและคอนายสุไข่ น้องเขย ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่บริเวณเพิงพักกลางสวน ซึ่งเป็นจุดที่นายสุนัยลงมือก่อเหตุ และที่ริมแม่น้ำแควน้อย ซึ่งเป็นจุดที่นายสุนัย ลากศพและชิ้นส่วนของศรีษะและแขนรวมทั้งอาวุธมีดไปโยนทิ้งลงในแม่น้ำ หลังจากทำแผนประกอบคำรับสารภาพแล้วเสร็จเจ้าหน้าที่จึงคุมตัวกลับมาที่ สภ.ไทรโยค.....

ทั้งนี้ พ.ต.อ.ธานี สงวนจีน ผกก.สภ.ไทรโยค กล่าวว่า นายสุนัยได้ยอมรับสารภาพกับเจ้าหน้าที่ว่า เป็นผู้ลงมือก่อเหตุฆ่าน้องเขยของตนเองจริง และลงมือเพียงแค่คนเดียว ส่วนสาเหตุนั้นเนื่องมาจากนายสุไข่ น้องเขย มีนิสัยชอบดื่มเหล้าจนเมา และจะอาละวาดอยู่เป็นประจำ.....

โดยก่อนเกิดเหตุขณะที่นายสุนัย กำลังนั่งกินข้าวอยู่ในบ้านพัก อยู่ๆ นายสุไข่ ก็เดินมาเตะจานข้าวจนกระจาย อีกทั้งยังเข้ามาทำร้ายนายสุนัยอีก ทำให้นายสุนัย เกิดความโมโห คว้าเอาอาวุธมีดที่มีอยู่ฟันไปที่คอนายสุไข่ 1 ครั้ง แต่นายสุไข่ ก็ยังไม่ยอมหยุด ได้พยายามวิ่งเข้ามาทำร้ายนายสุนัย นายสุนัยจึงใช้อาวุธมีดเล่มเดียวกันฟันเข้าที่แขนขวาและแขนซ้ายอย่างแรงจนขาดทั้ง 2 ข้าง เท่านั้นยังไม่พอนายสุนัยยังใช้อาวุธมีดฟันซ้ำเข้าที่คอไปหลายครั้งจนคอขาด.....

เมื่อแน่ใจว่านายสุไข่ น้องเขยเสียชีวิต จึงนำศพพร้อมชิ้นส่วนแขนและศรีษะ รวมทั้งอาวุธมีดที่ใช้ก่อเหตุไปทิ้งลงในแม่น้ำแควน้อย จากนั้นก็หลบหนีไป และมาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้ในที่สุด หลังจากผู้ต้องหาให้การยอมรับ เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพดังกล่าว.....

Credit : https://www.dailynews.co.th/crime/660806

.............................................................................

รายการ : ข่าวพลังภูผา
Radio online : www.arjanpong.com
FM 89.75 MHz. พระนครศรีอยุธยา 
Time : 06.00-08.00 น./17.00-19.00 น ทุกวัน 
โทร/line : 0898129392
Email : arjanpong123@hotmail.com

guest

Post : 2018-08-16 13:51:37.0     Forum: ข่าว  >  ยายทรุดร่ำไห้กลางตลาด!! โดนจับขายข้าวหมาก ปรับ 50,000!!

   

 

 

                     

 

*** ข่าวพลังภูผา ***
ยายทรุดร่ำไห้กลางตลาด!! โดนจับขายข้าวหมาก ปรับ 50,000!!
www.arjanpong.com
#จับขายข้าวหมาก #บุรีรัมย์ #สรรพสามิต #ข่าวพลังภูผา

เมื่อวันที่ 15 ส.ค. 61 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากนางเสน่ห์ ป่วงรัมย์ อายุ 60 ปี แม่ค้าขายข้าวหมาก ว่าได้รับความเดือดร้อนและรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังจากถูกเจ้าหน้าที่สรรพสามิตเขตพื้นที่จ.บุรีรัมย์ เข้าจับกุมบริเวณตลาดนัดคลองถมสี่แยกกระสัง อ.เมืองบุรีรัมย์ ในข้อหาจำหน่ายเหล้าสาโท โดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมเรียกค่าปรับสูงถึง5หมื่นบาท โดยมีการต่อรองค่าปรับลดลงเหลือ3 หมื่นบาทและลดลงเหลือแค่ 1 หมื่นบาทเพื่อแลกกับการปล่อยตัว.....

นางเสน่ห์ เล่าว่า อยากจะหาอาชีพเสริม เห็นตลาดนัดมาเปิดใกล้บ้าน ประกอบกับตัวเองทำงานหนักไม่ได้เพราะขาหัก 6 ท่อนเนื่องจากประสบอุบัติเหตุ จึงทำข้าวหมากห่อใบตอง (อาหารภูมิปัญญาพื้นบ้าน) ขายวันละประมาณ 20-30 ห่อ ห่อล่ะ 5 บาท ได้กำไรวันละ 50-100 บาท.....

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 ก.ค. ที่ผ่านมาได้มีเจ้าหน้าที่สรรพสามิตซึ่งมีผู้หญิง 2 คนและผู้ชาย 1 คนเข้ามาจับกุมในข้อหาจำหน่ายสุราสาโทโดยไม่ได้รับอนุญาต ตนเองตกใจ พยายามอธิบายให้เจ้าหน้าที่เข้าใจถึงเหตุผลแต่เจ้าหน้าที่ไม่รับฟัง ข่มขู่จะดำเนินคดีมีโทษถึงติดคุก พร้อมเรียกค่าปรับเป็นเงิน 50,000 บาท ตนเองถึงกับเข่าทรุด เพราะไม่มีเงินที่จะมาเสียค่าปรับและกลัวจะติดคุก.....

นางเสน่ห์ บอกด้วยว่า แจ้งเจ้าหน้าที่ว่าไม่รู้ว่าการขายข้าวหมากจะผิดกฎหมาย พยายามอ้อนวอนให้เจ้าหน้าที่อะลุ่มอล่วยบ้าง ให้ดูที่เจตนาเนื่องจากเป็นคนหาเช้า กินค่ำ แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่ยินยอม นำตัวไปควบคุมที่สำนักงานกรมสรรพสามิตที่บุรีรัมย์.....

ด้านนางบุญมณี ป่วงรัมย์ อายุ 42 ปี บุตรสาวนางเสน่ห์ วันเกิดเหตุได้มีเพื่อนบ้านโทรไปแจ้งว่าแม่ถูกเจ้าหน้าที่สรรพสามิต ก็ตกใจ รีบไปหเจ้าหน้าที่แจ้งว่าแม่ขายสาโท ผิดกฎหมายต้องเสียค่าปรับจำนวน 50,000 บาท ไม่เช่นนั้นจะจับเข้าคุก บอกว่าไม่มีเงิน.....

ต่อมาเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวแจ้งว่าลดค่าปรับให้เหลือ3 หมื่นบาท พร้อมทั้งบอกว่าถ้าไปขึ้นศาลจะเสียเวลา ถ้าเสียค่าปรับตอนนี้เรื่องก็จบ จึงขอร้องเจ้าหน้าที่ว่า ไม่มีเงินแต่ก็สงสารแม่ซึ่งนั่งร้องไห้ตลอดเวลา จนเจ้าหน้าที่สรรพสามิต บอกว่าลดค่าปรับให้เหลือ10,000 บาท ตนเองจึงรีบไปหยิบยืมพี่น้องมาให้แก่เจ้าหน้าที่คนดังกล่าว.....

หลังจากเจ้าหน้าที่สรรพสามิตรับเงินไปและออกใบเสร็จให้ ก็มีใบหน้ายิ้มแย้มแล้วก็กล่าวอวยพรตนเอง ว่าขอให้ทำมาหากินขายของเจริญยิ่งๆขึ้นไป ขอให้ถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่ 1 ซึ่งเหมือนจะตอกย้ำคนจน นางบุญมณี กล่าว.....

Credit : https://www.facebook.com/teambigkren/posts/488082988330296

.......................................................

รายการ : ข่าวพลังภูผา
Radio online : www.arjanpong.com
FM 89.75 MHz. พระนครศรีอยุธยา 
Time : 06.00-08.00 น./17.00-19.00 น ทุกวัน 
โทร/line : 0898129392.....

 

guest

Post : 2018-08-12 13:49:14.0     Forum: ข่าว  >  ศึกหนุ่มเทรลเลอร์หัวร้อน!! คว้ามีดดาบกะเอาให้ตาย!! สุดท้ายกอดคอกันเฉยเลย!!

 

 

 

                    

 

*** ข่าวชาวบ้าน!!..***
ศึกหนุ่มเทรลเลอร์หัวร้อน!! 
คว้ามีดดาบกะเอาให้ตาย!! สุดท้ายกอดคอกันเฉยเลย!!
รายการ :"ข่าวเด่นประเด็นดัง พลังภูผา"
Radio online : www.arjanpong.com
FM 89.75 MHz. พระนครศรีอยุธยา 
Time : 06.00-08.00 น./17.00-19.00 น ทุกวัน

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 11 ส.ค. ร.ต.อ. บุญหลาย ชัยทิพย์ รอง สว.สส.สน.บางนา รับแจ้งเหตุมีรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ เฉี่ยวชนกันและคนขับรถได้ลงจากรถมาใช้อาวุธมีดดาบไล่ฟันกัน เหตุเกิดบริเวณจุดกลับรถ กม.3 ถนนเทพรัตน์(ขาออก) จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ยี่ห้อ ฮีโน่ สีขาว ทะเบียน 63-7034 กทม ส่วนพ่วงทะเบียน 63-7040 กทม.มีนายชวโรจน์ รักดนตรี อายุ 48 ปี เป็นคนขับและรถยี่ห้อชีโนทรัค.สีขาว ทะเบียน 71-5085 สมุทรปราการ ส่วนพ่วงทะเบียน 60-3501 กทม มีนายอนนท์ ณ วิเชียรอายุ 37 ปี เป็นคนขับ.....

ร.ต.อ.บุญหลาย ชัยทิพย์ กล่าวว่า ภายหลังจากที่ได้รับแจ้งได้เดินทางไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบคู่กรณีกำลังมีปากเสียงทะเลาะวิวาทกัน จึงได้ห้ามปรามและ ให้ทั้งสองฝ่ายคลื่อนรถออกผิวการจราจรเกรงว่าการจราจรจะติดขัด เนื่องจากเป็นช่วงวันหยุดต่อเนื่องและมีประชาชนเดินทางออกต่างจังหวัดจำนวนมาก พร้อมนำคู่กรณีทั้งสองฝ่ายมาที่ สน.บางนา.....

จากการสอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุทั้สองฝ่ายได้ขับรถมาจากถนนสรรพวุธมุ่งหน้าในถนนเทพรัตน์ (ขาออก) และรถของนายชวโรจน์ ได้ถูกรถของนายอานนท์เฉี่ยวชนได้รับความเสียหาย และนายชวโรจน์ได้ขับรถติดตามคู่กรณีมา จนทันกันในจุดเกิดเหตุและเกิดมีปากเสียงทะเลาะวิวาทกันตามที่ปรากฎในคลิปในโลกโซเชียล.....

เบื้องต้นได้เตรียมดำเนินคดีทั้งสองฝ่ายทั้งคดีรถชนและคดีทะเลาะวิวาท โดยเรื่องความเสียหายของรถเฉี่ยวชนกันสามารถตกลงชดใช้กันได้แล้วโดยทางบริษัทประกันภัยรับไปดำเนินการ ส่วนในเรื่องที่มีการทำร้ายร่างกายกันพบว่ามีบาดแผลที่แขนซ้ายเล็กน้อย ซึ่งต้องรอผลจากทางแพทย์ว่าบาดแผลที่เกิดขึ้นจากสิ่งใด ก่อนแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมต่อไป.....

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากทั้งสองฝ่ายมาที่ สน.บางนา และได้มีการเจรจาตกลงกันได้ โดยนายอานนท์ ได้ยกมือไหว้ขอโทษและกอดคอกัน และแยกย้ายกันกลับ รอพนักงานสอบสวนนัดเข้ามาให้ปากคำและรับทราบข้อกล่าวหาต่อไป....

Credit : https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_1434145

 

guest

Post : 2018-08-11 13:43:42.0     Forum: ข่าว  >  อายเพื่อน!! เเม่ไม่มางานวันเเม่ที่โรงเรียน ม.6 โดดตึกเรียนลาโลก!!

 

 

 

               

 

*** ข่าวชาวบ้าน!!..**
อายเพื่อน!! เเม่ไม่มางานวันเเม่ที่โรงเรียน ม.6 โดดตึกเรียนลาโลก!!
Radio online : www.arjanpong.com
FM 89.75 MHz. พระนครศรีอยุธยา 
Time : 06.00-08.00 น/17.00-19.00 น. ทุกวัน

วันนี้ (10 ส.ค.) เมื่อเวลา 14.40 น. ร.ต.อ.เจมรัก โสสอน ร้อยเวร สอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ จ.ศรีสะเกษ ได้รับแจ้งว่า เกิดเหตุเด็กนักเรียนกระโดดลงมาจากอาคารเรียนชั้น 5 อาคารภูมิภักดี โรงเรียนศรีสะเกษวิทยาลัย อ.เมืองศรีสะเกษ จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงพบว่า มีรถหน่วยกู้ชีพ โรงพยาบาลศรีสะเกษ มารับตัวผู้บาดเจ็บส่งไปยังโรงพยาบาลศรีสะเกษแล้ว เพื่อเร่งให้การช่วยชีวิตอย่างเต็มที่ เนื่องจากผู้บาดเจ็บอาการสาหัสมาก.....

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นักเรียนที่กระโดดลงมาจากตึกอาคารเรียน ชื่อ นายจารุวิทย์ จันทร์เทศ หรือ น้องโอม นักเรียนชั้น ม.6/8 โรงเรียนศรีสะเกษวิทยาลัย โดยน้องโอมได้กระโดดลงมาจากตึกเอง ซึ่งจากการสอบถามเพื่อน ๆ นักเรียนที่เรียนหนังสือชั้นเดียวกันทราบว่า น้องโอมมีอาการค่อนข้างเครียดมากในวันนี้ และพอถึงช่วงเวลาเกิดเหตุ น้องโอมได้ปีนข้ามออกมายังระเบียงชั้น 5 และได้เดินออกมาบริเวณระเบียงทางด้านทิศตะวันตก.....

จากนั้นโดยที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน น้องโอมได้กระโดดตึกลงมากองอยู่กับพื้นข้างล่าง ท่ามกลางเสียงร้องตะโกนด้วยความตกใจของเพื่อนนักเรียนและผู้ที่เห็นเหตุการณ์ และอาจารย์ได้รีบแจ้งไปยัง 1669 เพื่อให้มารับตัวน้องโอม ส่งโรงพยาบาลศรีสะเกษอย่างเร่งด่วน.....

ต่อมาเวลา 18.20 น. วันเดียวกันนี้ โรงพยาบาลศรีสะเกษ ได้แจ้งให้ ร.ต.อ.เจมรัก โสสอน ร้อยเวรคดีนี้ทราบว่า น้องโอมได้เสียชีวิตแล้ว ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของพ่อแม่ญาติพี่น้อง คณะอาจารย์และเพื่อนนักเรียนทุกคน.....

ส่วนสาเหตุ ทราบว่า วันนี้ ที่โรงเรียนได้มีการจัดกิจกรรมวันแม่ ซึ่งแม่ของนายจารุวิทย์ ไม่ได้มาร่วมงานด้วย โดยอาจจะติดภารกิจ ตำรวจทราบว่า พ่อกับแม่ของนายจารุวิทย์แยกทางกัน จึงอาจจะเป็นเหตุให้นายจารุวิทย์เกิดน้อยใจและเครียดจนนำไปสู่การคิดสั้นก่อเหตุดังกล่าว.....

Credit : https://www.youtube.com/watch?v=C76BdnO17Kc
https://mgronline.com/local/detail/9610000079864

guest

Post : 2018-08-10 13:30:26.0     Forum: ข่าว  >  กฎเเห่งกรรม!! เณรคำเจอคุก 114 ปี!!

 

 

                     

 

*** ข่าวชาวบ้าน!!..***
กฎเเห่งกรรม!! เณรคำเจอคุก 114 ปี!!
Radio online : www.arjanpong.com
FM 89.75 MHz. พระนครศรีอยุธยา 
Time : 06.00-08.00 น/17.00-19.00 น. ทุกวัน

สำหรับอดีตพระวิรพล ฉัตตโก หรืออดีตหลวงปู่เณรคำ นามเดิมว่า "วิรพล สุขผล" เกิดที่บ้านทรายมูล ตำบลทรายมูล อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2522 เป็นบุตรคนที่ 4 จากพี่น้องทั้ง 5 คนของนายรัตน์ สุขผล และนางสุดใจ สุขผล.....

ด.ช.วีระพล สุขผล บวชเป็นสามเณรเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2537 ขณะนั้นอายุได้ 15 ปี ที่วัดภูเขาแก้ว อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี โดยมีหลวงปู่โชติ อาภัคโค เป็นพระอุปัชฌาย์ และเข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระ เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2542 ได้รับฉายาทางพระพุทธศาสนาว่า "ฉัตติโก" หลังจากอุปสมบทเป็นพระภิกษุแล้ว ต่อมาหลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก ได้ออกเดินทางมายังจังหวัดศรีสะเกษ มีตำแหน่งเป็นประธานสงฆ์วัดป่าขันติธรรม บ้านยาง ตำบลยาง อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ ก่อนที่จะเกิดเรื่องฉาวมีภรรยาถึง 8 คน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และฐานฟอกเงิน.....

หลังเกิดเรื่องราวฉาวโฉ่ขึ้นมานายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ทนายความชื่อดัง ได้นำข้อมูลเข้าร้องทุกข์ต่อกองปราบปรามให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง ต่อมากรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ได้สืบหาข้อมูลจนทราบว่ามีการทำผิดวินัยสงฆ์อย่างร้ายแรง ถึงขั้นต้องอาบัติปาราชิก จึงอายัดบัญชีเงินฝากกว่า 21 บัญชี วงเงินกว่า 200 ล้านบาท พร้อมทั้งถูกดีเอสไอ ออกหมายจับ 5 ข้อหา คือ 1.พรากผู้เยาว์อายุต่ำกว่า 15 ปี 2.กระทำชำเราเด็กหญิง 3.ฉ้อโกงประชาชน 4.ความผิดฐานฟอกเงิน และ 5.ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฐานอวดอุตริมนุสธรรมผ่านเว็บไซต์.....

ขณะที่อดีตเณรคำ ได้หลบหนีไปกบดานอยู่ที่สหรัฐอเมริกา พร้อมเปลี่ยนชื่อเป็น "พระวิมุติญาณ" แห่งวัดป่าขันติบารมี ตั้งอยู่บนเนินเขาสูง มีเนื้อที่ประมาณ 2 เอเคอร์ เมืองซานติเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยมีสถานภาพเป็นผู้ลี้ภัย ซึ่งก็ยังมีภาพทำกิจนิมนต์อย่างพระสงฆ์ ถูกเผยแพร่ออกมาอย่างต่อเนื่อง กระทั่งวันที่ 22 กรกฎาคม 2559 ทางเจ้าหน้าที่สหรัฐฯจับกุมตัวได้ที่ย่านริเวอร์ไซด์ อิส ลอสแอนเจลิส จนวันที่ 15 กรกฎาคม 2560 ศาลชั้นต้นแคลิฟอร์เนีย มีคำสั่งให้ส่งตัวนายวิรพล สุขผล เป็นผู้ร้ายข้ามแดน ตาม พ.ร.บ.ความร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่องทางอาญา พ.ศ.2535 เพื่อขอตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดน ให้กลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย.....

ต่อมานายวีรพล สุขผล ได้ถูกส่งตัวมาถึงประเทศไทยเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2560 ด้วยสายการบินไทย จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวไปที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ก่อนที่จะสรุปสำนวนส่งตัวให้อัยการส่งฟ้องศาล แต่นายวีรพล กลับให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาพร้อมขอไปให้สู้คดีในชั้นศาล.....

จนล่าสุดวันนี้ 9 สิงหาคม 2561 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลได้อ่านคำพิพากษาสั่งจำคุกนายวิรพล สุขผล หรืออดีตพระวิรพล ฉัตตโก หรืออดีตหลวงปู่เณรคำ อายุ 39 ปี จำเลยในความผิดฐานตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ปี 2552, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และฐานฟอกเงิน รวมจำคุกทั้งสิ้น 114 ปี.....

โดยอัยการโจทก์ฟ้องว่า เมื่อระหว่างวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2552-27 มิถุนายน 2556 ต่อเนื่องกัน จำเลยอาศัยความเป็นพระภิกษุในฐานะประธานสงฆ์วัดป่าขันติธรรม จังหวัดศรีสะเกษ และความศรัทธาของประชาชน โดยจำเลยได้บังอาจหลอกลวงว่า จำเลยนิมิต (ฝัน) พบองค์อินทร์ ขอให้สร้างพระแก้วมรกตองค์ใหญ่ที่สุดในโลก และสร้างมหาวิหารครอบองค์พระโดยใช้หยกเขียวแท้จากประเทศอิตาลี และสร้างเครื่องทรงพระแก้ว 3 ฤดูด้วยทองคำแท้ ก่อสร้างเสาวิหารแก้ว 199 ต้นๆละ 3 แสนบาท รูปหล่อพระทองคำ (รูปเหมือนจำเลย) ก่อสร้างวิหารสำหรับประชาชนที่วัดป่าขันติธรรม สาขา 1 จังหวัดอุบลราชธานี สร้างวัดที่จังหวัดสุพรรณบุรี รวมทั้งการจัดซื้อเรือจากสหรัฐฯ เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมปี 2554 โดยจำเลยประกาศชักชวนให้ประชาชน นำเงิน ทองคำ และทรัพย์สินมาบริจาคกับจำเลย ที่วัดป่าขันติธรรม โดยจัดตู้บริจาค 8 ตู้.....

นอกจากนี้ จำเลยยังได้ใช้เว็บไซต์ เผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับการจัดสร้างสิ่งต่างๆ จนมีผู้เสียหาย 29 ราย (เฉพาะที่มาร้องทุกข์) หลงเชื่อว่าจำเลยเป็นพระปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ เข้าร่วมบริจาคทองคำ เงินสด และทรัพย์สินอื่นๆ รวมมูลค่า ทั้งสิ้น 28,649,553 บาท แล้วจำเลยโอนเงิน ที่ได้จากการฉ้อโกงไปซื้อรถยนต์หรู 3 คัน รถยนต์โตโยต้าแคมรี หลายสิบคัน รถยนต์ตู้โตโยต้า 2 คันโดยทุจริตทั้งที่ความจริงแล้วจำเลยมิได้ก่อสร้างศาสนสถานใดๆ เลยตามที่กล่าวอ้าง และมิได้เป็นพระปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบแต่อย่างใด เพราะจำเลยต้องปาราชิก พ้นจากความเป็นพระภิกษุ เนื่องจากมีเพศสัมพันธ์ กับหญิงอื่นจนตั้งครรภ์ เหตุเกิดที่จังหวัดศรีสะเกษ, อุบลราชธานี เชียงใหม่ และที่อื่นเกี่ยวพันกัน ขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 และ 343 ด้วย.....

ศาลพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานทั้งสองฝ่ายแล้วเห็นว่า พยานหลักฐานโจทก์มีน้ำหนักน่าเชื่อถือ ไม่มีเหตุปรักปรักปรำใส่ร้ายจำเลยให้ต้องรับโทษ ทั้งศาลแพ่งได้พิพากษาให้ริบเงิน และทรัพย์สินจำนวน 43 ล้านบาทเศษของจำเลย ที่ได้จากการกระทำผิดตกเป็นของแผ่นดิน นอกจากนี้ ฟังได้ว่าจำเลยมีการใช้จ่ายเงินอย่างฟุ่มเฟือยเกินกิจของสงฆ์ นั่งเครื่องบินเช่าเหมาลำ นำเงินไปซื้อรถยนต์หลายสิบคันที่ได้จากการฉ้อโกง โดยจำเลยไม่มีพยานหลักฐานมาหักล้างพยานหลักฐานโจทก์ได้ ข้อต่อสู้จำเลยฟังไม่ขึ้น เชื่อว่า จำเลยกระทำผิดตามฟ้องจริง.....

การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป รวมจำคุกจำเลยทั้งสิ้น 114 ปี แต่ตามกฎหมายเมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้ว จำคุกสูงสุดตาม ม.91(2) ได้ 20 ปี และให้ชดใช้เงินกับผู้เสียหายกับ 29 ราย ตามจำนวนที่ได้ฉ้อโกงไปด้วย.....

Credit : http://www.naewna.com/likesara/356866
https://www.youtube.com/watch?v=VkYZP6YANxs

guest

Post : 2018-08-09 12:09:42.0     Forum: ข่าว  >  หัวอกเเม่!!"เป้ย ปานวาด"นอนกอดลูกน้ำตาซึม!!

 

 

                      

 

 

*** ข่าวชาวบ้าน!!..***
หัวอกเเม่!!"เป้ย ปานวาด"นอนกอดลูกน้ำตาซึม!!
Radio online : www.arjanpong.com
FM 89.75 MHz. พระนครศรีอยุธยา 
Time : 06.00-08.00 น/17.00-19.00 น. ทุกวัน

ยังคงเป็นประเด็นที่ชาวเน็ตให้ความสนใจอย่างมาก สำหรับกรณีความสัมพันธ์ของนักแสดงสาวชื่อดัง เป้ย-ปานวาด กับสามีหนุ่ม ป๊อบ-นิธิ หลังสาวเป้ยตัดสินใจออกมาโพสต์ไอจีเป็นรูปแชทไลน์ของสาวปริศนาคนหนึ่ง ซึ่งสาวเป้ยได้เขียนแคปชั่นในทำนองว่าขอให้สาวปริศนาคนดังกล่าวเลิกยุ่งกับสามีของตนถ้าหากชื่นชอบตนจริง ซึ่งพอสาวเป้ยโพสต์รูปดังกล่าวลงไป ในโลกออนไลน์ก็ได้มีการแสดงความคิดเห็นถึงเรื่องนี้อย่างกว้างขวาง โดยมีทั้งคนที่เข้ามาคอมเม้นต์ให้กำลังใจสาวเป้ยและคอมเม้นต์ต่อว่าหนุ่มป๊อบ

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 8 ส.ค.สาวเป้ย ได้อัพไอจีส่วนตัวเป็นคลิปวีดีโอของตนและน้องโปรดลูกชาย กอด หอมและหยอกล้อกัน พร้อมแคปชั่นเป็นรูปอีโมติคอนหัวใจและยิ้ม @prod_pei_pop #prodassadin ซึ่งพอสาวเป้ยโพสต์คลิปลงในไอจี ก็มีเพื่อนพ้องในวงการ อาทิ วิว-วรรณรท , ใบเตย อาร์สยาม , เบนซ์-พรชิตา, แจ๊ค แฟนฉัน, แตงโม-นิดา ฯลฯ รวมทั้งแฟนคลับเข้ามาคอมเม้นต์ให้กำลังใจอย่างมากมาย...

Credit : https://www.dailynews.co.th/entertainment/659565
https://www.youtube.com/watch?v=NhpEYuBcaWI

guest

Post : 2018-08-08 13:09:32.0     Forum: ข่าว  >  แค่บีบเเตร!! เบนซ์เมาเดือด ซึ่งไล่ล่าขยี้กลางกรุง!!

 

 

 

                        

 

 

*** ข่าวชาวบ้าน!!..***
แค่บีบเเตร!! เบนซ์เมาเดือด ซึ่งไล่ล่าขยี้กลางกรุง!!
Radio online : www.arjanpong.com
FM 89.75 MHz. พระนครศรีอยุธยา 
Time : 06.00-08.00 น/17.00-19.00 น. ทุกวัน

จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Nipon Asavakulpanus โพสต์คลิปวิดีโอระทึก โดยเป็นเหตุการณ์ที่ผู้โพสต์ระบุว่า ได้ขับรถอยู่บนถนนพระราม 3 และได้มี รถเบนซ์ สีบรอนซ์ คันหนึ่งขับเซมาในเลนของตนเองคล้ายคนขับเมา จึงทำการบีบแตรไปเท่านั้น ทว่าเบนซ์คันดังกล่าวกับขับไล่จี้ตูดรถผู้โพสต์มาตลอดทาง จนรู้สึกหวาดกลัวว่าจะถูกทำร้าย.....

ผู้โพสต์ขับรถต่อมาจนถึงถนนพระราม 3 มุ่งหน้ารัชดาภิเษก ก่อนขึ้นสะพานกรุงเทพ และได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยความตกใจ โดยที่รถเบนซ์คันเดิมยังขับตามมา จนเจอเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางโพงพาง จึงรีบวิ่งลงไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่าถูกเบนซ์ขับตามคล้ายจะทำร้าย.....

ผู้โพสต์ระบุต่อว่า จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เป่าวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายชายขับเบนซ์ เมาไล่ชน ปรากฏว่าวัดได้ 224 มิลลิกรัม เกินค่ากำหนดมาถึง 4 เท่า.....

โดยผู้โพสต์ต้องการลงบันทึกประจำวันเรื่องที่ถูกชายขับเบนซ์ เมาไล่ชน ทว่าตำรวจอ้างว่าลงไม่ได้ เนื่องจากชายขับเบนซ์ยังอยู่ในอาการเมา พร้อมกันนี้ ชายคนเดิมอ้างว่าตนเป็นเจ้าของภัตตาคารเก่าแก่ ย่านถนนพระราม 3 โดยเสนอว่า ขอให้เรื่องที่เกิดขึ้นจบ แล้วจะให้กินข้าวฟรี.....

แม้ท้ายสุดชายขับเบนซ์ต้องนอนคุก ทว่าก็ได้ประกันตัว โดยหลังจากก่อเรื่อง ได้มีการโทรมาขอโทษผู้โพสต์เป็นการส่วนตัวแล้ว.....

Credit : https://www.khaosod.co.th/monitor-news/news_1417450

guest

Post : 2018-08-07 13:23:24.0     Forum: ข่าว  >  "เล่นละครจัดฉากหรือเปล่า??.." สหรัฐถามดังๆ ลอบสังหารถล่มผู้นำเวเนฯ!!

 

 

 

                                

 

 

 

*** ข่าวชาวบ้าน!!..***
"เล่นละครจัดฉากหรือเปล่า??.." 
สหรัฐถามดังๆ ลอบสังหารถล่มผู้นำเวเนฯ!!
Radio online : www.arjanpong.com
FM 89.75 MHz. พระนครศรีอยุธยา 
Time : 06.00-08.00 น/17.00-19.00 น. ทุกวัน

 

จากกรณีเหตุพยายามใช้โดรนลอบสังหารนายนิโกลัส มาดูโร ประธานาธิบดีเวเนซุเอลา ขณะกำลังกล่าวสุนทรพจน์ภายในพิธีสวนสนามเนื่องในวันครบรอบ 81 ปี กองกำลังแห่งชาติกลางกรุงการากัส เมื่อวันที่ 4 ส.ค. ที่ผ่านมา จนทำให้มีทหารบาดเจ็บ 7 นาย....

 

ล่าสุด เจ้าหน้าที่สามารถจับผู้ต้องสงสัยได้แล้ว 6 คน และกำลังอยู่ระหว่างการสอบสวน ขณะที่ประธานาธิบดีมาดูโรกล่าวหานายฮวน มานูเอล ซานโตส ผู้นำโคลอมเบียและนักการเงินกลุ่มหนึ่งในสหรัฐฯ อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ครั้งนี้....

 

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลโคลอมเบียปฏิเสธมีส่วนเกี่ยวข้อง พร้อมตอบโต้ว่าเป็นข้อกล่าวหาที่ไร้สาระ เนื่องจากขาดหลักฐานอย่างสิ้นเชิง.....

 

ทั้งนี้ แนวร่วมกบฏเสื้อเชิ้ตแห่งชาติ ซึ่งเป็นกลุ่มต่อต้านรัฐบาลได้แถลงการณ์ผ่านโลกออนไลน์ อ้างว่าเป็นผู้ก่อเหตุลอบสังหารนายมาดูโร โดยวางแผนใช้โดรนใส่ระเบิด 2 ลำ โจมตีผู้นำเวเนซุเอลา แต่ถูกเจ้าหน้าที่ทางการใช้อาวุธปืนยิงร่วงก่อน.....

 

สำหรับนายนิโกลัส มาดูโรในวัย 55 ปี เป็นทายาททางการเมืองของนายฮูโก ชาเวซ อดีตประธานาธิบดีเวเนซุเอลาคนที่ 52 เป็นปฏิปักษ์อันดับต้นๆ ของมหาอำนาจสหรัฐอเมริกา.....

 

ที่ผ่านมารัฐบาลสหรัฐฯ ก็ไม่ได้ยอมรับผลการเลือกตั้งของนายมาดูโร ที่คว้าชัยเป็นประธานาธิบดีเวเนซุเอลา สมัยที่ 2 พร้อมใช้มาตรการคว่ำบาตรอีกด้วย ส่วนประเทศเพื่อนบ้านอย่างชิลีชี้ว่า นายมาดูโรขาดความชอบธรรม ไม่โปร่งใส และไม่เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย....

 

Credit : https://www.youtube.com/watch?v=QKPyD1JXsEQ
https://www.sanook.com/news/7457542/

guest

Post : 2018-08-06 22:20:58.0     Forum: ข่าว  >  เล่นข่าวกันมั่วเกินไปเเล้ว!! เขื่อนเเตก-น้ำทะลักเเก่งกระจาน!!

 

 

 

                         

 

 

*** ข่าวชาวบ้าน!!..**
เล่นข่าวกันมั่วเกินไปเเล้ว!! เขื่อนเเตก-น้ำทะลักเเก่งกระจาน!!
Radio online : www.arjanpong.com
FM 89.75 MHz. พระนครศรีอยุธยา 
Time : 06.00-08.00 น/17.00-19.00 น. ทุกวัน

 

เมื่อวันที่ 5 ส.ค.นายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่าได้รับรายงานล่าสุดจากนายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เพิ่มขึ้นเพื่อช่วยเจ้าหน้าที่ในระดับจังหวัดดูแลบริหารจัดการน้ำได้รายงานดังนี้

 

.....เขื่อนแก่งกระจาน..... 
1.ในช่วงนี้ปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนเฉลี่ย 21 ล้าน ลบ.ม/วัน หรือ 245 ลบ.ม/วินาที

2.อัตราการระบายน้ำสูงสุดของอาคารระบายน้ำล้นฉุกเฉิน (spillway ) 1,380 ลบ.ม/วินาที มากกว่า 5 เท่าของปริมาณน้ำที่ไหลเข้าเขื่อน ดังนั้นไม่ล้นสันเขื่อน หรือ overtop แน่นอน และ

3.ตัวเขื่อนมีความมั่นคงแข็งแรง มีการติดตั้งเครื่องมือวัดพฤติกรรมเขื่อน และการตรวจสอบ บำรุงรักษาตามข้อกำหนด อย่างต่อเนื่อง

 

สำหรับพื้นที่ได้รับกระทบน้ำท่วมส่วนใหญ่จะท่วมพื้นที่ต่ำ 2 ข้างแม่น้ำเพชรบุรี โดยระดับน้ำท่วมไม่ถึง 1-2 เมตร ยกเว้นมีพายุเข้า ถ้าฝนตกตามฤดูกาลชาวบ้านทราบอยู่แล้ว...

 

Credit : https://www.dailynews.co.th/politics/658952v
https://www.youtube.com/watch?v=TkEhUNBw2Wc

guest

Post : 2018-08-04 16:11:23.0     Forum: ข่าว  >  น้ำตาพ่อยามไร้สิ้นเเรง!! ลูกสาวเเยกวงกินข้าว โยนเศษอาหารให้ เเล้วไล่ไปอยู่วัด!!

 

 

 

                          

 

 

 

*** ข่าวชาวบ้าน!!..***
น้ำตาพ่อยามไร้สิ้นเเรง!! ลูกสาวเเยกวงกินข้าว 
โยนเศษอาหารให้ เเล้วไล่ไปอยู่วัด!!
Radio Online : www.arjanpong.com
F.M 89.75 MHz. พระนครศรีอยุธยา
Time : 06.00-08.00 น./17.00-19.00 น.ทุกวัน

 

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 3 ส.ค.61 ที่บ้านเลขที่ 63 หมู่ที่ 17 บ้านคลองสง ซอยราชดำเนิน 6 ต.ละแม อ.ละแม จ.ชุมพร เป็นบ้านกลางสวนปาล์มบนภูเขาสูง พบห้องเล็กๆ ข้างเล้าไก่ โดยมี นายสำเริง บรรจงช่วย อายุ 65 ปี ในสภาพคนพิการ ป่วยเป็นอัมพฤกษ์ อาศัยอยู่.....

 

นายสำเริงเล่าว่า ตนเป็นชาว จ.นครศรีธรรมราช ย้ายมาตั้งรกรากที่ อ.ละแม จ.ชุมพร ร่วม 40 ปี ตั้งแต่ยังเป็นหนุ่ม มีลูกจากภรรยาเก่า ใน จ.นครศรีธรรมราช 3 คน เป็นชาย 1 คน หญิง 2 คน.....

โดยตนได้พยายามสร้างสวนเกษตร ทั้งปาล์มน้ำมัน สวนยางพารา เนื้อที่ 35 ไร่ ต่อมาเมื่อลูกชายคนโต และลูกสาว คนกลาง เติบโต ตนจึงแบ่งที่ดินให้ แล้วทั้งสองก็แยกครอบครัวออกไป ส่วนลูกสาวคนสุดท้อง ตนได้ส่งเสียให้เรียนที่มหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดัง จนจบ ป.ตรี หมดเงินไปร่วมล้านบาท.....

 

พอจบการศึกษา ลูกสาวคนสุดท้องก็กลับมาทำสวนเกษตรที่บ้าน ตนได้แบ่งที่ดินให้ 7 ไร่ เป็นสวนปาล์มน้ำมัน ส่วนที่ดินของตนเหลือเพียง 17 ไร่ เป็นที่ดิน สปก. และที่ดินที่รัฐอนุญาตให้ทำกิน.....

 

ต่อมากองทุนสวนยางพาราได้ประกาศให้โค่นต้นยางพารา ให้เงินไร่ละสองหมื่นบาท ในช่วงนั้นนายสำเริงเริ่มป่วยเป็นอัมพฤกษ์ จึงมอบให้ลูกสาวคนเล็กไปดำเนินการเรื่องเงินทดแทน ที่ได้จากองทุนสวนยางพารา ทั้งหมดร่วม 2 แสนบาท เมื่อทราบว่าเงินได้รับการอนุมัติแล้ว นายสำเริงจึงทวงถาม แต่ได้รับคำตอบว่า เงินทั้งหมดเป็นของลูกสาว รวมถึงที่ดินทั้ง 24 ไร่ ด้วย.....

 

เมื่อนายสำเริงทวงเงินบ่อยครั้งเข้า ลูกสาวก็บอกว่า พ่อแก่แล้วสมควรไปอยู่วัด ร่างกายก็พิการไม่สมควรอยู่ในบ้าน หลังจากวันนั้นลูกสาว สามี และหลานสาว ก็แยกวงกินข้าว เหลือเพียงเศษอาหารให้นายสำเริงกินไปวันๆ.....

 

ต่อมานางอำไพ บรรจงช่วย อายุ 71 ปี พี่สาวของนายสำเริง ได้มาพบน้องชายในสภาพที่ถูกทอดทิ้ง ให้อยู่อย่างสกปรกมอมแมม ผอมโซ นางอำไพจึงนำนายสำเริงมาอยู่ที่บ้าน เเต่ด้วยมีลูกหลานเยอะ จึงจำเป็นต้องให้นายสำเริงไปพักในห้องเก็บของข้างเล้าไก่ชน.....

 

โดยนายสำเริงกล่าวว่า ต้องการเพียงบ้าน ที่ดิน ที่ตนเองเป็นผู้สร้างมาตั้งแต่ยังหนุ่มคืน เพื่อไว้อาศัยอยู่ตอนแก่ชราก่อนตายเท่านั้น ส่วนที่ดินที่เคยแบ่งให้ลูกๆ ไม่ขอเอาคืน อีกทั้งอยากขอให้ลูกชายคนโต และลูกสาวคนกลาง ที่ไม่เคยมาเยี่ยมเยียนตนเลยในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา ให้มาดูใจพ่อก่อนตายสักครั้ง.....

 

Credit : https://www.youtube.com/watch?v=fm-J8oh7WvI

guest

Post : 2018-08-03 12:16:41.0     Forum: ข่าว  >  ผวากันทั้งตู้!! ประตูรถไฟฟ้า BTS เปิดเอง!!

 

 

 

                      

 

 

 

*** ข่าวชาวบ้าน!!..***
ผวากันทั้งตู้!! ประตูรถไฟฟ้า BTS เปิดเอง!!
Radio Online : www.arjanpong.com
F.M 89.75 MHz. พระนครศรีอยุธยา
Time : 06.00-08.00 น./17.00-19.00 น.ทุกวัน

 

วานนี้ (2 ส.ค) โลกออนไลน์ได้เผยแพร่คลิปประตูรถไฟฟ้าบีทีเอส เปิดขณะรถวิ่งเข้าสู่สถานีสะพานควาย ผู้โดยสารยืนระทึก ขณะที่ชาวเน็ตต่างวิจารณ์ถึงความไม่ปลอดภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ชอบยืนพิงประตู ซึ่งหากเกิดเหตุดังกล่าวขึ้นคงอันตรายมาก.....

 

รายงานข่าวจาก บริษัท ขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บีทีเอส ชี้แจงว่า กรณีคลิปบานประตูรถไฟฟ้าบีทีเอส เปิดอ้าในขณะที่ขบวนรถกำลังเคลื่อนที่ ที่มีการส่งต่อกันในสื่อออนไลน์นั้น เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเช้าวันที่ 2 ส.ค. เวลาประมาณ 07.30 น. ขบวนรถหมายเลข 14 ขณะเคลื่อนออกจากสถานีหมอชิต บานประตูเกิดขัดข้อง เมื่อขบวนรถเข้าสู่สถานีถัดไป คือ สถานีสะพานควาย เจ้าหน้าที่ได้ทำการแก้ไข และล็อกประตูทันที รวมเวลาทั้งสิ้นไม่เกิน 2 นาที.....

 

ทั้งนี้ บีทีเอสให้ความสำคัญสูงสุดในเรื่องความปลอดภัยของผู้โดยสารและไม่ได้นิ่งนอนใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยบีทีเอสได้ดำเนินการตรวจสอบบานประตูขบวนรถคันดังกล่าวโดยละเอียดและได้ดำเนินการแก้ไขเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุขึ้นอีก ต้องขออภัยอย่างสูงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ และขอความกรุณางดพิงประตูขบวนรถตลอดการเดินทาง โดยได้มีการติดป้ายเตือนไว้ที่บานประตูในขบวนรถทั้งหมด 208 ตู้ เพื่อความปลอดภัย และหากพบเหตุไม่ปกติใดๆ ในขบวนรถ ขอให้กดปุ่มกระดิ่งแจ้งเจ้าหน้าที่ควบคุมรถไฟฟ้าทันที หรือแจ้งทางไลน์บีทีเอส @BTSSKYTRAIN ได้ทันที.....

 

Credit : https://mgronline.com/onlinesection/detail/9610000076950

guest

Post : 2018-08-02 13:34:02.0     Forum: ข่าว  >  โพสต์สุดท้าย น้องเก๋ถึงพี่เเหลม!! "คืนหมดทั้งเงิน-คอนโด!! จากนี้เริ่มใช้ชีวิตคนเดียว.."

 

 

 

                          

 

 

 

โพสต์สุดท้าย น้องเก๋ถึงพี่เเหลม!!
"คืนหมดทั้งเงิน-คอนโด!! จากนี้เริ่มใช้ชีวิตคนเดียว.."
Radio Online : www.arjanpong.com
F.M 89.75 MHz. พระนครศรีอยุธยา
Time : 06.00-08.00 น./17.00-19.00 น.ทุกวัน

 

ทำเอาช็อก ! ไปตามๆกันเลยทีเดียว สำหรับเรื่องราวของ เจ้าแหลม ศรีสะเกษ และ น้องเก๋ พัชรีวรรณ กันหา ประกาศจบความสัมพันธ์รัก ที่ร่วมสร้างกันมากว่า 14 ปี.....

 

โดยทางฝ่ายสาวนั้น ได้ออกมาโพสต์ข้อความโดยระบุว่า “เก๋กับพี่แหลมจบกันด้วยดี ขอให้ทุกคนเคารพในการตัดสินใจของเราด้วยนะค่ะ เรายังเป็นพี่น้องไม่ได้โกรธหรือเกลียดกัน ขอให้ทุกคนเป็นกำลังใจให้พี่แหลมสู้เพื่อประเทศชาติดีกว่านะคะ ขอบคุนทุก ๆ กำลังใจค่ะ”.....

 

โดยความรักของทั้งคู่นั้น ระยะแรกที่เดินทางเข้ามากรุงเทพฯ มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ลำบากมากด้วยความยากจน โดยเจ้าแหลมเคยให้สัมภาษณ์ในครั้งหนึ่งว่า “ตอนที่เข้ามาหางานทำที่กรุงเทพฯ ซื้อตั๋วรถไฟกับแฟนสาว เพื่อเข้ามาแสวงโชคที่เมืองกรุง แต่เกิดทำตั๋วรถไฟหาย ตอนที่ขึ้นรถไฟก็ต้องหลบหลี่ยงนายตรวจบนโบกี้ จนกระทั่งมาถึงกรุงเทพฯ ช่วงแรกก็เดินหางาน จนกระทั่งได้งานเป็นรปภ.ที่ห้างแห่งหนึ่งย่านบางนา ก่อนไปเป็นพนักงานเก็บขยะ ช่วงที่ชีวิตลำบากถึงขนาดต้องคุ้ยหาอาหารในกองขยะ สู้มาด้วยกัน ลำบากมาด้วยกัน”.....

 

ล่าสุดนั้น บนเฟซบุ๊กของ "น้องเก๋" ได้มีการโพสต์ข้อความล่าสุดโดยระบุว่า "โอนเงินคืนเรียบร้อยแล้วนะค่ะ....เริ่มต้นการยุคนเดวอย่างเป็นทางการ...โชคดีนะค่ะ....."

 

Credit : https://www.youtube.com/watch…
http://www.deepsnews.com/contents/6589

guest

Post : 2018-07-31 12:53:17.0     Forum: ข่าว  >  "หนูกลัว!!"เสียงสะอื้นไห้สุดท้ายของน้องหญิง ก่อนกระโดดรถสิ้นใจ!!

 

 

 

                          

 

 

*** ข่าวชาวบ้าน!!..***
"หนูกลัว!!"เสียงสะอื้นไห้สุดท้ายของน้องหญิง ก่อนกระโดดรถสิ้นใจ!!
Radio Online : www.arjanpong.com
F.M 89.75 MHz. พระนครศรีอยุธยา
Time : 06.00-08.00 น./17.00-19.00 น.ทุกวัน

 

กรณี เมื่อวันที่ 19 ก.ค. “น้องหญิง”หรือ น.ส.นรีกานต์ ยาวิราช อายุ 19 ปี ได้ไปเที่ยวสถานบันเทิงใน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ก่อนจะเสียชีวิตเป็นปริศนา เนื่องจากกะโหลกศีรษะแตกและสมองบวม โดย นายสุรพล หรืออ๊อฟ ดาราคำ อายุ 23 ปี ผู้ชายที่ขับรถไปส่ง อ้างว่าน้องหญิงได้กระโดดลงจากรถเทรลเลอร์ไปเอง แต่ผลชันสูตรระบุว่า ถูกตีด้วยของแข็งเข้าที่ท้ายทอย เบื้องต้นแจ้งข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยวผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย แต่ญาติติดใจการตายเพราะเชื่อว่าเป็นการฆาตกรรมมากกว่า......

 

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 29 ก.ค. ญาติของ "น้องหญิง" ได้เผยแพร่ 3 คลิปเสียง ที่บันทึกการสนทนาผ่านโทรศัพท์มือถือ ในคลิปนอกจากจะมีการเอ่ยถึงชื่อ น.ส.หญิง น.ส.เป็ด นายท็อป และนายอ๊อฟ แล้ว ยังมีเสียงจากหญิงสาวที่เป็นผู้ใหญ่ไม่ใช่วัยรุ่น กำลังพูดคุยหว่านล้อมให้ น.ส.เป็ด พาน้องหญิงกลับห้อง หรือไม่ก็ให้พากลับมาหาโดยด่วน เพราะไม่ไว้ใจในสถานการณ์ตรงหน้าของน้องหญิง เนื่องจากน้องหญิงถูกลวนลามด้วย นอกจากนี้ยังมีคลิปเสียงร่ำไห้ของน้องหญิงที่อยู่ในอาการหวาดกลัวสุดขีด พร้อมกับคำพรั่งพรูร่ำไห้ที่ฟังไม่ได้ศัพย์ แต่ที่แน่ๆมีคำว่า "หนูกลัวๆๆ".........

 

Credit : https://www.youtube.com/watch?v=cg37z9UHskY
https://www.dailynews.co.th/crime/657732

guest

Post : 2018-07-30 11:09:33.0     Forum: ข่าว  >  เปิดคลิป!! เสียงกรีดร้องตื่นตระหนกตกใจ เเผ่นดินไหวอินโดฯ!!

 

 

*** ข่าวชาวบ้าน!!..*** เปิดคลิป!! เสียงกรีดร้องตื่นตระหนกตกใจ เเผ่นดินไหวอินโดฯ!!

Radio Online : www.arjanpong.com

F.M 89.75 MHz. พระนครศรีอยุธยา

Time : 06.00-08.00 น./17.00-19.00 น.ทุกวัน

 

จากเหตุการณ์ แผ่นดินไหว ขนาด 6.4 แมกนิจูดบริเวณเกาะลอมบอก ที่อยู่ใกล้กับเกาะบาหลีสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของประเทศ อินโดนีเซีย ก่อนจะเกิดอาฟเตอร์ช็อกตามมาอีกระลอก ทำให้บ้านเรือนของประชาชนจำนวนมากได้รับความเสียหาย มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 10 รายและบาดเจ็บอีกกว่า 40 คน เมื่อเวลา 05.47 น.เช้าวันนี้ ตามเวลาท้องถิ่นประเทศไทย.....

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุด มีคนไทยที่เดินทางไปเที่ยวภูเขาไฟรินจานี บริเวณเกาะลอมบอก ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ และมีความสวยงาม ได้โพสต์ขอความช่วยเหลือ พร้อมทั้งระบุว่า มีคนไทยที่คาดว่าน่าจะติดอยู่ที่บริเวณดังกล่าวนับร้อยคน ซึ่งต่อมากระทรวงต่างประเทศ ได้ยืนยันว่า สามารถติดต่อชาวไทย ที่เดินทางไปท่องเที่ยวได้แล้ว และกำลังอยู่ระหว่างประสานให้ความช่วยเหลือทั้งหมด.....

 

โดยมีการเผยแพร่คลิปจากสมาชิกเฟซบุ๊ก Supaporn Bangmoung ซึ่งได้ถ่ายคลิปนาทีระทึก โดยพบว่า ภูเขาทั้งลูกเกิดความเคลื่อนไหวหลังจากแผ่นดินไหว และเกิดอาฟเตอร์ช็อก อย่างต่อเนื่อง โดยมีเสียงดังและดินเริ่มถล่มลงมาอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางความแตกตื่นของทุกคน ที่ตะโกนว่า ให้วิ่งและต้องหนีออกจากบริเวณดังกล่าว.....

 

Credit : https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_1387151

guest

Post : 2018-07-27 11:31:19.0     Forum: ข่าว  >  แม่เดือด!! เเจ้งตร.เอาเรื่องครู!! ขอดูหน้าอกลูกสาว ม.3 เทียบหญิงในคลิปโป๊!!

 

 

 

                          

 

 

*** ข่าวชาวบ้าน!!..***
แม่เดือด!! เเจ้งตร.เอาเรื่องครู!!..
ขอดูหน้าอกลูกสาว ม.3 เทียบหญิงในคลิปโป๊!!
Radio Online : www.arjanpong.com
F.M 89.75 MHz. พระนครศรีอยุธยา
Time : 06.00-08.00 น./17.00-19.00 น.ทุกวัน

 

จากกรณีที่คุณแม่ของเด็กนักเรียนหญิงชั้น ม.3 รายหนึ่ง เดินทางเข้าพบกับ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เพื่อร้องเรียนว่า เมื่อ 1 ปีที่ผ่านมา ลูกสาวถูกครูสาวที่โรงเรียนใน จ.ลำปาง เปิดเสื้อเพื่อขอดูเต้านม เพื่อเทียบกับคลิปหลุดที่ถูกเผยแพร่ในโซเซียลนั้น.....

 

ล่าสุด วันที่ 26 กรกฎาคม 2561 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองลำปาง จะได้ทำการเชิญคุณครูสาวทั้งสองคนที่เปิดหน้าอกของเด็กนักเรียน พร้อมกับรองผู้อำนวยการ มาพูดคุยกันอีกครั้งหนึ่ง เบื้องต้นเจตนาของครู ไม่น่าเข้าข่ายข้อหากระทำอนาจาร เชื่อว่าเป็นการช่วยเหลือและตรวจสอบหาความจริง หาความยุติธรรมให้กับเด็กนักเรียนสาวเท่านั้น.....

 

ขณะที่รองผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าว เปิดเผยว่า เรื่องนี้เกิดตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2560 ซึ่งเคยมีการทำเรื่องและตัดคะแนน แต่หลังการตรวจสอบก็ได้ทำเรื่องยกเลิกตัดคะแนนเด็กนักเรียนคนดังกล่าวแล้ว พร้อมชี้แจงว่าวันเกิดเหตุครูสาวได้ปลดกระดุมเสื้อนักเรียนเพียง 1 เม็ดเท่านั้น ไม่ได้ถอดเสื้อทั้งหมด ซึ่งให้การขัดแย้งกับเด็กหญิงคนดังกล่าวที่บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ถูกถอดเสื้อนักเรียนออกหมดเพื่อดูหน้าอก.....

 

Credit : https://hilight.kapook.com/view/175718
https://www.youtube.com/watch?v=pUhTwtRi548

처음 이전 ... 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 ... 다음 끝

 <iframe width="560" height="315" src="https://www.youtube.com/embed/_jUHKM1YHcc" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>