*** ข่าวพลังภูผา..***
เเม่ขนลุก!! สั่งหนูน้อยบอกกับเพื่อนที่มองไม่เห็น ว่าไม่ให้ตามมา!!
www.arjanpong.com

เมื่อวันที่ 19 ก.ย. เพจเฟซบุ๊ก “ครูจุ๊ ทักษพร”ได้โพสต์คลิปบอกเล่าเรื่องราวอันสุดหลอน โดยระบุว่า “เมื่อติดฝนกลับบ้าน...มืดค่ำ..อิ่มเอมคุยกับใคร../เด็กที่ไหนใส่รองเท้าสีชมพู ไม่มีสักคน...หลอนนนน##ชั้น๒หน้าห้องคอมฯ” โดยในคลิปดังกล่าวบอกเล่าถึงคุณแม่กำลังจะพาลูกสาวกลับบ้านหลังเลิกเรียน และแม่เห็นลูกสาวตัวน้อยยืนคุยคนเดียว อยู่ในโรงเรียนแห่งหนึ่ง ที่ จ.สงขลา ช่วงใกล้ค่ำระหว่างรอฝนหยุดตกหลังจากเลิก......

ทั้งนี้ในคลิปดังกล่าว ผู้เป็นแม่ถามลูกสาว ชื่อ “น้องอิ่มเอม” ว่า คุยกับใคร เด็กบอกคุยกับน้อง น้องตัวเล็กยืนอยู่ชั้นบนที่บันไดของอาคารเรียน ใส่รองเท้าสีชมพู แต่เมื่อมองไปรอบ ๆ กลับไม่เห็นเด็กแม้แต่คนเดียว เนื่องจากเป็นช่วงใกล้มืดที่เด็กในโรงเรียนกลับบ้านหมดแล้ว จากนั้นคุณแม่จึงบอกเด็กว่า “ ให้บอกน้องไป ไม่เล่นแล้วและไม่ต้องมายุ่ง กลับบ้านก่อนไม่ต้องตามมา รถแม่เต็มแล้ว”ซึ่งเด็กได้พูดตามที่คุณแม่บอก พร้อมกับมีเสียงพิศวงชวนขนลุกดังขึ้นว่า “คร้าบบบ”ซึ่งเมื่อคลิปดังกล่าวถูกแชร์ออกไปได้มีชาวโลกออนไลน์เข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่เห็นว่าเด็กอาจจะเห็นสิ่งลี้ลับจริงเนื่องจากจิตยังบริสุทธิ์อยู่......

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังเจ้าของเพจเฟซบุ๊กดังกล่าว แต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับคำตอบแต่อย่างใด ล่าสุดเจ้าของเพจได้กล่าวตอบกับคนในโลกออนไลน์ที่ถามว่าหนูน้อยคุยกับใคร ซึ่งทางเจ้าของเพจ บอกว่า ไม่มีตัวตน ใช่คนหรือเปล่า ไม่ขอเจอเสียงแค่นี้ก็หลอน.....

Credit : https://www.dailynews.co.th/regional/666885
: https://www.youtube.com/watch?v=xq2SgfHJ5S4

...............................

รายการ : ข่าวพลังภูผา
Radio online : www.arjanpong.com
FM 89.75 MHz. พระนครศรีอยุธยา 
Time : 06.00-08.00 น./17.00-19.00 น ทุกวัน 
โทร/line : 0898129392
Email : arjanpong123@hotmail.com

*** ข่าวพลังภูผา..***
เจอเเล้วเจ้าของรางวัลที่ 1 ตัวจริง!! หลังลูกสาวลูกเขยฟ้องเเม่!!
www.arjanpong.com
จากกรณี นางมานิตย์ เต็มปักษี อายุ 44 ปี พร้อมด้วย นายรณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.อัครวุฒิ จันทร์เจริญ รอง สว.(สอบสวน) กก.3 บก.ป. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ ด.ช.เอ (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี ข้อหาแจ้งความเท็จ เบิกความเท็จ และพรากผู้เยาว์ หลังก่อนหน้านี้ถูก ด.ช.เอ กล่าวหาว่า เป็นผู้ยักยอกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 1 เม.ย. 2561 มูลค่า 12 ล้านบาทไป จนถูกดำเนินคดี.....

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 18 ก.ย.ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่หมู่บ้านชาวเขาแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่บนภูเขาสูงในพื้นที่ อ.เมืองปาน จ.ลำปาง หลังทราบว่า ผู้โชคดีซึ่งถูกหวยรางวัลที่ 1 งวดวันที่ 1 เม.ย.2561 ที่ผ่านมาอยู่ในหมู่บ้านดังกล่าวโดยมี นายเอกวิทย์ กามาด อายุ 55 ปี ผู้ใหญ่บ้าน พาผู้สื่อข่าวขึ้นไปพบ นายแดง (นามสมมุติ) อายุ 48 ปี ชาวอำเภอเมืองปาน จ.ลำปาง ผู้โชคดีซึ่งถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 หมายเลข 412073 งวดประจำวันที่ 1 เมษายน 2561 ที่ผ่านมา 1 ใบ.....

โดยนายแดง เล่าว่า เมื่อวันที่ 30 มี.ค. ตนเองได้ไปเยี่ยมแม่ยายที่รักษาตัวอยู่ที่รพ.ลำปาง ระหว่างนั้นหิวข้าวและอยากจะมาซื้อหวยสักใบ จึงเดินออกมาหาซื้อที่ด้านหน้ารพ.ลำปาง แต่เนื่องจากเงินติดตัวมีไม่มากจึงซื้อแค่ 1 ใบคือหมายเลข 412073 หลังจากเสร็จธุระแล้วก็จึงกลับมาบ้าน จนกระทั่งวันหวยออกตนเองได้ดูผลการออกสลากผ่านทีวีและทราบว่าถูกรางวัลที่หนึ่งตนเองดีใจมากและได้ไปลงบันทึกประจำวันช่วงเช้าวันที่ 2 เม.ย. ที่ สภ.เมืองปาน หลังจากนั้นประมาณอาทิตย์กว่าๆจึงไปติดต่อรับเงินที่กองสลาก และขอยืนว่าลอตเตอรี่เป็นของตน และไม่เคยรู้จักกับบุคคลตามที่ตกเป็นข่าวอีกทั้งไม่ได้เป็นญาติหรือมีความเกี่ยวข้องใดๆเพราะตนเองเป็นชาวเขา เกิดที่นี่ ไม่เคยมีญาติที่ทางภาคอีสาน......

ด้านนายเอกวิทย์ กามาด อายุ 55 ปี ผู้ใหญ่บ้าน กล่าวว่า นายแดง อาศัยอยู่ที่ในหมู่บ้านตั้งแต่เล็กๆ และคิดว่าคงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีญาติอยู่ทางฝั่งภาคอีสาน .....

Credit : https://www.dailynews.co.th/regional/666734
: http://www.amarintv.com/…/news-update-th…/news-12269/258383/

....................................

รายการ : ข่าวพลังภูผา
Radio online : www.arjanpong.com
FM 89.75 MHz. พระนครศรีอยุธยา 
Time : 06.00-08.00 น./17.00-19.00 น ทุกวัน 
โทร/line : 0898129392
Email : arjanpong123@hotmail.com

*** ข่าวพลังภูผา..***
"มึงมาฆ่ายายกู ลูกกู กูไม่ยอม!!"
เเม่ร่ำไห้ข้ามประเทศ หลังรู้ข่าวลูกสาววัย 12 ถูกฆ่าปาดคอ!!
www.arjanpong.com
เป็นคดีสะเทือนขวัญ ที่เกิดขึ้นในจังหวัดสมุทรปราการ เมื่อวานนี้ หลังจากตำรวจภูธรพระประแดง พบศพนางมะลิ อิ่มสวัสดิ์ อายุ 68 ปี และหลานสาววัย 12 ปี ถูกฆ่าปาดคออยู่ภายในบ้านพักเลขที่ 30/6 หมู่ที่ 6 ตำบลบางยอ ที่เปิดเป็นร้ายขายของชำ และยังมีเด็กหญิงวัย 9 ขวบ ถูกมีดปาดคอ ได้รับบาดเจ็บสาหัส รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลบางปะกอก 3 รวมถึงพบแมวถูกฆ่าปาดคอเสียชีวิตอีก 1 ตัว ซึ่งคดีนี้ชุดสืบสวน แกะรอยจนทราบว่า นายพูล้า อายุ 22 ปี สัญชาติลาว เป็นผู้ก่อเหตุ และมีหลักฐานกล้องวงจรปิด เส้นทางหลบหนีของคนร้ายนั้น......

ล่าสุดเมื่อเวลา 00.10 น.ที่ผ่านมา ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองมุกดาหาร ที่ได้รับการประสานจากชุดสืบสวนภูธรพระประแดง ให้ช่วยติดตามตัวนายพูล้า กำลังเข้าตรวจสอบร้านขายของชำ บริเวณบ้านนาโปน้อย ริมฝั่งแม่น้ำโขง กระทั่งพบชายต้องสงสัย นั่งดื่มเบียร์อยู่ เมื่อเข้าไปสอบถาม ชายคนดังกล่าวยอมรับว่าคือ นายพูล้าจริง......

จากการสอบสวน นายพูล้า รับสารภาพว่า ช่วงเวลาตี 4 ของวันเกิดเหตุ ได้ปีนเข้าบ้านผู้ตาย ที่เปิดเป็นร้านขายของชำ ซึ่งตนเองเคยซื้ออยู่เป็นประจำ และเคยเห็นผู้ตายใส่สร้อยทอง เพื่อหวังชิงทรัพย์ นำเงินไปซื้อยาบ้ามาเสพเท่านั้น เมื่อเข้าไปในบ้าน ได้หยิบมีดทำครัวหัวตัด ยาวประมาณ 20 เซนติเมตร พกติดตัวไว้ และทดลองใช้ปาดคอแมวว่า มีดคมหรือไม่ กระทั่งช่วงรื้อค้นทรัพย์สิน นางมะลิ ออกมาเห็นพอดี จึงใช้มีดปาดที่คอ 3 ครั้ง จนผู้ตายล้มลง และระหว่างนั้น เด็กหญิงอายุ 9 ขวบ มาเห็นอีก จึงใช้มีดปาดที่คอ จนได้รับบาดเจ็บ สุดท้ายระหว่างรื้อค้นในห้องนอน เด็กหญิง 12 ขวบ ตื่นมาเห็น จึงลงมือใช้มีดปาดคอจนเสียชีวิต หลังเกิดเหตุได้นั่งจักรยานยนต์รับจ้าง ไปหน้าปากซอย บริเวณห้างบิ้กซี สาขาพระประแดง ก่อนนั่งรถแท็กซี่ ลงที่หมอชิต พร้อมซื้อเสื้อผ้าเปลี่ยน ก่อนจ่ายเงินให้คนขับรถทัวร์ 1,000 บาท เนื่องจากไม่มีตั๋ว ไปลงที่ยโสธร และนำทองไปขาย ได้เงินมา 7,500 บาท จากนั้นซื้อตั๋วรถทัวร์ ต่อไปยังมุกดาหาร ระหว่างนั่งรอเรือข้ามฝั่ง ไปยังแขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว ได้ดื่มเบียร์รอ 6 ขวด กระทั่งถูกจับในที่สุด ทั้งนี้ก่อนก่อเหตุได้เสพยาบ้า 1 เม็ด ทำให้มึนเมา จนลงมือก่อเหตุรุนแรงดังกล่าว......

หลังถูกจับกุม เจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวนายพูล้า ไปยังสถานีตำรวจภูธรพระประแดง ก่อนดำเนินคดีเอาผิดในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และข้อหาอื่นๆ ต่อไป......

Credit : https://www.onbnews.com/post/30923
: https://www.springnews.co.th/view/347010

.......................................

*** ข่าวพลังภูผา..***
รายการ : ข่าวพลังภูผา
Radio online : www.arjanpong.com
FM 89.75 MHz. พระนครศรีอยุธยา 
Time : 06.00-08.00 น./17.00-19.00 น ทุกวัน 
โทร/line : 0898129392
Email : arjanpong123@hotmail.com

*** ข่าวพลังภูผา..***
"พี่จะอยู่ในมุมมืด เฝ้าดูเธอ"คำสาปจากหนุ่มไบค์เกอร์ ก่อนฆ่าต้วตาย!!
www.arjanpong.com
เปิดข้อความสุดท้ายของ นายพัชรพล

... สิบกว่าปีที่ลงหลักปักฐานในพื้นที่ ที่เรียกว่าเกาะเต่า เริ่มแรก ผมเลือกมาสอนดำน้ำลึก Scuba Diving ที่นี่ จนมาพบกับแฟนคนปัจจุบัน เนื่องจากประสบการณ์การเป็นเชฟอาหาร ฝรั่ง (รวมถึงเป็นครูสอนดำน้ำ PADI OWSI Open Water Scuda Instructor) ในต่างแดนร่วมแปดปี (New Zealand) จึงมาเช่าร้านจากครอบครัวแฟนซึ่งเป็นคนเกาะท้องถิ่นและเป็นเจ้าของสถานที่ ( Landlord )......

เงินทุกบาทที่หาได้ นำมาซ่อมแซม เปลี่ยนแปลงร้านให้ดีขึ้น รวมถึงสามารถกู้ซื้อบ้านราคาร่วมสามล้าน คนเดียวได้โดยไม่มีผู้ค้ำ.....

ต่อมาก่อตั้งบริษัท เป็นโรงเรียนสอนดำน้ำในพื้นที่ของเจ้าของเดียวกัน คือครอบครัวแฟน (น้ำผึ้ง)ในเมื่อขาดเงิทุนหมุนเวียน จึงตัดสินใจขายที่มรดก 22 ไร่ มาลงทุนเพิ่ม.บริษัทเดินหน้าไปด้วยดีจนสามารถอยู่ได้และทำเงิน เงินที่หามาได้ลงทุนพัฒนาพื้นที่ เทปูน ทำถนน ขุดบ่อน้ำใช้ สร้างบ้านให้เช่า ตึกที่ต่อเติมจากโครงสร้างอาคารของบริษัท รวมถึง บาร์ชายหาด ทั้งหมดที่ลงทุนคือในพื้นที่ของครอบครัวของ น้ำผึ้ง.......

แน่นอน การอยู่ด้วยกันย่อมมีเรื่องทะเลาะกันบ้าง น้ำผึ้งเป็นคนขี้หึง ในระยะแรกไม่ปล่อยแม้กระทั่งให้ออกนอกบ้านคนเดียว จนกระทั่งเพื่อนที่มาจากกรุงเทพมาดำน้ำหลายครั้ง แต่แทบทุกครั้ง จบด้วยการทะเลาะหึงหวง การจินตนาการคิดมาก เมื่อทะเลาะกันแรงขึ้น บางครั้งมีการใช้กำลัง แต่สุดท้าย จบด้วยการออกปากไล่......

น้ำผึ้งมีน้องสาวคนนึงชื่อ น้ำฝน เวลาดีทุกอย่างก็ดี จนถึงเวลาที่ขัดใจ คำว่า ที่แม่กู ของแม่กูก็ออกมา ต้องยอมรับว่า คนเกาะเวลาด่านี่ยิ้มมาก ผมเป็นผู้ใหญ่กว่า ทุกอย่างใช้เหตุผล มาเจอเด็กเมื่อวานซืนด่าเหมือนหมา มันก็จริงที่ไปทำมาหากินในที่เค้าเอง.....

การทะเลาะกันในแต่ละครั้ง ความอดทนเพื่อ นีน่า ในขณะนั้นยังเล็ก ยังมีมากปัญหาหายไป แล้วก็กลับมาอีกเรื่องเดิมๆ จากการจินตนาการว่าต้องมีใครมาคบหาพัวพันสนใจ.หลายปีผ่านมาถูกไล่มากกว่าห้าครั้ง ลั่นปากว่า ถ้าไม่ทำงานก็ไม่ต้องใช้เงิน หนึ่งครั้ง......

ปัจจุบัน นีน่า ร่วมสิบขวบ มี นที ตัวน้อยมาอีกหนึ่ง.ไม่มีความคิด ไม่มีแรงที่จะสานงานต่อ อยู่ไปวันๆเหมือนไร้ค่าไร้ความหมาย แทบไม่ทำงาน ออกทริปขี่มอเตอร์ไซค์ไปเรื่อยๆ โดยหวังว่าจะมีกำลังใจมาลุยทำงาน. ซัมบาล่า สวรรค์ที่เคยไป ดินแดนแห่งจิตและวิญญาณ ไม่มีจริง ก็แค่สถานที่ท่องเที่ยว..

น้ำผึ้ง เป็นคนที่ชอบเที่ยวมาก่อน เคยแต่งงานมาแล้วแต่จบไม่สวย เป็นคนที่เข้ากับคนง่าย และคนชอบใกล้ชิดโดยเฉพาะผู้ชาย เวลาเมาคุยสนุก ชอบถึงเนื้อถึงตัว แม้กระทั่งลูกน้องเรือยังยอมให้ลูบหน้าลูบหลัง ขณะที่ผมยังนั่งมองอยู่ จนถึงลูกน้องฝรั่งที่เป็นครูสอนของบริษัท.....

มีอยู่ช่วงที่คุมทำเรือของบริษัทร่วมสองเดือน พอกลับมาเห็นแฟนยืนคร่อมขาลูกน้องฝรั่งคุยกันสนุกสนาน แต่ไม่เคยทัก เค้าเลยไม่เฉลียวใจกัน คิดว่าคงทำกันเป็นเรื่องปกติ....

การทะเลาะรึการกระทำตัวที่เกินเลยกับลูกน้อง เคยคุยทุกครั้งหลังกลับมาที่บ้าน (ไม่เคยทำให้เสียหน้า) โดยการใช้เหตุผล ก็เข้าใจและยอมรับทุกครั้ง แต่เหตุผลไม่เคยใช้ได้กับความงี่เง่าและการใช้อารมณ์ และความไม่เคยจำ.จากความที่ไว้ใจเพราะตัวเองก็ไม่ทำกับใคร คิดว่า น้ำผึ้งคงไม่ทำ แต่เรื่องพวกนี้ ป่วยการที่ต้องไปจับตาดู คนที่ไม่ซื่อสัตย์ อยากมีอะไรกัน ห้านาที สิบนาทีก็แอบมีอะไรกันได้ในทุกที่......

เวลามาบ้านที่สุราษฎร์ที่ซื้อไว้ ถ้าผมออกทริปมอเตอร์ไซค์ ก็มักจะมีเพื่อนชายหรือฝรั่งตามมาอยู่ด้วยกับเด็กๆ แต่พอกลับจากออกทริป ผู้ชายเหล่านั้นกลับคุยเข้าหน้ากันไม่สนิท เหมือนอึดอัดใจ.แน่นอน ถ้าถามว่าไว้ใจแฟนมั้ย เดี๋ยวนี้ตอบได้ว่าไม่ หลังจากมี นที น้ำผึ้งก็ทำหมัน ความต้องการมี อาจเป็นสิ่งที่ดีสำหรับเค้า ถ้าแอบมีอะไรกับคนอื่นได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องป้องกัน.......

ถ้าถามว่าทำไมไม่ไว้ใจ ขนาดเพื่อนพรรคพวกที่สนิทกันเองที่มีครอบครัวอยู่แล้ว (คุณ น เจ้าของบริษัทดำน้ำ) ยังเคยทักมาคุยในลักษณะหวังผล อันนี้เคยเล่าให้ฟังเอง.โทษใครมั้ย ไม่โทษ เพราะคนของเราเองที่ทำตัวให้คนอื่นหวังในเรื่องอย่างว่า.เคยทะเลาะจนยอมตัดเพื่อนทิ้งทั้งหมด ไม่สื่อสารกับใคร แต่ น้ำผึ้งเองกลับไม่สามารถ หยุดโซเชี่ยลได้.ไม่เคยค้นโทรศัพท์ว่าคุยกับใครบ้างเพราะคิดง่ายๆ ถ้าคนซื่อสัตย์คงไม่ทำ.........

ถ้าถามว่าเชื่อว่าแอบคุยกับใครมั้ย ตอนนี้ตอบได้ว่าเชื่อ เคยเข้าไปดูใน Facebook ก็มีผู้ชายมาโพสว่าโสด.ถ้าถามว่าคิดมั้ยว่าแฟนไม่ซื่อสัตย์เคยไปนอนกับคนอื่น ตอบว่าคิดเพราะหมาเคยกินอุจาระแล้ว มันก็ต้องแอบไปกินอีกจนได้.......

ผม Negative คนคนนี้ ครอบครัวนี้ เกาะนี้ไปแล้ว จากที่เคยเป็นคนอารมณ์ดี เกาะนี้เปลี่ยนผมจากหน้ามือเป็นหลังมือ คนละคนไปแล้ว ทุกรอยยิ้มที่ไม่เคยออกมาจากใจ.ขณะนี้ความเชื่อใจมันหมดไปพร้อมกับกำลังใจที่จะสร้างครอบครัวต่อ อยู่ไปไร้ประโยชน์ เพราะคำว่า “จะไปไหนก็ไป ให้ไปแต่ตัว” มันก้องอยู่ตลอดเวลา รวมถึง “ถ้าไม่ทำงาน ก็ไม่ต้องใช้เงิน” อะไรกัน นี่มันคือธุระกิจที่ผมสร้างมากับมือ..........

จากประสบการณ์ แนวคิดคนเกาะ (ถึงจะไม่ทั้งหมด) จะเสนอให้มาลงทุน “ถ้ามันทำไม่รอด มันก็แบกไปไม่ได้”.เห็นมาหลายเคส แต่ไม่นึกว่าจะมาโดนกับตัว..“อย่าลงทุนทำกินในที่คนอื่น” นี่คือตัวอย่างที่ชัดเจน เพราะถ้าวันใดถูกไล่จะเหลือแต่ตัว ใช่ ผมเหลือแต่ตัวจริงๆ โดยไม่เฉลียวใจมาก่อน เสียดายเวลา เสียดายความคิดที่ทุ่มเท ตอนนี้ตัวเองสุขภาพไม่ดีเหมือนตอนหนุ่มๆ เพราะอีกไม่กี่ปีจะถึงห้าสิบแล้ว......

ด้วยสถานะปัจจุบัน เป็นหมอนรองกระดูกสามข้อ เป็นนิ้วล็อกทั้งสองข้าง มีปัญหาบ่อยกับระบบทางเดินอาหาร สายตาที่เริ่มไม่ปกติ ปีที่แล้วผ่าตัดไปสองครั้ง.วัวแก่ ยามหมดประโยชน์ก็ต้องเข้าโรงฆ่าสัตว์ ผมคงไม่มีประโยชน์สำหรับคนที่นั่นแล้ว.
เมื่อถึงทางแยกแล้ว ก็ถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนแปลงชีวิตอีกครั้ง..

Sat 08/09/2018
สามเดือนที่จากไปร่อนเร่ข้างนอกคิดแต่ว่าอาจจะมีอะไรดีขึ้น กลับมารอบนี้ก็ยิ่งปวดใจมากกว่าเดิม.เคยเจรจาแต่คำขอคืนดีกลับขอแบบพูดไปที ระบบงานทุกอย่างเปลี่ยนไปหมดตัดสินใจทำกับลูกน้องโดยไม่มีผม.ถามตรงๆว่ามีใครคุยด้วยมั้ย ก็ยอมรับตรงๆว่ามีหลายคน....

เค้าคงมีโครงการมากมายในหัวหลังจากที่ผมออกปากยกทุกอย่างให้ เพื่อเด็กทั้งสอง นีน่า กับ นที จะได้มีอนาคต.เค้าคงคิดว่าตัวเค้าเองเก่งทางด้านธุรกิจ ทั้งๆที่ตอนแรกพบกันเค้าแค่ทำอาหารในร้านแม่เค้าและเที่ยวดื่มไปวันๆ.ผมเติบโตมาในครอบครัวที่ทำธุรกิจ จึงมีแนวคิดและพาเค้าสร้างตัวจนมาถึงปัจจุบัน....

คำว่าบ้านที่เคยคิดลงหลักปักฐานมันกลับไม่ใช่ ผมไม่มีบ้าน ไม่มีอนาคตให้กับเด็กทั้งสอง.ที่เกาะตอนนี้ไม่เหลือที่ให้ผมกลับไปแล้ว มันน่าเศร้ามากมาย.....

หมดทุกอย่าง ไม่มีแม้แต่ความคิดที่จะใช้ชีวิตต่อ หลังจากที่ครอบครัวนี้ได้ครอบครองทุกอย่างไปแล้ว เงินทุกอย่างถูกเปลี่ยนไปบัญชีใหม่.บิลทุกอย่างที่เป็นชื่อของผม ถูกระงับการจ่าย เช่นบัตรเครดิตที่ใช้ร่วมกัน หรือบิลโทรศัพท์.นึกไม่ถึง และไม่เคยเตรียมตัวที่จะเจอสถานการณ์แบบนี้.นึกไม่ถึง ว่าคนที่ไว้ใจที่สุดจะกลายมาเป็นงูเห่า.........

ผมเกิดปี 1971 อายุมากกว่าแฟนร่วมสิบปี นี่คือความแตกต่างด้านความคิด. (น้ำผึ้ง) คือชื่อในโซเชี่ยล และชื่อผู้หญิงคนนั้น.
..... รีสอร์ท โฉลกบ้านเก่า คือสถานที่ของครอบครัวนั้น.เกาะเต่า คือเกาะแห่งนั้น สถานที่ภายนอกสวยงาม แต่มีความอำมหิตซ่อนอยู่.ถ้าข้อความนี้ถูกแพร่ออกไป นั่นหมายถึงผมไม่มีชีวิตอยู่แล้ว.....

ผม พัชรพล ผู้ที่ได้ทุ่มเทแรงกายและใจ สร้างและพัฒนา
-บริษัท...
-บาร์ชายหาด...
-ร้านอาหาร...

“ผู้ชายนอกครอบครัวคนใด ที่มากิน มาใช้เงินที่ได้มาจากสิ่งที่ผมสร้างขึ้น จะพบจุดจบอย่างไม่เป็นธรรมชาติอย่างที่ผมเป็น”
“บุคคลผู้นี้....มีหน้าที่เลี้ยงดู นีน่า และ นที จนเติบโตให้ได้ดี จนมีชีวิตที่สุขสบาย จนลมหายใจสุดท้าย ถึงจะหมดหน้าที่”

“สมบัติของสะสมที่เป็นชื่อของผม เช่นปืนทั้งสี่กระบอกและอื่นๆ จะตกไปสู่ นีน่า และ นที เท่านั้น ถ้าไม่รับให้ทำลายทิ้ง”

นี่คือคำสั่งและคำสาปสุดท้ายของ ชายที่มีความปรารถนาอย่างแรงกล้าและความแค้นเต็มอก ผู้ซึ่งล่วงลับไปแล้ว.
ศักดิ์ศรีของผมไม่มีทางที่จะยอมกลับไปให้เหยียบย่ำ.
ยอมเป็นหางเสือ ดีกว่าเป็นหัวหมา.
เจ็บอย่างเสือ ตายอย่างเสือ.

ผมจะไม่เอ่ยขอความช่วยเหลือใดๆ ทุกอย่างจะปล่อยไปตามกรรมลิขิต ถ้าถึงเวลาสำหรับผมแล้ว อีกห้าวันหลังจากนี้ คือวันลาจาก.(ผมจะใช้ระยะเวลานี้เพื่ออดอาหาร และระบายของเสียในร่างกายให้หมด และจะลดอุณหภูมิห้องให้ต่ำที่สุดเพื่อรักษาสภาพศพจนกว่ามีคนมาพบ.).....

หลังจากเสร็จสิ้นพิธีการพิสูจน์จากทางการ ห้ามมิให้จัดงานศพ หรือเพื่อระลึกถึงใดๆ ให้เผาทำลายศพของข้าพเจ้า แล้วนำส่วนที่เหลือไปทิ้งน้ำ ไม่อนุญาตให้เก็บไว้ไม่ว่ากรณีใดๆก็ตาม.....

“I came with the wind I gone with the wind”

ถึงน้ำผึ้ง..
“ไม่ต้องมาร้องให้ ไม่ต้องมากราบมาไหว้ พี่ไม่อโหสิให้ เราจะทรมานใจอย่างที่พี่เป็นอยู่ในทุกๆวัน เราจะมีหน้าที่ทำในสิ่งที่พี่สั่งไว้ จากนั้นเราถึงจะเป็นอิสระในลมหายใจสุดท้ายของเรา”
เอาใบมรณะบัตรไปโอนทุกอย่างให้เป็นชื่อเรา ที่เราอยากได้ อย่างที่เราเคยบอกให้พี่ทำ นี่คือสิ่งสุดท้ายที่พี่เคยบอกว่าจะทำให้.ถ้าเรื่องวิญญาณ และชีวิตหลังความตายมีจริง “พี่จะอยู่ทุกๆมุมมืด คอยดูเรา”พี่ไม่ต้องการไปเกิดใหม่ พอแล้ว....

ด้วยความแค้นเต็มอก..
Diver nino

Credit : https://www.youtube.com/watch?v=bH8Ve_N_4Jg

......................................

*** ข่าวพลังภูผา..***
รายการ : ข่าวพลังภูผา
Radio online : www.arjanpong.com
FM 89.75 MHz. พระนครศรีอยุธยา 
Time : 06.00-08.00 น./17.00-19.00 น ทุกวัน 
โทร/line : 0898129392
Email : arjanpong123@hotmail.com

*** ข่าวพลังภูผา..***
ใจเกิน 100 เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวเป็ด!!
ฝ่าเปลวเพลิงเข้าไปช่วยเพื่อนบ้าน ถูกไฟคลอกเสียชีวิต!!
www.arjanpong.com

จากกรณีเกิดเหตุไฟไหม้อาคารพาณิชย์ 3 ชั้น กลางซอยบัวหวาน ย่านธุรกิจเก่าแก่ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จำนวน 1 คูหา ของนางศรีสง่า รุมรัตน อายุ 56 ปี ที่เปิดเป็นร้านร้บพิมพ์เอกสาร หนังสือและการ์ดเชิญ ชื่อดำสว่างการพิมพ์ เปลวเพลิงลุกลามออกมาทางหน้าต่างชั้น 2 มีกลุ่มควันพวยพุ่งออกมาทางประตูเข้าชั้นล่าง ชาวบ้านช่วยกันงัดประตูพังกระเข้าไปช่วยคนที่ติดอยู่ด้านใน 4 คน แต่ไม่สามารถเข้าไปได้เนื่องจากควันไฟปลุกคุมมืดมิดทั่วทั้งห้อง......

ขณะเกิดเหตุทราบว่าเป็นช่วงเวลาที่บรรดาพ่อค้าแม่ค้าตลาดบัวหวานกำลังเปิดร้านขายของ ได้สร้างความโกลาหล ระหว่างรอรถดับเพลิงเข้ามาดับไฟ นายกมล โรจนะกัญญาพร อายุ 65 ปี เจ้าของฉายา อาฮุย ก๋วยเตี๋ยวเป็ดบัวหวาน เพื่อนบ้านห้องติดกัน มีนิสัยชอบช่วยเหลือและเป็นจิตอาสาอยู่แล้ว ได้ตัดสินใจฝ่ากลุ่มควันไฟเข้าไปช่วยเหลือเพื่อนบ้านที่ติดอยู่ในห้อง......

เมื่อรถดับเพลิงจากเทศบาลนครพระนครศรีอยธยา และอบต.ข้างเคียง 5 คัน เข้ามาช่วยกันดับไฟไว้ได้ ไฟได้เผาผลาญไปเฉพาะห้องนอนชั้น 2 ได้รับความเสียหายเท่านั้น แต่ทุกคนต้องไปพบร่างของนายกมล หรืออาฮุย พลเมืองดี เสียชีวิตอยู่ในที่เกิดเหตุ สภาพคล้ายกับหนีความร้อนของเปลวไฟเข้าไปซุกอยู่ในตู้เย็น ศพถูกฝาตู้เย็นทับร่างนอนหงายเสียชีวิตดำเป็นตอตะโก อย่างน่าสงสาร......

นายหฤษฏ์ รุมรัตนะ อายุ 31 ปี ลูกชายนางศรีสง่า เจ้าของห้อง ทราบว่า ขณะเกิดเหตุมีญาติพี่น้องนอนอยู่ด้วยกันทั้งหมด 4 คน ส่วนตนเองกับภรรยานอนอยู่ชั้น 3 ห้องที่เกิดเหตุเป็นของนางสาวอัณทิษา จันทร์คำ พี่สะใภ้ แต่ปิดห้องทิ้งไว้ไม่มีใครนอน มาทราบว่าไฟไหม้ตอนที่กลุ่มควันพวยพุ่งขึ้นมาถึงห้องนอน จึงได้ตามเรียกพี่น้องทั้งหมดรวม 4 คน หนีไฟขึ้นไปบนดาดฟ้าและหนีลงห้องเพื่อนบ้าน ไม่ทราบว่าอาฮุย ฝ่าควันไฟเข้ามาช่วยจนตัวตาย รู้สึกเศร้าและเสียใจเป็นอย่างมาก ส่วนสาเหตุไม่ทราบว่าเกิดจากอะไรเพราะห้องที่เกิดเหตุพี่สะใภ้ไม่ได้กลับเข้ามานอนแต่อย่างไร......

ด้าน ผู้กำกับโรงพักพระนครศรีอยุธยา เข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมกับพนักงานสอบสวน เผยยังไม่ทราบสาเหตุว่าเกิดจากอะไร เท่าที่ตรวจสอบเบื้องต้นสภาพภายในห้องนอนที่เกิดเหตุมีสภาพเต็มไปด้วยเสื้อผ้้า อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า พัดลมและสายไฟฟ้าพาดโยงไว้อย่างระเกะระกะ สันนิษฐานว่าจะเกิดมาจากไฟฟ้าลัดวงจร อย่างไรก็ตามต้องให้ตำรวจวิทยาการเข้ามาเก็บหลักฐานเพื่อหาสาเหตุไฟไหม้ครั้งนี้ต่อไป ส่วนการเสียชีวิตของอาฮุย พลเมืองดีครั้งนี้ พวกเราเสียใจมากเพราะทราบว่าอาฮุัยเป็นจิตอาสาชอบช่วยเหลือคน ชาวบ้านต่างยกย่องเป็นสุดยอดฮีโร่ ช่วยชาวบ้านจนตัวเองตาย....

ส่วนภรรยาของอาฮุย ถึงกับปล่อยโฮน้ำตานองหน้าหลังทราบว่าสามีคู่ชีวิต ต้องเสียชีวิตคากองเพลิงที่เข้าไปช่วยเหลือเพื่อนบ้านจนตัวเองตัว บอกว่าอาฮุย เป็นจิตอาสาชอบช่วยเหลือคน ช่วยเหลือสัตว์ อาฮุยเป็นเสาหลักของครอบครัวเปิดขายก๋วยเตี๋ยวเป็ดอยู่ที่ซอยบัวหวาน เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวและชาวตลาดบัวหวาน เจ้าพรหมและชาวบ้านส่วนใหญ่จะรู้จักในนาม อาฮุย ก๋วยเตี๋ยวเป็ด ตอนนี้ก๋วยเตี๋ยวเป็ด อาฮุย บัวหวาน ต้องกลายเป็นตำนานสืบต่อไป......

Credit : https://www.youtube.com/watch?v=gmHcHAvGaBA

.............................

** ข่าวพลังภูผา..***
รายการ : ข่าวพลังภูผา
Radio online : www.arjanpong.com
FM 89.75 MHz. พระนครศรีอยุธยา 
Time : 06.00-08.00 น./17.00-19.00 น ทุกวัน 
โทร/line : 0898129392
Email : arjanpong123@hotmail.com

*** ข่าวพลังภูผา..***
นักมวยดังสิ้นคิด!! วิ่งราวหวย หาเงินเลี้ยงเเฟนสาว 14
www.arjanpong.com
เมื่อเวลา 11.00 น.ที่ห้องประชุมสถานีตำรวจภูธรนครชัยศรี พันตำรวจเอก พงษ์ศักดิ์ ชูนาค รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จังหวัดนครปฐม ในฐานะตัวแทน พลตำรวจตรี คำรณ บุญเลิศ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จังหวัดนครปฐม ได้เดินทางไปสอบปากคำถามผู้ต้องหาที่ก่อเหตุคดีวิ่งราวทรัพย์สลากกินแบ่งรัฐบาลในพื้นที่อำเภอนครชัยศรีที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสถานีตำรวจภูธรนครชัยศรีจับกุมได้ผู้ต้องหาคือนายชัยมงคล หรือเอส เข็มทอง อายุ 25 ปี หรือชื่อใช้ในวงการมวย"จอมโหดเล็กปราบศึกจิ๋วขวาเพชฌฆาต"และ นางสาว เอ (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี(ภรรยาผู้ต้องหาและผู้ร่วมก่อเหตุ) โดยมี พ.ต.อ.สีหเดช สระกอบแก้ว ผกก.สภ.นครชัยศรี พ.ต.ท.นิคม ชัยเจริญ รอง ผกก.สส.สภ.นครชัยศรี พ.ต.ท.พิษณุ เชิดโฉม สว.สส.สภ.นครชัยศรี ร.ต.อโฆษิต เจริญสุขรอง สว.สส.สภ.นครชัยศรี ร.ต.ท.พุฒิวัชร์ ทิมแสงจันทร์ รอง สว.สส.สภ.นครชัยศรี.พร้อมชุดสืบสวน จับกุมของ สภ.นครชัยศรี.....

พ.ต.อ.สีหเดช สระกอบแก้ว ผกก.สภ.นครชัยศรี
รายงานสรุปเหตุการณ์ว่า เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2561 เวลาประมาณ 13.30 น. ได้มีคนร้ายเป็นชายและหญิง 2 คน ทราบชื่อนามสกุลจริงภายหลัง คือ นาย ชัยมงคล หรือเอส เข็มทอง อายุ 25ปี และ นางสาว เอ (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี ร่วมกัน ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ เป็นสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 1 ก.ย.2561 จำนวน 5 ใบ (10 รางวัล) ของนางสุดารัตน์ ปลื้มจิตต์ ผู้เสียหาย ขณะตั้งร้านเปิดแผงขายอยู่ หน้าบ้านที่ตลาดท่านา โดยคนร้ายทำทีมาเลือกซื้อสลาก เมื่อผู้เสียหายเผลอ ได้ฉกฉวยเอาสลากกินแบ่งในแผง วิ่งหนีไปขึ้นรถจักรยานยนต์ที่คนร้ายเป็นหญิงจอดรถรออยู่ห่างออกไปประมาณ 30 เมตร หลบหนีไปด้วยกัน แลกสลากกินแบ่งรัฐบาลที่คนร้ายได้ไปหนึ่งในจำนวน 5 ฉบับนั้นปรากฏว่า เป็นฉากที่ถูกรางวัลเลขท้าย 2 ตัวจำนวน 1 ฉบับ.....

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้รวบรวมพยานหลักฐานและภาพถ่ายจากกล้องวงจรปิดที่จับภาพคนร้ายไว้ได้ โดยผู้เสียหายยืนยัน จดจำใบหน้าของผู้ก่อเหตุได้ และได้ชี้ยืนยันภาพถ่ายบุคคลตามภาพวงจรปิดไว้เป็นพยานหลักฐานแต่ยังไม่ทราบชื่อ สกุล จริง ของคนร้าย.....

ต่อมาพนักงานสอบสวนได้ขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดนครปฐม ที่ จ.338 และ จ.339/2561 ลง 10 กันยายน 2561 ในข้อหา "ร่วมกันวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม”.....

ต่อมาวันที่ (10 ก.ย. 2561) เวลาประมาณ 17.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้สืบสวนทราบว่าผู้ต้องหาที่ก่อเหตุตามหมายจับ ได้หลบหนีไปขายสลากกินแบ่งรัฐบาลอยู่บริเวณลานจอดรถภายในองค์พระปฐมเจดีย์ ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม ไปตรวจสอบ พบชายไทยอายุประมาณ 25-30 ปี และหญิงสาววัยรุ่นอายุ 14 ปี มีลักษณะรูปพรรณตรงตามภาพถ่ายจากกล้องวงจรปิดที่และตรงกับภาพถ่ายที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายจับไว้ สอบถามคนทั้งสอง รับว่าเป็นบุคคลตามภาพ ที่ได้ร่วมกันก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ สลากกินแบ่งรัฐบาลตามวันเวลาเกิดเหตุจริง จึงได้จับกุม และนำตัวไปสอบถามขยายผลพร้อมรายงาน ให้ผู้บัญชาทราบ.....

จากการซักถามขยายผล นายชัยมงล หรือเอส รับสารภาพว่าได้ก่อเหตุดังกล่าวจริงเนื่องจากสีข้าวตลาดที่วิ่งราวได้ไปได้นำไปขายต่อโดยไม่ทราบว่าเป็นตลาดที่ถูกรางวัล 1 ฉบับ และ รับอีกว่า เคยเป็นนักมวยสังกัดอยู่ค่ายมวยเกียรติดาราภูธร ที่ปทุมธานี มีฉายาในวงการชกมวยว่า จอมโหดเล็กปราบศึกจิ๋ว เคยขึ้นชกที่เวที ลุมพินี ราชดำเนิน และทางช่องฟรีทีวีช่องหนึ่ง(ค่าตัวเรือนหมื่น) หลังจากเลิกชกมวยหันมารับจ้างทั่วไป ปัจจุบันตกงาน มีภาระต้องเลี้ยงดูแฟนสาว จึงคิดผิดชั่ววูบก่อเหตุดังกล่าว เนื่องจาก ด.ญ เอ (นามสมมุติ) ภรรยาสาวอายุ 14 ปี ที่คบหาเป็นสามีภรรยากันมาอยู่ด้วย โดยที่มารดาของเด็กหญิงไม่ยินยอม ซึ่งจะได้ดำเนินคดีข้อหา พรากผู้เยาว์ไปเพื่อการอนาจาร และกระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปีโดยหญิงจะยินยอมหรือไม่ก็ตามอีกส่วนหนึ่งด้วย ต่อไป.....

นอกจากนี้จากการตรวจสอบประวัติ นายชัยมงล หรือเอส พบมีการกระทำความผิด ข้อหา บุกรุกเคหะสถาน เมื่อประมาณปี 2552 ผลคดี เยาวชน สถานพินิจบ้านแรกรับ 3 เดือน ข้อหา ครอบครองยาเสพติด (ยาบ้า) เมื่อประมาณปี 2560 ผลคดี หมายจับศาลอาญา ไม่มาศาลตามกำหนดนัด(หนีไม่ไปฟังคำพิพากษา).....

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากข้อมูลเชิงลึกก่อนที่นาย ชัยมงคล หรือเอส เข็มทอง จะได้นางสาว เอ (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี เป็นภรรยา นายไชยมงคล หรือเอส ได้อยู่กินฉันสามีภรรยากับ มารดาของ นางสาวเอ. ภรรยาคนปัจจุบันมาก่อน ต่อมามารดาของนางสาวเอ.ได้ไปมีสามีใหม่ ปล่อยให้นายมงคลหรือ เอส อยู่เลี้ยงดู นางสาวเอ. ขณะนั้นนางสาวเออายุประมาณ 12-13 ปี ในที่สุด นายชัยมงคล จึงได้เสียกับนางสาวเอ.และได้อยู่กินด้วยกันฉันสามีภรรยา กระทั่งมาพากันมาก่อเหตุ จนถูกจับกุมดังกล่าว.....

Credit : https://www.youtube.com/watch?v=Wk8CLofNPIY

...............................

*** ข่าวพลังภูผา..***
รายการ : ข่าวพลังภูผา
Radio online : www.arjanpong.com
FM 89.75 MHz. พระนครศรีอยุธยา 
Time : 06.00-08.00 น./17.00-19.00 น ทุกวัน 
โทร/line : 0898129392
Email : arjanpong123@hotmail.com

*** ข่าวพลังภูผา..**
จากดาวสู่ดิน "โอ วรุฒ" ตกต่ำติดตอ!! ท้อไม่มีเงินจ่ายค่าไฟ!!
www.arjanpong.com
ผู้สื่อข่าวรายงานจากโรงพยาบาลนครพิงค์ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ภายหลังจากที่คนในวงการบันเทิงต้องมาสูญเสีย โอ วรุฒ วรธรรม ที่จากไปอย่างไม่มีวันกลับ เมื่อช่วงเวลา 02.40 น. วันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมา......

เมื่อช่วงตี 3 ที่ผ่านมา นายแรม วรธรรม อายุ 85 ปี พร้อมด้วยญาติ ได้เดินทางมาที่โรงพยาบาลเพื่อจะมาดูใจลูกชายเป็นครั้งสุดท้าย แต่ไม่ทัน เนื่องจากลูกชายได้จากไปก่อน มีเพียงแต่ นีโน่ เมทนี บุรณศิริ กับเพื่อนในวงการนักแสดงอีก 2 คนเท่านั้น ที่เห็นการจากไปของ โอ วรุฒ ในวินาทีสุดท้าย ซึ่งมีรายงานข่าวว่า นีโน่ ร้องไห้หนักมาก ก่อนที่จะช่วยเจ้าหน้าที่เข็นร่างของโอ วุรฒ ไปเก็บไว้ในห้องเย็น แผนกรักษาศพของ รพ. .....

นายแรม ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า ก่อนหน้านั้น ช่วงตี 2 เกือบตี 3 มีแพทย์ได้โทรไปหา ให้มาดูใจลูกชายเป็นครั้งสุดท้าย จึงรีบพากันเดินทางมาจากบ้านพัก อ.หางดง เพื่อมาดูใจลูกชาย แต่เมื่อมาถึง รพ. พบว่า โอ วรุฒ ได้จากไปอย่างไม่มีวันกลับ ซึ่งตนก็ได้ทำใจเผื่อเอาไว้ตั้งแต่แรกแล้ว.....

สำหรับพิธีบำเพ็ญกุศลศพของลูกชายนั้น ช่วงสายวันนี้จะมาทำเรื่องขอรับศพ จากนั้นจะนำไปตั้งบำเพ็ญกุศลไว้ที่วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร ถนนสามล้านใน ตัวเมืองเชียงใหม่ 7 วัน และจะเก็บศพไว้ร้อยวันก่อนเผา ส่วนพิธีรดน้ำศพ ทางญาติจะหารืออีกครั้ง......

*** ข่าวพลังภูผา..***
คลิปน่ารักน่าเอ็นดู หนูน้อยถูกครูจับได้ว่าเล่นเเป้ง!!
รายการ : ข่าวพลังภูผา
Radio online : www.arjanpong.com
FM 89.75 MHz. พระนครศรีอยุธยา 
Time : 06.00-08.00 น./17.00-19.00 น ทุกวัน 
โทร/line : 0898129392
Email : arjanpong123@hotmail.com

Credit : คุณภัทริตา ชนะวัฒนานนท์

*** ข่าวพลังภูผา..***
"วินาที!! ลมหายใจสุดท้ายของ มิตร ชัยบัญชา!!.."
www.arjanpong.com

เมื่อ พ.ศ. 2513 มิตรมีโครงการภาพยนตร์ ที่แสดงนำและกำกับการแสดงเป็นเรื่องแรก ในเรื่อง อินทรีทอง ซึ่งเป็นภาพยนตร์ชุด "อินทรีแดง" เรื่องที่ 6 ที่มิตรแสดงในบท โรม ฤทธิไกรหรือ อินทรีแดง ที่ต้องออกสืบหาอินทรีแดงตัวปลอม รับบทโดยครรชิต ขวัญประชา แสดงร่วมกับ เพชรา เชาวราษฎร์ รับบทวาสนา.....

การถ่ายทำสำเร็จได้ด้วยดีจนถึงฉากสุดท้ายของเรื่อง ถ่ายทำที่หาดดงตาล พัทยาใต้ จังหวัด ชลบุรี เมื่อ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2513 เวลา 9.00 น. ในเรื่องหลังจากอินทรีแดงปราบผู้ร้ายได้แล้ว จะหนีตำรวจออกจากรังของคนร้าย โดยโหนบันไดเชือกจากเฮลิคอปเตอร์ซึ่งมีวาสนาเป็นผู้ขับ กล้องจะเก็บภาพเฮลิคอปเตอร์พาอินทรีแดงบินลับหายไป.....

เพื่อความสมจริง และความไม่พร้อมของเสื้อผ้าของนักแสดงแทน มิตรตกลงว่าจะแสดงฉากนี้ด้วยตัวเอง โดยกำหนดการถ่ายทำไว้อย่างละเอียด แต่ด้วยความผิดพลาดทางเทคนิคที่มิตรไม่อาจรู้ได้ เพราะกำลังแสดงอยู่ ปรากฏว่าด้วยแรงกระตุกของเครื่องขณะบินขึ้น โดยที่มิตรไม่ได้เหยียบบนบันได และต้องโหนตัวอยู่กับบันได เครื่องไม่ได้ลงจอดเมื่อผ่านหน้ากล้องแล้ว มิตร พยายามให้สัญญาณด้วยการตบเท้าเข้าหากัน ในขณะที่นักบินมองไม่เห็นความผิดปกติและการให้สัญญาณจากพื้นล่าง ยังบินสูงขึ้นต่อไป และเกิดแรงเหวี่ยงในจังหวะที่เครื่องเลี้ยวกลับ ซึ่งจริงๆแล้วมิตรได้แก้ปัญหาเฉพาะหน้าโดยการใช้ข้อมือซ้ายเกี่ยวพันกับบันไดลิง แต่เนื่องจากเชือกบากข้อมือจนเกือบขาด.....

มิตรทนความเจ็บไม่ไหว จึงตัดสินใจแกะเชือกที่รัดข้อมือ แล้วปล่อยตัวลงมา โดยตั้งใจว่าจะลงสู่บึงข้างล่างจะได้รอดชีวิต แต่ด้วยที่ว่าลมตีร่างมิตร ทำให้ตกลงมากระแทกกับพื้น ตรงจอมปลวก จากความสูง 300 ฟุต เขาถูกนำส่งโรงพยาบาลศรีราชาด้วย เฮลิคอปเตอร์ดังกล่าวภายใน 5 นาที แต่สายเกินไป จากผลการชันสูตรศพยืนยันว่า เขาเสียชีวิตทันที เพราะร่างกายแหลกเหลวไม่มีชิ้นดี เชือกบาดข้อมือเป็นแผลลึก 2 ซ.ม. ยาว 8 ซ.ม. กระดูกขากรรไกรข้างขวาหัก กระดูกโหนกแก้มซ้ายขวาหัก มีเลือดออกทางหูขวา กระดูกซี่โครงขวาหัก 5 ซี่ กระดูกโคนขาขวาหัก กระดูกต้นคอหัก โดยเสียชีวิตเมื่อเวลาประมาณ 16.13 น......

9 ตุลาคม พ.ศ. 2513 หนังสือพิมพ์ไทยทุกฉบับพาดหัวข้อข่าวการตายของเขา ซึ่งกระจายข่าวไปถึงญี่ปุ่น ฮ่องกง และไต้หวัน หลังจากข่าวการตายของเขา ทรัพย์สินส่วนใหญ่ของเขาถูกเคลื่อนย้ายออกจากบ้านทั้ง 3 หลัง ไม่มีเสื้อผ้าเหลือแม้แต่ชุดเดียวที่จะสวมใส่ให้ใหม่ตอนรดน้ำศพ.....

ศพของ มิตร ชัยบัญชา ตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดแคนางเลิ้ง หลังจากครบ 100 วัน พิธีพระราชทานเพลิงศพจัดเมื่อ 21 มกราคม พ.ศ. 2514 มีประชาชนหลั่งไหลเข้าไปร่วมงานจำนวนหลายหมื่นคน สำหรับการพระราชทานเพลิงศพย้ายจากวัดแคไปวัดเทพศิรินทร์ มีประชาชนหลั่งไหลไปร่วมงานกว่า 3 แสนคน จนกระทั่ง ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช กล่าวว่าเป็นงานศพของสามัญชนที่มีผู้ไปร่วมงานมากที่สุดในประวัติศาสตร์.......

.........................

รายการ : ข่าวพลังภูผา
Radio online : www.arjanpong.com
FM 89.75 MHz. พระนครศรีอยุธยา 
Time : 06.00-08.00 น./17.00-19.00 น ทุกวัน 
โทร/line : 0898129392
Email : arjanpong123@hotmail.com

*** ข่าวพลังภูผา..***
ศาลตัดสิน"เบนซ์ เรซซิ่ง"จำคุก 8 ปี!! "แพท"กอดลูกตะโกนเรียกไม่ห่าง!!
www.arjanpong.com
เมื่อเวลา 10 .00 น. วันที่ 7 ก.ย. ที่ห้องพิจารณา 907 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาคดียาเสพติด หมายเลขดำ อย.2201/60 ที่พนักงานอัยการคดียาเสพติด 10 เป็นโจทก์ฟ้องนายอัครกิตต์ วรโรจน์เจริญเดช หรือเบนซ์ เรซซิ่ง อายุ 31 ปี นายสรรเสริญ หรือเน็ต รสานนท์ อายุ 26 ปี และ น.ส.อังสุพร หรืออุ้ม อินา อายุ 29 ปี ร่วมกันเป็นจำเลยที่1-3 ฐานผิดพ.ร.บ.ป้องกัน และปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 พ.ร.บ.มาตรการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534 ป.อาญามาตรา 83,91......

กรณีเมือช่วงเดือน พ.ย.59 -2 ก.พ. 60 ต่อเนื่องกัน จำเลยกับพวกสมคบกันตั้งแจ่ 2 คนขึ้นไปวางแผน แบ่งหน้าที่กันทำจัดหา ลำเลียงยาบ้า 140,000 เม็ด ไอซ์ 19 กก.เศษส่งให้ลูกค้าและเครือข่าย รวมทั้งจัดการด้านการเงินซื้อ-ขายยาเสพติดโดยจำเลย 1-3 เปิดบัญชีธนาคารฝาก-ถอน โอนเงิน กับนายณัฐพล หรือบอย นาคคำ ที่ศาลพิพากษาลงโทษแล้ว นอกจากนี้ช่วง วันที่ 29 ธ.ค.57- 22 พ.ย. 59 นายณัฐพล ได้โอนเงินเข้า บัญชีของจำเลยที่ 1 ประมาณ 50 ครั้ง จำนวน 10 ล้านบาทเศษ ทั้งนี้จำเลยที่ 1 ได้นำเงินไปซื้อรถยนต์ และรถจยย.ราคาแพงด้วย ชั้นสอบสวนจำเลย 1 ให้การปฏิเสธโดยตลอด ส่วนจำเลยที่ 2-3 ซึ่งเป็นสามีภรรยากันให้การรับสารภาพเฉพาะข้อหาฟอกเงิน......

ศาลพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานทั้งสองฝ่ายแล้วเห็นว่า ในส่วนของจำเลยที่ 1 ความผิดฐานสมคบยาเสพติด พยานโจทก์ นั้นยังมีข้อพิรุธสงสัย จึงยกประโยชน์ให้ ด้วยการยกฟ้องความผิดฐานนี้ ส่วนข้อหา ฟอกเงิน นั้น ฟังได้ว่า จำเลยที่ 1 มีรายได้จำนวนมาก ที่ได้จากนายณัฐพล หรือบอย นาคคำ จากการพนันหวย และพนันฟุตบอล ที่ไม่สอดคล้องกับการเสียภาษีเงินได้ เห็นว่า จำเลยที่ 1 กระทำผิดฐานฟอกเงินจริง พิพากษาจำคุก 8 ปี......

ส่วนจำเลยที่ 2-3 ซึ่งเป็นสามีภรรยากัน รับฟังได้ว่า เป็นผู้สนับสนุนการค้ายาเสพติดของนายณัฐพลจริง พิพากษา จำคุกคนละ 20 ปี ปรับ คนละ 4 แสนบาท และให้จำคุกฐานร่วมกันฟอกเงิน จำคุกคนละ 8 ปี จำเลยรับสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่ง เหลือจำคุก คนละ4 ปี คงจำคุกจำเลยที่ 2-3 คนละ 24 ปี ปรับคนละ 4 แสนบาท......

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้มีมารดาเบนซ์ และบรรดาคนใกล้ชิดประมาณ 30 คน เดินทางมาให้กำลังใจจำเลยทั้งสาม ส่วนแพท ณปภา ภรรยาเบนซ์ ได้อุ้มน้องเรซซิ่งมาให้กำลัง ซึ่งแพท บอกให้เบนซ์โบกมือทักทายลูกน้อยด้วย......

Credit : https://www.dailynews.co.th/crime/664817

.............................................

รายการ : ข่าวพลังภูผา
Radio online : www.arjanpong.com
FM 89.75 MHz. พระนครศรีอยุธยา 
Time : 06.00-08.00 น./17.00-19.00 น ทุกวัน 
โทร/line : 0898129392
Email : arjanpong123@hotmail.com

*** ข่าวพลังภูผา..***
หวังดีช่วยปิดท้าย หนุ่มบิ๊คไบค์กลับถูกด่าว่าเสือก!!
www.arjanpong.com

เมื่อวันที่ 5 ก.ย. ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Supod Mongkonkoon โพสต์คลิปวิดีโอความยาว 1.09 นาที พร้อมกับบรรยายข้อความว่า ผมช่วยพี่แต่ผมต้องมาโดนพี่ด่าว่า"เสือก"หรอ??? ผมเห็นพี่แท็กซี่ลืมปิดกระโปรงหลังรถ ผมเลยจอดบีบแตรเรียกแล้วปิดให้ (อาจจะปิดแรงไป) พอมาจอดด้านข้างรถ พี่แท็กซี่เปิดกระจกมาหน้าตาพี่แกไม่พอใจผมอย่างมาก ผมก็บอกดีๆนะว่าพี่ครับลืมปิดกระโปรงหลังผมเลยปิดให้นะ แต่พี่แท็กซี่ก็เหมือนไม่รับฟังจะติจะว่าผมอย่างเดียว โมโหโวยวาย ต่อหน้าผู้โดยสาร.....

แถมทิ้งท้ายด่าผม "เสือก" ผมนี่ถึงกับงง ผมเลยคิด "เห่ยนี่ผมช่วยพี่แต่ผมต้องมาโดนพี่ด่าเสือกหรอ?" นี่ผมทำอะไรผิดไปรึป่าว??? ผมก็ไม่รู้ว่าพี่ไปโกรธหรือโมโหใครมา แต่ผมให้เกียรติช่วยพี่ พี่จะไม่ให้เกียรติผมไม่เป็นไร แต่พี่ก็ควรให้เกียรติผู้โดยสารที่มากับพี่ด้วยนะครับ (ถ้าผมช่วยพี่แล้วทำให้ทรัพย์สินพี่เสียหายผมก็ต้องขอโทษด้วยครับ) @แยกอโศก 09.00 น......

Credit : https://www.dailynews.co.th/regional/664536

....................................

รายการ : ข่าวพลังภูผา
Radio online : www.arjanpong.com
FM 89.75 MHz. พระนครศรีอยุธยา 
Time : 06.00-08.00 น./17.00-19.00 น ทุกวัน 
โทร/line : 0898129392
Email : arjanpong123@hotmail.com

*** ข่าวพลังภูผา..***
หัวใจความรักของหญิงคนหนึ่ง ที่ถูกสังคมไม่ยอมให้อภัย!! "มิ้ง ศวภัทร.."
www.arjanpong.com
วันที่ 4 ก.ย.61 นักแสดงหนุ่ม กัปตัน ชลธร คงยิ่งยง พร้อมทนายความ ได้เดินทางมายังศูนย์ประนอมข้อพิพาทศาลอาญา รัชดา เพื่อไกล่เกลี่ย หลังยื่นฟ้อง อดีตแฟนสาว มิ้ง ศวภัทร คดีอาญาในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และคดีแพ่ง ในฐานความผิดละเมิดการกล่าวหรือไขข่าวแพร่หลาย (โดยไม่มีประเด็นเรื่องการเรียกค่าเสียหาย).....

ล่าสุดสาวมิ้งค์ ได้ให้สัมภาษณ์ ว่า การไกล่เกลี่ยเรียบร้อยดี ตกลงเข้าใจกันดี วันนี้ จะออกมาพูดความจริง เรื่องตั้งครรภ์ไม่เป็นความจริง ที่ทำไปเพราะว่า เรารักเขามีความผูกพันธ์หลายๆอย่าง อยู่ในช่วงที่ไม่อยากเสียไป เลยทำไปโดยไม่ได้คิดให้ดีก่อน.....

พร้อม“ขอโทษทุกฝ่าย ทั้งกัปตัน พ่อแม่กัปตัน และผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ที่ทำให้ทุกคนต้องเดือดร้อนเพราะอารมณ์ชั่ววูบ ที่มาในวันนี้ เพราะอยากขอโทษและรู้สึกผิดมาตลอด ยอมรับว่าโกหก ตั้งแต่แรกไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้ พอกระแสออกไปแล้วเห็นกัปตันโดนด่า ก็มีความรู้สึกที่ไมีดีเลย เสียใจมาก......"

Credit : https://www.youtube.com/watch?v=PaiUmGWDuGc

...................................

รายการ : ข่าวพลังภูผา
Radio online : www.arjanpong.com
FM 89.75 MHz. พระนครศรีอยุธยา 
Time : 06.00-08.00 น./17.00-19.00 น ทุกวัน 
โทร/line : 0898129392
Email : arjanpong123@hotmail.com

*** ข่าวพลังภูผา..***
"ผมเปียกเดี๋ยวพ่อหวีให้นะ.."
พ่อร่ำไห้กอดร่างลูกสาวที่พลัดจมน้ำ ปริ่มจะขาดใจตาม!!
www.arjanpong.com
เมื่อวันที่ 3 ก.ย. พ.ต.ต.บุญสิงห์ สุทธิ สว (สอบสวน) สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ได้รับแจ้งเหตุเด็กจมน้ำเสียชีวิตในซอยชุมชนโรงเรียนวัดคุณหญิงส้มจีน บ้านเลขที่ 25/334 หมู่ 14 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ และมูลนิธิร่วมกตัญญู ที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียวปลูกอยู่บนบ่อน้ำพบชาวบ้านกำลังมุงดูสภาพสะเทือนใจตรงหน้า.....

เป็นภาพผู้เป็นบิดาคือ นายทรงวุฒิ ใจตรง อายุ 32 ปี นั่งร่ำไห้กอดร่างไร้วิญญาณของลูกสาวคือ "น้องฟอล" วัย 3 ขวบ เอาไว้แนบอก พร้อมกับหวีผมลูกสาวอย่างใจจะขาด ปากก็พร่ำพูดว่า "ผมน้องฟอลเปียกนะลูก เดี่ยวไม่สบายนะลูก พ่อจะหวีผมให้นะลูก พ่อรักหนูนะลูก" โดยมีผู้เป็นมารดาคือ น.ส.อรชา สุขตา อายุ 31 ปี นั่งร่ำไห้พรั่งพรูปานจะขาดใจเช่นกัน ทีมกู้ชีพเทศบาลเมืองท่าพยายามลองปั๊มหัวใจช่วยเต็มที่แล้วแต่ไม่เป็นผล แพทย์ระบุว่าเสียชีวิตมาแล้ว 1 - 2 ชม......

นายจีรพงษ์ เพ็ญสุข อายุ 28 ปี เพื่อนบ้าน เปิดเผยว่า ขณะนอนอยู่มีคนข้างบ้านบอกว่ามีเด็กหายไปและยังหาไม่เจอ คาดว่าน่าจะจมน้ำใต้ถุนบ้าน จึงช่วยกันออกตามหาพร้อมพ่อเด็ก จากนั้นพ่อเด็กตัดสินใจโดดลงไปงมหาในบ่อน้ำ ทำให้พบร่างของลูกสาว เอาขึ้นมาก็ช่วยไม่ทันแล้ว.....

ด้าน น.ส.อรชา ให้การทั้งน้ำตาว่า ตนกับสามีมีลูกสาวฝาแฝด ก่อนเกิดเหตุสามีออกไปซื้อของ ก่อนที่ตนจะเผลอหลับไปด้วยความเพลียและเหนื่อยล้า มาสะดุ้งตื่นตอนที่สามีกลับมาแล้วตะโกนถามว่าแฝดพี่หายไปไหนทำไมเหลือแฝดน้องคนเดียว ด้วยความตกใจจึงออกตามหาแล้วพบว่าพลัดตกน้ำแล้ว มันเหมือนใจจะขาด อยากจะตายแทนลูกเหลือเกิน........

Credit : https://www.dailynews.co.th/regional/664199
: https://www.youtube.com/watch?v=fDgG3Y0pp1w
........................................
รายการ : ข่าวพลังภูผา
Radio online : www.arjanpong.com
FM 89.75 MHz. พระนครศรีอยุธยา 
Time : 06.00-08.00 น./17.00-19.00 น ทุกวัน 
โทร/line : 0898129392
Email : arjanpong123@hotmail.com

*** ข่าวพลังภูผา..***
"ไอ้โก้" อ้างแค้นฆ่า"ไฮโซเชอรี่"ด่าลามพ่อแม่ คิดโดดตึกฆ่าตัวตายตาม!!
www.arjanpong.com
เมื่อวันที่ 31 ส.ค. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. สอบปากคำ นายอัศยา หรือโก้ ชัยภาอายุ 33 ปี ผู้ต้องหาใช้ไม้เบสบอลสังหาร น.ส.ธิติมา หรือเชอรี่ ตั้งวิบูลย์พาณิชย์อายุ 39 ปี ไฮโซสาวนักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ จนเสียชิตคาคอนโดย่านลาดพร้าว พร้อมด้วย นายอนุวัฒน์ ชัยภา อายุ 32 ปี น้องชายที่พาหนี เพื่อถามถึงชนวนเหตุฆ่าอำมหิต......

นายโก้ ให้การรับสารภาพอ้างว่า ตอนที่อยู่ในห้องคอนโด ได้มีปากเสียงกับผู้ตาย เถียงกันบานปลายถึงขั้นผู้ตายบันดาลโทสะด่าทอลามถึงบุพการีและลูกสาวของตนที่ติดจากภรรยาเก่าด้วย ทำให้เกิดความคับแค้นสะสม เนื่องจากผู้ตายเป็นคนอารมณ์ร้ายและรุนแรง มักด่าทอเป็นประจำถ้าไม่พอใจอะไร ก่อนหน้านี้ก็เคยพูดจาอาฆาตมาดร้ายและขู่ฆ่าด้วย หากไม่เลิกยุ่งกับภรรยาเก่า จึงรู้สึกโมโหและหันไปเห็นไม้เบสบอลจึงคว้ามาฟาดใส่จนตาย จากนั้นก็ขอความช่วยเหลือให้น้องชายพาหนีข้ามชายแดน เพราะน้องชายเคยทำงานในบ่อนเขมร.....

หลังจาก่อเหตุก็มีแว๊บนึงที่สำนึกผิดและคิดจะฆ่าตัวตาย แต่พอนึกถึงลูกสาวจึงทำให้ยังอยากมีลชมหายใจต่อไป ซึ่งหลังจากนี้ จะนำตัวนายอัศยา และนายอนุวัฒน์ น้องชาย ไปฝากขังที่ศาลอาญารัชดา ในช่วงก่อนเที่ยง......

Credit : https://www.dailynews.co.th/crime/663688
: https://www.youtube.com/watch?v=DR75oosNkaE

...........................................................

รายการ : ข่าวพลังภูผา
Radio online : www.arjanpong.com
FM 89.75 MHz. พระนครศรีอยุธยา 
Time : 06.00-08.00 น./17.00-19.00 น ทุกวัน 
โทร/line : 0898129392
Email : arjanpong123@hotmail.com

*** ข่าวพลังภูผา..***
เปิดคลิปเก๋งอำมหิต!! ชนคนเจ็บกลางถนน ลากติดรถไปเกือบกิโลฯ!!
www.arjanpong.com
จากกรณีเก๋งใจเหี้ยม ชนซ้ำ นายปิยรัตน์ อบเชย อายุ 35 ปี หนุ่มบิ๊กไบค์ ซึ่งประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนท้ายรถเก๋ง และนอนเจ็บอยู่กลางถนนสุขาภิบาล 5 แต่ปรากฏว่าระหว่างที่กำลังมีคนลงไปให้ความช่วยเหลือ กลับมีรถเก๋งคันหนึ่งขับมาด้วยความเร็ว ก่อนจะทับเข้าที่ร่างของนายปิยรัตน์ และลากร่างไปไกลกว่า 800 เมตร ทำให้นายปิยรัตน์ได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่ รพ.สินแพทย์ นั้น......

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสืบสวนสอบสวนของตำรวจ สน. สายไหม พบว่า รถที่ก่อเหตุเป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อมิตซูบิชิ สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน ญธ-4861 กทม. โดยมี นายมนู แสงโพธิ์แก้ว อายุ 43 ปี เป็นผู้ขับขี่ จึงได้นำกำลังฝ่ายสืบสวนไปติดตามตัว เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. ของวันนี้ (30 ส.ค. 61) พร้อมตรวจยึดรถยนต์คันดังกล่าว ซึ่งจอดอยู่บริเวณหน้าบ้านพักของนายมนูย่านบางบัวทอง จ.นนทบุรี......

จากการสอบสวนเบื้องต้น นายมนูให้การว่า วันที่เกิดเหตุช่วงเย็น ตนเองได้ขับรถมาบ้านเพื่อนย่านสายไหม ทำธุระเสร็จประมาณตี 2 ตนจึงขับรถกลับบ้าน โดยใช้ GPS นำทางไปตามถนนสุขาภิบาล 5 เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งมืดมาก ตนเองรู้สึกว่าเหยียบอะไรบางอย่าง และลากติดรถมาด้วย ตนจึงจอดและขับรถถอยหลัง เพื่อให้สิ่งที่ติดอยู่ใต้ทองรถหลุดออกไป ด้วยความตกใจจึงรีบขับรถกลับบ้าน......

นายมนู กล่าวต่อว่า พอเช้าวันรุ่งขึ้น ภรรยาของตนถามว่ารถไปชนอะไรมา ทำไมกันชนถึงแตก และบวกกับภรรยาดูข่าวในทีวีเห็นคล้ายๆ รถของตนเองก่อเหตุชนคนแล้วหนี ตนจึงแน่ใจว่าคืนวันเกิดเหตุต้องขับรถเหยียบคนแน่ๆ จึงกลัวความผิดไม่กล้ามอบตัว แต่ภายหลังก็สำนึกได้......

ร.ต.อ.วิษณุ แท่นทอง รอง สว.สอบสวน สน.สายไหม ได้แจ้งข้อกล่าวหานายมนู คือ ขับรถโดยประมาท เป็นเหตุให้เฉี่ยวชนผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายสาหัส แล้วหลบหนีไม่หยุดช่วยเหลือตามสมควร และไม่แสดงตัวต่อเจ้าหน้าที่พนักงานที่ใกล้เคียง ซึ่งนายมนูรับทราบ และให้รับการสารภาพตลอดข้อกล่าวหา......

Credit : https://workpointnews.com/…/%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0…/

.....................................................

รายการ : ข่าวพลังภูผา
Radio online : www.arjanpong.com
FM 89.75 MHz. พระนครศรีอยุธยา 
Time : 06.00-08.00 น./17.00-19.00 น ทุกวัน 
โทร/line : 0898129392
Email : arjanpong123@hotmail.com

*** ข่าวพลังภูผา..***
ผวาไอ้หื่นนินจา!! โผล่ริมถนนสไลค์หนอนโชว์!!
www.arjanpong.com
วันที่ (29 ส.ค.61) โลกออนไลน์บนเฟซบุ๊ก ซึ่งมีผู้ใช้ชื่อ Pornphan Khumsuk ได้มีการโพสต์คลิปที่มีชายดักรอข้างทางเมื่อมีหญิงสาวขับรถผ่านก็จะกระโดดออกมาโชว์ของลับ ช่วงบริเวณถนนสายบรรพตพิสัย-เก้าเลี้ยว พื้นที่ตำบลหูกวาง อำเภอบรรพตพิสัย จังหวัดนครสวรรค์ ทำให้ผู้ที่เคยใช้เส้นทางดังกล่าวต่างเข้ามาวิพากวิจารณ์ถึงชายที่ปรากฏอยู่ในคลิป ว่ามีการกระทำหลายครั้งและมีผู้หญิงที่ขับขี่รถจักรยานยนต์หลายราย ต่างเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาแล้ว จนทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ต่างเป็นห่วงลูกหลานเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย จึงร้องเรียนมาทางสื่อมวลชน เพื่อให้ช่วยตีแผ่ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยขอให้ทางเจ้าหน้าที่ช่วยลงมาดูแล พร้อมทำการจับกุมชายคนดังกล่าว.....

จากการลงพื้นที่ตรวจสอบ ทราบว่า เจ้าของคลิปที่โพสต์ลงในเฟซบุ๊ก Pornphan Khumsuk คือ นางสาวพรพรรณ ขำสุข ได้เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า ช่วงเวลาที่เกิดเหตุ เป็นช่วงสายของวันที่ 26 สิงหาคม ที่ผ่านมา ตนเองได้ขับรถจักรยานยนต์ไปทำธุระ แต่ระหว่างทาง จู่ๆ ตนก็ต้องตกใจขนลุกขนพอง เมื่อมีผู้ชายคนหนึ่ง ใช้ผ้าคลุมปิดบังใบหน้า เห็นเพียงแต่ตา และใส่เสื้อยืดคอกลมสีขาวเพียงตัวเดียว กระโดดออกมาจากป่าข้างทางถนน และภายในมือข้างหนึ่งได้กำของลับสาวไปสาวมาอย่างมันมือ จนทำให้ตนเองต้องเร่งเครื่องหนีสุดชีวิต ซึ่งเคราะห์ดีที่ไม่ได้รับอุบัติเหตุเนื่องจากชายคนดังกล่าวได้กระโดดออกมาแทบจะกลางถนน ดีที่ประคองรถไว้ได้.....

เมื่อทำธุระเสร็จตนเองจึงตัดสินใจอัดคลิปไว้ โดยที่ไม่แน่ใจว่าจะเจอหรือเปล่า แต่พอขับมาได้สักพักก็เจอชายคนดังกล่าวเหมือนเดิมตามที่เห็นในคลิปทำให้ตนเองตัดสินใจนำลงใน facebook ของตน จนมีคนมาคอมเม้นท์ว่าต่างก็เจอเหมือนกับตนเองพร้อมบอกลักษณะเหมือนกับที่ตนเองเจอทำให้ตนเองตัดสินใจร้องเรียนต่อผู้สื่อข่าว เพื่อให้เจ้าหน้าที่ลงมาช่วยดูแลเพราะเกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่ดีในแถวบ้านตนเองพร้อมเตือนภัยผู้ใช้รถใช้ถนนเส้นดังกล่าวด้วย.........

Credit : https://www.youtube.com/watch?v=i992hKBtSy0

...................................

รายการ : ข่าวพลังภูผา
Radio online : www.arjanpong.com
FM 89.75 MHz. พระนครศรีอยุธยา 
Time : 06.00-08.00 น./17.00-19.00 น ทุกวัน 
โทร/line : 0898129392
Email : arjanpong123@hotmail.com

*** ข่าวพลังภูผา..***
ยังไม่ทันปักธูป ของไหว้ถูกรุมเเย่งไม่มีเหลือ!!
รายการ : ข่าวพลังภูผา
Radio online : www.arjanpong.com
FM 89.75 MHz. พระนครศรีอยุธยา 
Time : 06.00-08.00 น./17.00-19.00 น ทุกวัน 
โทร/line : 0898129392
Email : arjanpong123@hotmail.com
........................
Credit : https://www.matichon.co.th/social/news_1103473

*** ข่าวพลังภูผา..***
เเม่เป็นมะเร็งระยะสุดท้าย สู้สุดใจ!! มาร่วมงานเเต่งลูกก่อนสิ้นลม!!
www.arjanpong.com

กรณีโลกออนไลน์แชร์ภาพ ซึ่งเป็นเรื่องราวแสนเศร้าของบ่าวสาวคู่หนึ่ง ที่ทำให้หลายคนมีน้ำตาและพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ซึ้งในความรักของคนเป็นแม่ โดยสมาชิกเฟซบุ๊กชื่อว่า "Thitinan Nhundee" ซึ่งเป็นหนุ่มช่างภาพ ได้โพสต์ข้อความระบุอ้างว่า "ถ่ายงานแต่งมา ไม่เคยเศร้าเท่างานนี้ คุณแม่เจ้าสาวเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย ออกจากโรงพยาบาลมาที่งานแต่เช้า ถึงอาการทรุดหนักและคุณหมอห้าม แต่ก็ยังยืนยันที่จะมาร่วมงาน และขอสู้สุดใจเพื่องานของลูก รอเวลาส่งต่อความรักของแม่ เบื้องหลังความทรงจำทั้งชีวิต มักจะมีเรื่องราวของแม่อยู่เสมอ เวลานี้ท่านได้จากไปอย่างสงบหลังจากวันงานได้ 1 วัน ขอแสดงความเสียใจกับคุณบี ซึ่งต้องเสียคุณแม่ในครั้งนี้ และต้องขอขอบคุณที่ให้เราได้บันทึกภาพความทรงจำในครั้งนี้ด้วยครับ"......

เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 26 ส.ค. "เดลินิวส์ออนไลน์" สอบถามไปยังช่างภาพหนุ่มคนดังกล่าว เปิดเผยว่า ในวันแต่งงานดังกล่าวช่างภาพทุกคนคนตั้งใจทำงานกันมา เป็นงานมงคลสมรสที่บรรยากาศเป็นสีเทาๆ บอกไม่ถูก บางช่วงที่จะต้องประกอบพิธีนอกอาคาร ก็ไม่สามารถทำได้ เพราะอาการของแม่เจ้าสาวทรุดลงเรื่อยๆ แต่ก็ประคับประคองย้ายไปประกอบพิธีในห้อง เช่น พิธีรดน้ำสังข์ เป็นต้น นอกจากนี้ตนยังได้เห็นน้ำตาของช่างภาพด้วยกัน ที่กลั้นไว้ไม่อยู่จริงๆ เรื่องราวมันค่อนข้างเศร้า กระทั่งช่วงเช้าเวลา 05.00 น. ของวันนี้ เจ้าสาวได้ส่งข้อความมาขอรูปบางส่วน แจ้งว่าจะนำไปใช้ประกอบพิธีศพมารดา ทำให้ตนตกใจมาก และทราบเรื่องราวทั้งหมด ขณะนี้กำลังเร่งจัดทำรูปให้กับเจ้าสาวอย่างดีที่สุด.....

Credit : https://www.dailynews.co.th/regional/662670

...................................................

รายการ : ข่าวพลังภูผา
Radio online : www.arjanpong.com
FM 89.75 MHz. พระนครศรีอยุธยา 
Time : 06.00-08.00 น./17.00-19.00 น ทุกวัน 
โทร/line : 0898129392
Email : arjanpong123@hotmail.com

*** ข่าวพลังภูผา..***
ใครฆ่าเขา?? ศรคีรี ศรีประจวบ!!..
ศรคีรี เล่าถึงประวัติของตัวเองเอาไว้เมื่อ พ.ศ. 2515 ว่า "บ้านเกิดผมเลขที่ 13 บ้านหนองอ้อ ต. บางกระบือ อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม พ่อผมชื่อมั่ง แม่ชื่อเชื้อ ผมมีพี่น้อง 6 คน ผมเป็นคนสุดท้อง ชื่อจริงผม ชื่อ ศรชัย (น้อย) ทองประสงค์ เกิดวันที่ 4 มีนาคม 2478 ผมเรียนจบ ป.4 ที่โรงเรียนพรหมสวัสดิ์สาธร (โรงเรียนวัดตะโหนดราย ในปัจจุบัน) จบมาก็ช่วยแม่ปาดตาล (มะพร้าว) ปีนต้นตาลทุกวันมันเหนื่อยก็เลยหยุดพักบนยอดตาล เพื่อไม่ให้เสียเวลาผมก็ร้องเพลงบนยอดตาลจนหายเหนื่อยแล้วค่อยทำงานต่อ.....

เพลงที่ชอบร้องก็มี "เสือสำนึกบาป", "ชายสามโบสถ์" เพราะตอนนั้นเพลงของคำรณ สัมบุญณานนท์ ฮิตเป็นบ้าเลย ตอนนั้นอยากเป็นนักร้องใจแทบขาด เวลาวงดนตรีของ พยงค์ มุกดา มาแสดงใกล้บ้าน ผมจะไปสมัครร้องให้คุณพยงค์ฟัง แกบอกว่าให้ไปหัดร้องมาใหม่ พยายามอยู่ 2 ครั้งครูพยงค์บอกว่ายังไม่ดี ผมเลยเลิกไปเอง จากนั้นพออายุ 20 ปี บวชได้พรรษาหนึ่งก็สึก พ่อแม่ผมไปซื้อไร่ที่ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ โน่น ตอนนั้นเขากำลังทำไร่สับปะรดกัน".....

ที่นี่ ศรคีรีเริ่มร้องเพลงอีกครั้ง โดยเข้าประกวดร้องเพลงตามงานวัด และคว้ารางวัลมากมาย จนเพื่อนชื่อ พยงค์ วงศ์สัมพันธ์ มาชวนให้ร่วมวงที่เช่าเครื่องดนตรี และจ้างครูดนตรีจากที่ค่ายธนะรัชต์ มาสอน เพื่อความสนุกในหมู่บ้าน ต่อมาเมื่อคนรู้จักมากขึ้น จึงตั้งวง "รวมดาววัยรุ่น" ที่ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น "รวมดาวเมืองปราณ" รับงานแสดงทั่วไปตามบ้านที่ขายสับปะรดได้โดยไม่คิดเงินทอง ตอนนั้นศรคีรีร้องเพลงแบบรำวง และใช้ชื่อ "พนมน้อย" เพราะร้องเพลงของ พนม นพพร และศักดิ์ชาย วันชัย ต่อมาได้นำวงมาแสดงในงานปีใหม่ของจังหวัด "ประหยัด สมานมิตร" ผู้ว่าราชการจังหวัด ได้ฟังเสียงและเห็นหน้าก็รักใคร่ชอบพอ จึงเปลี่ยนชื่อให้เป็น ศรคีรี ศรีประจวบ.....

หลังจากนั้น วิจิตร ฤกษ์ศิลป์วิทยา คนอยู่ใกล้บ้านกันให้การสนับสนุนเพื่อวงดนตรีแข็งแรงขึ้นและพากันเข้ากรุงเทพฯ เช่าเวลารายการวิทยุยานเกราะจาก จำรัส วิภาตะวัธ วิ่งล่องกรุงเทพฯ - ประจวบฯ อยู่บ่อยๆ ก็ได้พบกับ เพลิน พนาวัลย์ ที่พาเขาไปพบครูไพบูลย์ บุตรขัน ที่บ้าน ตามคำขอร้องของศรคีรี.....

"ภูพาน เพชรปฐมพร" อดีตนักร้องลูกวงที่ใกล้ชิดกับศรคีรีในวง "รวมดาววัยรุ่น" เล่าว่า ตอนไปขอเพลง ตอนนั้นครูมีนักร้องที่ดังมากคือ รุ่งเพชร แหลมสิงห์ เป็นลูกศิษย์อยู่ ศรคีรีก็ร้องเพลงแนวเดียวกัน ครูไพบูลย์ก็ไม่ให้ จึงต้องเทียวไปเทียวมาอยู่หลายครั้งจนครูใจอ่อน เพลงแรกที่ได้มาคือ น้ำท่วม ตอนที่บันทึกเพลง น้ำท่วม จ. ประจวบคีรีขันธ์ เสียหายอย่างมาก สับปะรดถูกน้ำท่วมทั้งหมด นอกจากนั้น ครูก็ยังให้เพลงมาอีก 3 เพลง คือ "บุพเพสันนิวาส", "แม่ค้าตาคม", "วาสนาพี่น้อย" สำหรับการบันทึกเสียงครั้งแรกนั้น ชุดแรกมีทั้งหมด 6 เพลง คือ น้ำท่วม, บุพเพสันนิวาส, วาสนาพี่น้อย, แม่ค้าตาคม, พอหรือยัง และบางช้าง งานนี้ศรคีรี เปลี่ยนสภาพจากนักร้องเพลงรำวง มาเป็นนักร้องเพลงหวานโดยสมบูรณ์.....

หลังจากเพลงเริ่มเป็นที่รู้จัก ศรคีรีลงมาอยู่กรุงเทพฯ แต่ยังไม่นำวงดนตรีมาด้วย โดยจะนำมาก็แต่เมื่อมีงานครั้งแรกในกรุงเทพฯ เขาเปิดการแสดงงานศพน้องชายครูไพบูลย์ที่ วัดหลักสี่ บางเขน จากนั้นวงก็เริ่มรับงานในกรุงเทพฯ และเดินสายทั่วประเทศ และในการออกเดินสายใต้เป็นครั้งแรก วงประสบความสำเร็จอย่างงดงาม จัดว่าเป็นวงที่มีค่าตัวแพงวงหนึ่ง ช่วงนั้นศรคีรีได้มีโอกาสแสดงหนังของครูรังสี ทัศนพยัคฆ์ เรื่อง "มนต์รักจากใจ" ด้วย.....

ต่อมาศรคีรีมีชื่อเข้าไปพัวพันคดีสังหาร วิจิตร เลิศศิลปวิทยา หัวหน้าวงดนตรีจตรไพบูลย์ พร้อมพวกอีก 4 คน ชื่อเสียงจึงตกลงไปบ้าง แต่ในที่สุดก็พิสูจน์ตัวเองได้ และกลับมาอีกครั้งในเพลง "ตะวันรอนที่หนองหาร", "อยากรู้ใจเธอ", รักแล้งเดือนห้า", "ลานรักลั่นทม" และ "คิดถึงพี่ไหม" ซึ่งเพลงหลังนี้ ขณะบันทึกเสียงศรคีรีร้องโดยปิดไฟมืด ซึ่งเขาไม่เคยทำมาก่อน เพลงนี้แต่งโดย พยงค์ มุกดา โดย ทิว สุโขทัย เคยร้องไว้เป็นคนแรกและเสียชีวิตไปก่อนหน้า และเพลงนี้เป็นเพลงสุดท้ายที่ศรคีรีได้บันทึกเสียงไว้.....

ก่อนเสียชีวิต ศรคีรีเคยไปทำการแสดงที่โรงหนังเอกมัยราม่า มีคนนำเอาพวงมาลัยดอกไม้สด แต่คาดด้วยผ้าดำแบบที่ทำไว้สำหรับคนตายมอบให้บนเวทีขณะร้องเพลง ศรคีรีรับไว้ด้วยความเกรงใจ เมื่อกลับเข้าหลังเวที ศรคีรีสั่งเลิกการแสดงคืนนั้นทันทีทั้งที่ร้องเพลงได้เพียง 5 เพลง.....

ด้วยวัยแค่ 36 ปี ศรคีรี ศรีประจวบ จากโลกนี้ไปเมื่อวันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2515 ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ ในเวลาไม่แน่นอน ประมาณ 03.00 - 05.00 น. บริเวณริมถนนพหลโยธิน ช่วงหลัก กม.ที่ 448 - 449 ต.อ่างทอง อ.เมือง จ.กำแพงเพชร ขณะเดินทางกลับจากการแสดงที่วัดหน้าพระธาตุ อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ เข้ากรุงเทพฯ เพื่อเปิดทำการแสดงที่วัดภาษี เอกมัย ในตอนค่ำ คาดว่าคนขับรถของศรคีรีเกิดง่วงนอน จึงจอดรถเก๋งโตโยต้าคราวน์ข้างทางเพื่อพักสักงีบ แต่ปรากฏว่ามีรถบรรทุกไม้วิ่งมาด้วยความเร็วสูงประกอบกับในขณะนั้นพื้นที่บริเวณนั้นยังเป็นสะพานสูง เมื่อรถบรรทุกไม้วิ่งมาด้วยความเร็ว เมื่อถึงสะพานก็ทำให้รถกระโดดเสียหลัก ขึ้นไปทับรถของศรคีรี ทำให้เขาเสียชีวิตคาที่.....

หลังการแสดงในวันนั้น ลูกวงได้ออกเดินทางมายังจุดนัดพบที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งก่อน แต่หลังจากที่ลูกวงรออยู่นาน หัวหน้าวงยังเดินทางมาไม่ถึง จึงออกเดินทางต่อ แต่วิ่งไปสักระยะหนึ่ง ก็มีรถพลเมืองดีวิ่งไล่ตามและเรียกให้จอด เพื่อแจ้งข่าวเรื่องการประสบอุบัติเหตุของรถของศรคีรี หลังพบใบปลิวการแสดงปลิวออกจากรถศรคีรีเกลื่อนกลาด หลังรถบัสวิ่งกลับไปก็พบศพดังกล่าว.....

ก่อนเสียชีวิต ศรคีรี สมรสแล้วกับ นางบุญนาค ทองประสงค์ มีบุตรธิดารวม 3 คน เป็นชาย 2 หญิง 1 ชื่อ สมศักดิ์ ทองประสงค์, เพ็ญรุ่ง ทองประสงค์ และสันติ ทองประสงค์.....

ครูไพบูลย์ บุตรขัน เคยเขียนไว้อาลัยการจากไปของศรคีรีว่า "แด่สุดรัก เธอเกิดมาเป็นผู้กล่อมโลก ฉันเป็นผู้ถ่ายทอดอารมณ์ บัดนี้เธอจากโลกไปแล้วเหลือเพียงเสียงเพลง ศรคีรี ศรีประจวบ ฉันเสียดาย เสียดายจริงๆ เพราะเธอควรจะอยู่กล่อมโลกให้นานกว่านี้".....

Credit : https://th.wikipedia.org/…/%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B…

*** ข่าวพลังภูผา..***
ปาฏิหาริย์ไม่มีจริง ! สามเณรน้อยวัย 9 ขวบ เหยื่อหลวงตาโหด มรณภาพแล้ว หลังรักษาตัวที่ห้องไอซียูนาน 5 วัน ครอบครัวเผยเตรียมดำเนินคดีกับอดีตพระลูกวัดให้ถึงที่สุด....

วันที่ 24 ส.ค. 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีสามเณรวัฒนพล สีสวัสดิ์ หรือ เณรดิว อายุ 9 ขวบ บวชภาคฤดูร้อน เมื่อวันที่ 2 เม.ย. ที่ผ่านมา และจำพรรษาอยู่ที่วัดดอนขมิ้น ต.ลูกแก อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ถูกหลวงตาศุภชัย หรือ นายศุภชัย บุญลักขะ อายุ 64 ปี อดีตพระลูกวัดดอนขมิ้น ทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส จากนั้นมารักษาตัวอยู่ที่ห้องไอซียู โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา อ.เมืองกาญจนบุรี โดยมีนางสุกัญญา ตุ้นฮิ้น ผู้เป็นแม่คอยดูแลอย่างใกล้ชิด.....

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อวันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา ส่วนนายศุภชัย ผู้ก่อเหตุถูกดำเนินคดี เบื้องต้นตำรวจตั้งข้อหาฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส และนำตัวเข้าฝากขังที่ศาลจังหวัดกาญจนบุรีแล้ว.....