Support
Arjan Pong
035 323239, 035 323240, 089 8129392
Your shopping cart
ดูตะกร้าสินค้าของคุณ
ไม่มีสินค้าในตะกร้าของคุณ
###### No Permission ######
###### No Permission ######
###### No Permission ######
###### No Permission ######
###### No Permission ######
###### No Permission ######
###### No Permission ######
###### No Permission ######
###### No Permission ######
###### No Permission ######
###### No Permission ######
guest

Post : 2015-07-22 12:07:07.0     Forum: ถามมา ตอบไป  >  สอบถามเพิ่มเติมได้เลยครับ

 สอบถาม พูดคุยเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ได้เลยนะครับ...ยินดีครับ........

 โทร  089 8129392...

###### No Permission ######
###### No Permission ######
###### No Permission ######
guest

Post : 2015-07-13 21:54:46.0     Forum: เบื้องหลังบันเทิง  >  เทพบุตรเสียงกังสดาล‏

 

 

                                                            

   

 

" พี่น้อย เป็นอะรั๊ยยย?!!...."
 
เสียงของน้าออน เจ้าของร้านเสริมสวย ซอยช่างกลปัญจะ เเถวๆสะพานควาย ร้องลั่นกลางดึก
เมื่อได้เห็นสภาพของพี่น้อยของเธอ นอนหมดสติน้ำลายฟูมปากตาค้างอยู่ข้างหน้า เเขนขาไม่ขยับเขยื้อนลมหายใจอ่อนรวยริน ชีพจรเต้นช้า อาการเป็นตายเท่ากัน ไวเท่าความคิดเธอรีบเเจ้งไปยังตำรวจ 191ประสานงานไปยังรถพยาบาลพาพี่น้อยส่ง ร.พ วชิระ ในชั่วพริบตา
 
น้อย ทองใจ เด็กหนุ่มจากอัมพวา เเม่กลอง ผู้เป็นเตี่ยเป็นชาวจีนเเซ่ทอง ต่อมาก็เปลี่ยนนามสกุลมาเป็นทองใจหลังจากสิ้นเตี่ยเเล้ว น้อยกับเเม่ก็พากันอพยพมาอยู่ที่มหาชัย ทำมาค้าขายเล็กๆน้อยๆอยู่เเถวท่าเรือวัดตึกกับสถานีรถไฟ โดยมีเจ้าน้อยคอยเป็นหัวเรี่ยวหัวเเรงเดินขายของตามเเม่ติดๆ เรียกว่าติดเเม่เเจเลยว่างั้น

 

จนกระทั่งเริ่มเข้าสู่วัยหนุ่มรุ่นกระทง เจ้าน้อยก็เป็นเด็กหนุ่มที่ชอบร้องเพลงเป็นชีวิตจิตใจ งานวัดประจำปีที่ไหนเขาไม่เคยพลาดในการที่จะสมัครเข้าร่วมเเข่งขันประกวดร้องเพลงด้วยทุกครั้งไป โดยเฉพาะงานประจำปีที่วัดโกรกกรากเขาจะชนะเลิศทุกครั้ง เพลงปราบเซียนที่เขาใช้เข้าประกวดคือเพลงค่ำเเล้วในฤดูหนาวของ ล้วน ควันธรรม จนคณะกรรมการตัดสินต้องขอร้องไม่ให้เขาเข้าประกวด เพื่อเปิดโอกาสให้คนอื่นได้รับรางวัลบ้าง เเละก็เชิญให้เขามาเป็นกรรมการตัดสินด้วยกันซะเลย

 

จนกระทั่งครู ชาญชัย บัวบังศร เห็นเเวว จึงฝากให้ไปร้องเพลงอยู่ที่ภูเก็ตหลายปี จึงกลับเข้ามากรุงเทพฯ เข้ารับราชการทหารที่ ขสทบ. ได้ยศสิบตรี เเละได้เป็นนักร้องประจำวงมาตุลี ของขสทบ. ซึ่งสิบเอก สิทธิ์ โมกรกานต์ หัวหน้าวงได้พาไปรู้จักครูเบญจมินทร์ ฝากฝังเจ้าน้อยให้เป็นลูกศิษย์ลูกหาจนครูเเต่งเพลงให้รัองชื่อเพลง ทุยหน้าทื่อ บันทึกเเผ่นเสียงเป็นเพลงเเรกในชีวิต เมื่อปี พ.ศ 2499 ก่อนที่ครูจะไปสงครามเกาหลี

 

ไม่มีคนวิ่งเเผ่นไม่มีคนวิ่งเชียร์ เพลงทุยหน้าทื่อ ก็เลยไม่เเจ้งเกิดในวงการ เงียบหายไปกับสายลมอย่างน่าเสียดาย จนกระทั่งครูเบญจมินทร์ กลับมาจากสงครามเกาหลี ครูก็เเต่งเพลงมาด้วย 4 เพลง มีเพลง รำเต้ย,รักเเท้จากหนุ่มไทย 2 เพลงนี้ครูร้องเอง เสียงครวญจากเกาหลี ครูให้ สมศรี ม่วงศรเขียว เป็นผู้ร้อง เเละอีกเพลง โปรดเถิดดวงใจ เอามาให้เจ้าน้อยโดยเฉพาะเเล้วก็เปลี่ยนชื่อจาก น้อย ทองใจ มาเป็น ทูล ทองใจ

 

เมื่อเปิดทางวิทยุปรากฎว่าดังทุกเพลง เเละเป็นตำนานเพลงลูกทุ่งทั้ง 4 เพลงจนกระทั่งปัจจุบัน โดยเฉพาะ ทูล ทองใจ นั้นดังมากซึ่งต่อมาภายหลัง ครูก็นำไปฝากกับวงจุฬารัตน์ ของครูมงคล อมาตยกุล ยิ่งดังกันเข้าไปใหญ่ เพราะได้เพลงหนุนจากครูมงคลเเละครู ไพบูลย์ บุตรขัน อัดซ้ำกระหน่ำเข้าไป ดังเปรี้ยงปร้างจนฉุดไม่อยู่กันเลยทีเดียว เเละที่วงนี่เอง ทูล ทองใจ ก็ได้พบกับคู่ชีวิตที่เป็นนักร้องอยู่ที่วงนี้เหมือนกัน นั่นก็คือ นวลสวาท ชื่นชมบุญ ทั้งคู่ตกร่องปล่องชิ้นใช้ชีวิตคู่ด้วยกันจนมีพยานรัก 3 คนเป็นหญิง 2 ชาย 1 แล้วจึงเเยกออกมาทำวงเป็นของตัวเองเมื่อปี พ.ศ 2511 เเละยุบวงในปี พ.ศ 2515 เเต่ก็ยังคงรับเชิญร้องตามสวนอาหาร คาเฟ่ ต่างๆอยู่เสมอทั้ง 2 คน

 

กระทั่งวันที่ 30 มกราคม พ.ศ 2538 ทูล ทองใจ ก็ได้เดินทางไปยังร้านเสริมสวย น้าออน ซึ่งถือเป็นเพื่อนสนิทที่คอยดูเเลซึ่งกันเเละกันในยามบั้นปลายของชีวิต โดยในวันนั้นเขาได้ทำหล่อ เสริมสวย ทำเล็บมือเล็บเท้า ดัดผมให้เป็นลอนหยักศก หล่อชนิดที่เรียกว่าเขาไม่เคยทำมาก่อนเลย ตกเย็นก็กินข้าวกับผัดคะน้าหมู ปลาทู ปลาสลิด เเล้วเข้านอนตั้งเเต่หัวค่ำ จนตกดึก น้าออนต้องสะดุ้งตกใจตื่นเมื่อได้ยินเสียงเขาหายใจติดๆขัดๆ จนกระทั่งธาตุไฟเเตกต้องหามส่ง ร.พ กันจ้าละหวั่น

 

1 กุมพาพันธ์ พ.ศ 2538 เวลา 20.05 น. ทูล ทองใจ ก็จากมิตรรักนักฟังเพลงไปอย่างสงบ ด้วยโรคความดันโลหิตสูงจนเส้นโลหิตฝอยในสมองเเตก เลือดคั่งในสมอง ด้วยวัยเพียง 67 ปี ท่ามกลางความสูญเสียของวงการเพลงลูกทุ่งอย่างที่สุด

 

" พี่น้อย...หลับให้สบายนะ....เดี๋ยวฉันกับลูกๆ จะปั้นหุ่นของพี่ไว้ที่วัดภุมรินทร์กุฏีทอง อัมพวา บ้านเกิดของพี่ เเละพี่จะได้กลับไปอยู่ที่นั่นตลอดไป........."

 

นวลสวาท ชื่นชมบุญ ภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากของเขา กระซิบข้างหูเบาๆก่อนที่จะซบอกร้องไห้อย่างไม่อายใครอยู่บนร่างของ ทูล ทองใจอยู่นานเเสนนาน..............

 

 

guest

Post : 2015-07-13 21:45:29.0     Forum: เบื้องหลังบันเทิง  >  ท่าฉลอม

 

 

                                        

 

 

" หง่า....นี่ไม่คิดจะเเต่งเพลงให้มหาชัยบ้านเกิดเราหน่อยเหรอ? เห็นเเต่งชมบ้านอื่นเมืองอื่นเขาอยู่ได้ "
 
เสียงตัดพ้อต่อว่าของหญิงวัยกลางคนที่ประชดประชันน้องชายอย่างอารมณ์ดี ในขณะที่พี่น้องทั้งคู่ เดินคุยกันเพลินๆ ริมฝั่งเลียบปากอ่าวเเม่น้ำท่าจีน เมื่อปลายพ.ศ 2504 ปีฉลู
 
" เเต่งยังไง? " เสียงของสง่า(ชาลี) อินทรวิจิตร ถามขืั้นเบาๆในขณะที่สายตายังจ้องหอนาฬิกาท่าเรือมหาชัย
ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ที่ในขณะนี้ผู้คนที่ใช้บริการข้ามฝาก เริ่มบางตาลงไปในช่วงเวลาที่พลบค่ำอย่างนี้
 
" จะไปรู้เร๊อะ?!! " พี่สาวทำเสียงสูงใส่
" เเหมมมมม...ทีบ้านของศรินทิพย์ สุดที่รัก อยู่นครชัยศรี บรรจงเเต่งซะจนหวานเยิ้มหยดย้อยเหมือนดั่ง
ยอดหญ้าเสียจริงนะพ่อคู๊ณณณณ..."
 
ชายหนุ่มผู้เป็นน้องชาย เหลือบหางตาไปมองพี่สาวที่กระเเนะกระเเหนเเล้วเขาก็ยิ้มส่ายหัวอย่างอดขำในคำพูด
ของพี่สาวไม่ได้ ก็จริงเหมือนดังที่พี่ของเขาพูดไว้ไม่มีผิด ไม่ว่าจะเป็นเพลง ทุ่งรวงทอง เเสนเเสบ สักขีเเม่ปิง กว๊านพะเยา สาวนครชัยศรี เเละอีกหลายต่อหลายผลงานเพลงที่กำลังโด่งดังไปทั้งประเทศอยู่ในขณะนี้ กลับไม่มีบทเพลงที่พูดถึงบ้านเกิดเมืองนอนของเขาเลยเเม้เเต่เพลงเดียว
 
เช้าวันรุ่งขึ้น สง่ารีบตื่นเเต่เช้าพร้อมตั้งใจว่าจะเเต่งเพลงให้บ้านเกิดเมืองนอนสักเพลงหนึ่งให้ได้ภายในวันนี้ เขารีบไปที่ท่าเรือท่าฉลอมเพื่อที่จะข้ามฝากไปยังฝั่งมหาชัย โชคดีได้คุยกับลุงเย็นผู้เป็นนายท้ายเรือลำนั้น ซึ่งลุงเย็นก็ได้เล่าเหตุการณ์ของหนุ่มชาวประมงคนหนึ่งบ้านเกิดเมืองนอนก็เป็นคนพื้นเพที่นี่ ตัวดำร่างใหญ่เนื้อตัวมีเเต่กลิ่นปลา ไปเเอบหลงรักสาวมหาชัยเเถวๆหน้าวัดตึก ชื่อว่าพยอม เเต่สาวไม่เล่นด้วย จึงทำให้ชายหนุ่มคนนั้นตรอมใจมาก โกนหัวเข้าวัดบวชตลอดชีวิตที่วัดโกรกกราก
 
ได้การล่ะ สมองไวเท่าความคิด กลับถึงบ้านวันนั้น สง่าไม่รอช้า หยิบสมุดปากกาจดเนื้อเพลงทันที
 
" พี่อยู่ไกล ถึงท่าฉลอม
แต่พี่ ไม่ตรอม เพราะรักพยอม ยามยาก
ออกทะเล จะหาปลา มาฝาก
แม่คุณขวัญใจ คนยาก รับของฝาก จากพี่ได้ไหม       


       โปรดเมตตา รักพี่สักนิด
พี่มอบชีวิต อุทิศให้สาวมหาชัย
แบกความรัก ข้ามทะเลมาให้
ฝ่าลมและคลื่นเท่าไหร่ รักจึงได้ว่ายน้ำข้ามมา


       ท่าฉลอม กับมหาชัย
จะคิดทำไมว่าไกล เชื่อมความรักไว้ดีกว่า
ตอบเพียงสักคำ ว่าไม่รัก จะหักใจลา
ซ่อนตัวตามประสา จะหนีซ่อนหน้าห่างไกล


       เรื่องทะเล นั้นพี่พอรู้
แต่เรื่องเจ้าชู้ไม่รู้จะทำฉันใด
หยั่งทะเล พอคะเนดูได้
แต่ความรักเกิน ครวญใคร่ ลึกเท่าไหร่ ไม่รู้หยั่งถึง....."
 
 
" เอ้า เอาไป เสร็จเเล้ว!!..."

ชายหนุ่มยื่นกระดาษเเผ่นเล็กๆไปให้พี่สาว ในขณะที่ผ่านพ้นอาหารเย็นของครอบครัวเป็นที่เรียบร้อย

" อะไรของเธอ หง่า?..."
" เพลงที่พี่ขอเมื่อวานไง...."
 

ผู้เป็นพี่สาวหยิบกระดาษเเผ่นนั้นขึ้นมาดูสักครู่
" ชื่อเพลงอะไรล่ะ? "
" ท่าฉลอม...."
 
" อ๋อ..เธอจะให้พี่ร้องเหรอออออ?..."
" ฝันไปเหอะ...ฉันจะให้เพื่อนฉันร้อง "
" ใคร???..."
" ชรินทร์ นันทนาคร....."
 
ชายหนุ่มตอบด้วยเสียงเเผ่วเบา เเต่ทว่าเเววตาของเขา มีประกายเจิดจ้าทอเเสงเเจ่มจรัสอย่างเเปลกประหลาด......"

 

 

guest

Post : 2015-07-13 21:39:03.0     Forum: เบื้องหลังบันเทิง  >  เเรงใจจากพี่

 

                  
 
                                                  
 
 
 
 

 " เอาดีให้ได้นะเอ็ง...อย่ายอมเเพ้ต่อชะตาชีวิตเด็ดขาด...ยามเอ็งท้อ นึกถึงคำพี่ไว้..."
 
นั่นคือคำสั่งเสียสุดท้าย ก่อนที่พี่ชายคนโตจะจากไปอย่างไม่มีวันกลับ วันชัย โรจนะวิชัย เด็กหนุ่มจากบางบ่อ สมุทรปราการ ลูกคนสุดท้องน้องคนสุดท้ายจากพี่น้อง 5 คน ที่มีพ่อเป็นคนทำขวัญนาค ส่วนเเม่เป็นชาวนาที่ไม่มีที่นาเป็นของตัวเอง ต้องเช่าเขาทำ ได้ข้าวบ้างไม่ได้ข้าวบ้าง ก็พอเเต่เลี้ยงลูกทั้ง 5 เติบโตมาได้อย่างทุลักทุเล
 
เจ้าหนูน้อยวันชัย ในฐานะเป็นลูกคนสุดท้อง จึงได้มีโอกาสได้เรียนหนังสืออยู่คนเดียว โดยที่พี่ๆต่างก็ยอมเสียสละให้น้องได้เรียนหนังสือ เเล้วก็ได้พี่ชายคนโตที่ยังไม่มีครอบครัวทำงานอยู่กรุงเทพฯ ได้นำเจ้าน้องคนเล็กมาอยู่ด้วย โดยเรียนหนังสืออยู่ที่วัดนวลนรดิษฐ์ ภาษีเจริญ หวังเมื่อจบ ม.ศ 3 เเล้ว ก็จะไปสอบเรียนเตรียมทหารต่อ เเต่ทว่าพี่ชายคนโตก็ต้องมาจากไปเสียก่อน ความฝันจึงพังทลาย ต้องหันเหชีวิตมาเป็นกรรมกรก่อสร้าง ทำโครงเหล็กช่างเชื่อมอยู่กับพี่เขย จนมีเงินเรียนหนังสือกระทั่งจนจบ ม.ศ 5 ด้วยหยาดเหงื่อเเรงงานของตัวเอง
 
ทุกครั้งยามไหนท้อ คำพูดของพี่ชายก็จะดังก้องอยู่ในใจตลอด ทำให้ลุกขึ้นสู้ได้ทุกครั้ง จนกระทั่ง ปลายปี 2514 สถานีวิทยุ จส.4 ได้ประกาศรับสมัครประกวดร้องเพลงในรายการ ดาวรุ่งธูปหอมร่มโพธิ์ทอง โดยเจ้าของผลิตภัณฑ์คือคุณนายทองคำ จะตั้งวงดนตรีให้ทันทีสำหรับผู้ชนะเลิศการประกวด
ผลปรากฎว่า มีผู้สมัครกันมืดฟ้าม้วดินเลยทีเดียว เเต่ละคนก็ล้วนเเล้วเเต่มีประสบการณ์กันมาอย่างโชกโชน ไม่ว่าจะเป็น บุญทัน คล้ายละมั่ง (ศรเพชร ศรสุพรรณ) ทัน ใจบุญ (ดำ เเดนสุพรรณ) ที่ยังไม่ได้เข้าสู่วงการก็มาสมัครเเข่งขันด้วย ส่วนตัวเขาไม่เคยผ่านการประกวดเวทีใดๆมาก่อนเลย โดยในวันนั้นเขาใช้เพลง คุณนายโรงเเรม ของระพิน ภูไท เข้าเเข่งขัน
 
" พี่...ผมไม่ไหวเเล้ว สู้เขาไม่ได้เเน่ๆ...ช่วยผมด้วย....."
 
นั่นคือสำนึกสุดท้ายของวันชัยก่อนที่เขาจะก้าวขึ้นสู่เวทีประกวด หลังจากโฆษกบนเวทีประกาศชื่อของเขาเป็นครั้งที่ 2 เขาตั้งใจร้องอย่างเต็มที่ดีที่สุดในชีวิต เสียงปรบมือดังกระหึ่มหลังจากเพลงที่เขาร้องจบลง ไม่ผิดหวัง...การประกวดในครั้งนั้น เขาได้ที่ 1
 
" พี่ครับ...ผมทำได้เเล้ว...ผมทำสำเร็จเเล้ว....."
 
เขาบรรจงจูบถ้วยรางวัลชนะเลิศใบใหญ่ พร้อมทั้งหยิบรูปถ่ายขาวดำใบเล็กๆของพี่ชายเขา ที่พกติดตัวไว้ตลอดในกระเป๋าเสื้อออกมาจุมพิตเบาๆ ด้วยใบหน้าที่ยิ้มทั้งน้ำตา...นั่นคือก้าวเเรกของเขาในการเข้าสู่วงการบันเทิงในนามของ สดใส ร่มโพธิทอง ในเวลาต่อมา......
 

###### No Permission ######
###### No Permission ######
처음 이전 ... 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 ... 다음 끝

 <iframe width="560" height="315" src="https://www.youtube.com/embed/_jUHKM1YHcc" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>