*** ข่าวพลังภูผา..***
"ต่อไปนี้คงจะไม่ได้เจอกันอีก"
คำพูดสุดท้ายของเธอ ก่อนจะโดดสะพานปิ่นเกล้า!!
www.arjanpong.com
เมื่อเวลา 02.30 น. วันที่ 15 ต.ค.2561 พ.ต.ท.ณรงค์ มั่นคง สวป. สน.บางยี่ขัน ขณะกำลังปฎิบัติหน้าที่ออกตรวจความเรียบร้อย ได้รับแจ้งเหตุ ผู้หญิงกระโดดลงแม่น้ำเจ้าพระยา จากบนสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ถนนสมเด็จพระปิ่นเกล้า แขวงบางกอกน้อย เขตบางกอกน้อย กทม. จึงประสานกู้ชีพวชิรพยาบาล และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู รุดตรวจสอบ....

ที่เกิดเหตุรถกู้ชีพวชิรพยาบาล และอาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู กำลังเร่งนำเรือออกค้นหา แต่ไม่พบและไม่สามารถให้ชุดประดาน้ำทำการค้นหาได้เนื่องจากก่อนหน้านี้มีฝนตกหนัก มีกระแสน้ำไหลแรง และมีเรือขนาดใหญ่แล่นในแม่น้ำเจ้าพระยาจึงต้องยกเลิกการค้นหา....

พ.ต.ท.ณรงค์ เปิดเผยว่า ผู้หญิงรายนี้ได้นั่งแท็กซี่มาจากศูนย์การค้า เดอะเซ้นส์ ปิ่นเกล้า ถนนบรมราชชนนี เขตบางกอกน้อย กทม. เมื่อมาถึงช่วงบนกลางสะพาน ก็ลงจากรถพร้อมจ่ายเงินค่าโดยสาร แล้วมุ่งตรงไปยังที่ขอบสะพานและตัดสินใจกระโดดทันที สำหรับหญิงคนดังกล่าวอายุประมาณ 20-30 ปี สูงประมาณ 160 ซม. รูปร่างผอม ผิวขาว ผมยาว สวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงขาสั้น....

พ.ต.ท.ณรงค์ กล่าวต่ออีกว่า หลังจากที่หญิงรายนี้ได้ตัดสินใจกระโดดสะพานแล้วพบว่ามีชาย - หญิง เข้ามาสอบถามเจ้าหน้าที่เนื่องจากคาดว่าหญิงที่ก่อเหตุเป็นเพื่อนของตนเอง ซึ่งก่อนหน้านี้ได้นั่งดื่มกินด้วยกัน บริเวณ ห้างเดอะเซ้นส์ โดยเพื่อนสาวของตนมีอาการนั่งร้องไห้รำพึงรำพันประมาณว่า “ต่อจากนี้ คงไม่ได้เจอกันอีก” แต่ไม่ทราบว่าเจ้าตัวมีปัญหาเรื่องอะไร จากนั้นได้ลุกออกจากโต๊ะหายไปและไม่ได้นำโทรศัพท์ติดตัวไปด้วย จึงผิดสังเกตและรีบติดตามหาตัว ก่อนจะพบว่ามีเหตุดังกล่าว....

เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ยังคงค้นหาร่างของหญิงสาวรายนี้ที่คิดสั้นกระโดดสะพานต่อไป หากพบร่างจะรีบประสานให้เพื่อนมาตรวจสอบอีกครั้ง ก่อนที่จะแจ้งให้ทางญาติทราบต่อไป....

Credit : http://www.komchadluek.net/news/crime/348031

...............................

รายการ : ข่าวพลังภูผา
Radio online : www.arjanpong.com
FM 89.75 MHz. พระนครศรีอยุธยา 
Time : 06.00-08.00 น./17.00-19.00 น ทุกวัน 
โทร/line : 0898129392
Email : arjanpong123

กอดพระโอรสไว้เเน่น!! พระสุพรรณกัลยา เหมือนล่วงรู้ชะตากรรมที่จะมาถึง!!

www.arjanpong.com

การสิ้นพระชนม์ของ #พระสุพรรณกัลยา นั้นอาจเกิดจากการทำ สงความยุทธหัตถี ของ สมเด็จพระนเรศวร กับ พระมหาอุปราช ที่ฝ่ายสมเด็จพระนเรศวรเป็นผู้ชนะ ซึ่งมีหลักฐานหลายหลักฐาน ทั้งจาก #พงศาวดาร ไทยหรือแม้แต่หลักฐานของ พม่า ซึ่งหลักฐานแรก คือ...

*** ข่าวพลังภูผา..***
ใครหักหลังกรุงศรี?!!..
www.arjanpong.com
ในแผ่นดินของ #พระเทียรราชา พระองค์ต้องทำศึกกับทาง #หงสาวดี อยู่หลายครั้ง หนึ่งในนั้นก็คือ #สงครามช้างเผือก เมื่อพระองค์ได้ครอบครองช้างเผือกถึง ๗ เชือก.....

ซึ่งพงศาวดาร #กรุงศรีอยุธยา ฉบับวัน วลิต ได้เล่าเอาไว้ว่า มีท่านผู้หนึ่งเป็นคนนำความนี้ไปบอกกับพระเจ้าแผ่นดินแห่ง #พะโค หรือหงสาวดี โดยอ้างว่า ช้างบางเชือกจับได้ที่ชายแดนเมืองพะโค พระเจ้าแผ่นดินแห่งพะโค จึงทรงสิทธิ์ที่จะเรียกช้างเผือกคืน หากพระเทียรราชาแห่งกรุงศรีอยุธยาปฏิเสธ ก็ย่อมเป็นเหตุในการประกาศสงคราม.....

แล้วพระเทียรราชาก็ทรงปฏิเสธที่จะทำตามคำเรียกร้องของ #พระเจ้าแผ่นดิน แห่งพะโคตามคาด พระเจ้าแผ่นดินแห่งพะโคจึงตัดสินใจทำสงครามกับอยุธยา ซึ่งต่อมาก็กลายมาเป็นการเสียกรุงศรีอยุธยา ครั้งที่ 1 ไปจนได้!!.....

Credit : https://www.silpa-mag.com/club/miscellaneous/article_10497
...........................
รายการ : ข่าวพลังภูผา
Radio online : www.arjanpong.com
FM 89.75 MHz. พระนครศรีอยุธยา 
Time : 06.00-08.00 น./17.00-19.00 น ทุกวัน 
โทร/line : 0898129392
Email : arjanpong123

*** ข่าวพลังภูผา..***
หลวงปู่เเหวนผจญผีกองกอย!!
www.arjanpong.com

ก็เป็นที่ฮิอฮากันไม่ใช่น้อย หลังผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า Chantha Sitouluk โพสต์วิดีโอ เป็นเหตุการณ์ตอนกลางคืน โดยกล้องได้จับภาพบริเวณข้างทางเป็นป่ารกทึบ แต่สิ่งที่ทุกคนสนใจคือมีบางอย่างกระโดดอยู่ข้างทาง ซึ่งผู้โพสต์ระบุว่า “เจอผีกองกอยทางบ้านนาน้อย”......                 

  จากข้อมูลของวิกิพีเดียระบุว่า กองกอย เป็นผีป่าชนิดหนึ่ง มีลักษณะรูปร่างไม่เป็นที่ปรากฎชัด แต่โดยมากจะอธิบายว่าเป็นผีที่มีขาข้างเดียว เคลื่อนที่โดยการกระโดดไปด้วยขาเดียว และส่งเสียงร้องว่า "กองกอย ๆ" อันเป็นที่มาของชื่อ แต่บ้างก็ว่ามีปากเป็นท่อเหมือนแมลงวัน หรือเชื่อว่ามีหน้าตาคล้ายลิงหรือค่าง บ้างเรียก ผีโป่ง หรือ ผีโป่งค่าง....

สันนิษฐานว่า ความเชื่อเรื่องผีโป่งหรือผีกองกอยคือ ค่างแก่หน้าตาน่าเกลียดที่ไม่สามารถขึ้นต้นไม้ได้ มีความเชื่อของคนบางกลุ่มว่า ถ้าได้ดื่มเลือดค่างจะทำให้ร่างกายคงกระพันเป็นอมตะ หรือแม้แต่สัตว์ป่าชนิดอื่นที่มีลักษณะผิดแผกไปจากปกติ ก็ถูกเชื่อว่าเป็นผีกองกอย....

โดยคำว่า "กอย" ตามนิยามของพจนานุกรมฉบับ ราชบัณฑิตยสถาน ได้ให้ความหมายว่า "คนป่าพวกหนึ่ง ตัวดํา ผมหยิก อยู่ในแหลมมลายู เงาะ ก็เรียก"....

เชื่อว่า ผีกองกอยจะดูดเลือดจากหัวแม่เท้าของคนค้างแรมในป่า วิธีการป้องกันคือ ให้นอนไขว้ขาหรือชิดเท้ากันทั้งสองข้างและอย่านอนเอาขาหรือเท้าออกนอกเต็นท์นอน....

หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ อดีตเจ้าอาวาสวัดดอยแม่ปั๋ง จังหวัดเชียงใหม่ เคยเล่าว่า เมื่อครั้งท่านไปธุดงค์ในป่าดิบทึบในแขวงคำม่วน ประเทศลาว พร้อมกับหลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม ท่านทั้งสองได้เคยผจญกับฝูงผีกองกอยด้วยในเวลากลางคืน....

โดยผีกองกอยนี้มีรูปร่างเหมือนเด็กอายุประมาณ 13-14 ปี มีรูปร่างผอม แต่พุงป่อง ผิวคล้ำ ผมเผ้ารุงรัง จมูกบี้แบน มีอาวุธถือมาในมือคล้ายหน้าไม้หรือธนูอันเล็ก ๆ ส่งเสียงร้อง "ก๋อย ก๋อย ก๋อย" พยายามจะเข้ามาทำร้ายท่านทั้งสอง....

แต่ทว่าท่านได้นั่งสมาธิ และด้วยปาฏิหาริย์ พวกผีกองกอยไม่อาจทำอะไรท่านได้ และจนถึงรุ่งเช้า ผีกองกอยก็ยอมแพ้ และขอขมาท่าน และได้นิมนต์ท่านทั้งสองไปยังที่อาศัยของพวกตน....

ท่านจึงพบว่าแท้จริงแล้ว ผีกองกอยฝูงนี้คือ คนป่าเผ่า"ข่าระแด" มีพฤติกรรมล่าและฆ่ามนุษย์ที่ล่วงล้ำถิ่นที่อยู่อาศัยของพวกตน และเอาเนื้อมากินกัน.....

ไม่ใช่ผีสางนางไม้ที่ไหนเลย!!....

" หากเรารู้ว่าชีวิตของเพื่อนจะสั้นอย่างนี้ เราจะไม่ยอมให้ความเป็นเพื่อนของเรา ต้องขาดไปเกือบ 5 ปีหรอก...จริงๆนะเพื่อนรัก......."

          เมื่ออายุได้ 18 ปี ก็หัดแต่งเพลงลูกกรุงสำเร็จ คือเพลง "นานเกินรอ" นำมาบันทึกเสียงอยู่ในชุด "ถ้าวันนี้ยังมีเขาอยู่" โดย สวลี ผกาพันธ์ ในด้านเพลงลูกทุ่งเคยแต่งเพลงให้ รุ่งเพชร แหลมสิงห์ ร้อง 2-3 เพลง ได้แก่ เพลงคนหัวใจรั่ว เนื้อคู่สีชมพู และโลกนี้ไม่ใช่ของเรา (คนหนักโลก) ใช้นามปากกาว่า "ทวี ลูกเพชร" ในด้านเพลงไทยลูกกรุง เริ่มบันทึกเสียงเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนกันยายน 2516 หลังจากเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ และหลังจากการบวชที่วัดชลประทาน ปากเกร็ด เป็นที่เรียบร้อย

          การบันทึกเสียงในครั้งนี้ มีเพลงรักเธอไม่ถึงบาท, โจรปล้นใจ, สวัสดีความเศร้า และของขวัญวันเกิด โดยได้รับการสนับสนุนจาก ชาญชัย บัวบังศร, พีระ ตรีบุปผา, วิสุทธิ์ กิวานนท์, รุ่งเพชร แหลมสิงห์, นายมงคล เดชานุวงศ์ เจ้าของห้างแผ่นเสียงทองคำ และสวลี ผกาพันธ์ ซึ่งเป็นผู้ร้องเพลงในชุดนี้ทั้งหมด

          หลังจากบันทึกเสียงชุดนี้แล้ว ก็เดินทางไปสหรัฐอเมริกาอีกครั้ง จนจบการศึกษาวิชาธุรกิจโรงแรม ที่ลอสแองเจอลิส มลรัฐแคลิฟอร์เนีย ระยะเวลา 2 ปี จนกระทั่งกลับมาในปลายปี 2518 จึงเริ่มงานด้านแต่งเพลงอย่างจริงจังอีกครั้ง

*** ข่าวพลังภูผา..***
เงาะป่าผู้อาภัพ!!..
www.arjanpong.com
อนุสรณ์สำคัญที่ทำให้รำลึกถึงนายคะนัง มาจากพระราชนิพนธ์ของ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เรื่อง เงาะป่า ว่ากันว่า ทรงได้เค้าเรื่องราวรวมทั้งสำนวนศัพย์แสงพวกเงาะป่า มาจากนายคะนังคนนี้แหละ ข้อมูลเรื่องราวของนายคะนัง เท่าที่เล่าสืบๆกันมามีไม่มากนัก......

นาวาเอกสวัสดิ์ จันทนี ฟังเรื่องนายคะนังจากปากของหลวงวรภักดิ์ภูบาล (อาจ) ผู้รับใช้ใกล้ชิดในราชสำนักสมัย ร.๕ ระหว่างมารักษาตัวอยู่ด้วยกันในโรงพยาบาลทหารเรือ และบันทึกไว้ในหนังสือ “นิทานชาวไร่” เล่มที่ 9 มีเรื่องราวนับได้ว่ายาวกว่าที่ฟังมาจากที่อื่น......

คุณหลวงวรภักดิ์ภูบาลเล่าว่า นายคะนังมาอยู่วังหลวงตั้งแต่ยังเด็ก คะเนอายุได้ว่า น่าจะเกิดราว พ.ศ.๒๔๓๖ ผิวนายคะนังไม่ดำเป็นมันอย่างพวกนิโกร แต่ดำชนิดที่มีแดงเจือ

“ผมยาวตั้งศอก” คุณหลวงวรภักดิ์ว่า “แต่ทว่าเป็นสปริงจึงหดเหลือติดหนังหัว ผมเคยลองดึงยืดออกมา แล้วปล่อยให้กลับคืนตัว ก็หดได้ทันทีเหมือนหนังสติ๊ก”

คะนังแต่งตัวเหมือนมหาดเล็กทั่วๆไป แต่เมื่อเจอคนแต่งเครื่องแบบ ไม่ว่ามหาดเล็กด้วยกันหรือทหารรักษาวัง เห็นส่วนประกอบเครื่องแบบที่มีสีแดงจะชอบใจ เดินเข้ามาขอลูบคลำ ปากก็พร่ำว่า

“อยากแต่งเสียจริงๆ”

หลวงวรภักดิ์ภูบาล บอกว่ารัชการที่ ๕ ท่านเลี้ยงนายคะนังเหมือนบุตร ไม่ได้ยกให้เป็นเจ้า… แต่ความที่อยู่ใกล้พระเจ้าแผ่นดิน เมื่อทรงเรียกเชื้อพระวงศ์หรือขุนนางผู้ใหญ่ว่าอย่างไร นายคะนังก็เรียกตามอย่างว่าอย่างนั้น

“พระพุทธเจ้าหลวงท่านเรียกกรมหลวงสรรพศาสตร์ว่า ดุ๊ก นายคะนังก็เรียกว่าดุ๊กบ้าง เรียกหลวงวรภักดิ์ภูบาลว่า อาจ นายคะนังก็เรียกว่าอาจด้วย”

ความที่นายคะนังเผลอตัวเทียมเจ้า พอลับหลังพระพุทธเจ้าหลวง ก็เลยไม่มีใครชอบหน้า พวกมหาดเล็กก็ลอยแพ ไม่ยอมสอนให้รู้ว่าอะไรควรไม่ควร วันหนึ่งทำทะลึ่ง สมเด็จพระบรมฯ เงื้อพระหัตถ์ขึ้นจะตบหน้า......

“อย่าหน่า พ่อโตหน่า มันกำพร้า” พระพุทธเจ้าหลวงทรงห้าม

ขนาดสมเด็จพระบรมฯ ยังทำอะไรไม่ได้ นายคะนังที่ไม่เคยถูกยกให้เป็นเจ้า หลวงวรภักดิ์ภูบาลเล่าว่า “นายคะนังก็ทำท่าจะเป็นเจ้าเจี้ยวไปจริงๆ”

ต่อมามีเรื่องซุบซิบกันในฝ่ายในทำนองว่า นายคะนังไปทำเหตุมิบังควร กับเจ้านายหญิงพระองค์หนึ่ง นายคะนังก็ยิ่งเพิ่มความเป็นหมาหัวเน่า เล่ากันว่าเจ้านายฝ่ายใน เกลียดนายคะนังกันมาก แต่ทุกฝ่ายที่เกลียดก็ต้องเก็บไว้ในใจ ไม่มีใครกล้าทำอะไร รวมถึงสมเด็จพระบรมฯ ก็ไม่กล้าทำอะไรโครมครามออกมา เพราะเกรงบารมีพระพุทธเจ้าหลวง......

ครั้นถึงรัชกาลที่ ๖ หลวงวรภักดิ์ภูบาลเล่าว่า ดวงชะตาที่เคยรุ่งโรจน์ของนายคะนังก็เริ่มตก ไปไหนมาไหนก็ไม่มีใครแยแสด้วย แต่กระนั้นรัชกาลที่ ๖ ก็ยังโปรดเกล้าฯให้เป็นเสือป่า เคยทำหน้าที่เชิญธงนำเสด็จ.....

ถึงตอนนี้นายคะนังเริ่มเป็นหนุ่ม พวกมหาดเล็กสัปดนก็พาไปเที่ยวโรงยี่สุ่นเหลือง (ซ่องโสเภณี) ไปบ่อยเข้าก็ชักติดใจ เมื่อไม่มีใครพาไปก็ไปเอง วิธีไปของนายคะนัง คนดัง ก็ไม่ธรรมดา...

คืนหนึ่งนายคะนังไปเที่ยวตรอกเต๊าคนเดียว ลำพังตัวเองเป็นเงาะแปลกตาคนอื่นยังไม่พอ นายคะนังยังขี่ม้าหลวงไปด้ว ม้าหลวงสมัยนี้ คงเทียบด้วยรถยนต์ประจำตำแหน่งขุนนางผู้ใหญ่สมัยนี้ นายคะนังเอาม้าไปผูกไว้หน้าโรงโคมเขียวอย่างเปิดเผยโอ่อ่า.....

เล่ากันว่าชาวบ้านรู้ข่าวก็ชักชวนกันมามุงดู ดูทั้งม้าหลวง ดูทั้งเงาะป่าตัวดำ และดูการเข้ายี่สุ่นเหลือง แล้วก็วิพากษ์วิจารณ์กันเกรียวกราว ถ้าเป็นสมัยนี้ คงเป็นข่าวพาดหัวตัวใหญ่ขึ้นหน้าหนึ่ง.....

เห็นจะเป็นเพราะการขี่ม้าไปเข้าๆออกๆ โรงยี่สุ่นเหลืองนี่แหละ ตอนสุดท้ายนายคะนังก็ตายด้วยโรคผู้หญิง มีคนจำได้ว่า ตายตอนอายุไม่ถึง 20 ปีเท่านั้น.....

คุณหลวงวรภักดิ์ภูบาล ในฐานะผู้ใกล้ชิดเหตุการณ์สันทัดกรณีเงาะป่ามากกว่าใครคะเนว่า ตอนคะนังตายอายุน่าจะซัก 17 ปี นาวาเอกสวัสดิ์ จันทนี เขียนคำไว้อาลัยทิ้งท้ายกาบมะพร้าวที่เขาประดิษฐ์ประดอยส่งเสริมให้เป็นราชประวัติ เมื่อเขาเลิกใช้ราชประวัตินั้น เขาก็ย่อมเก็บไว้ใต้ถุนบ้าน เปรียบได้ดั่งกับชีวิตนายคะนัง ที่ต้องตายอย่างผีไม่มีญาติ ใครเขาขี้เกียจเหม็น เขาก็ส่งเจ๊กป๋องแป๋งไปไว้ที่วัดดอน......

“สำหรับนายคะนังจะมีใครเผาแกหรือเปล่า ก็ไม่มีใครเอาใจใส่ อาจจะต้องเผารวมกันพร้อมๆกับศพไม่มีญาติละกระมัง”

Credit : หนังสือนิทานชาวไร่ นาวาเอกสวัสดิ์ จันทนีย์
...............................

รายการ : ข่าวพลังภูผา
Radio online : www.arjanpong.com
FM 89.75 MHz. พระนครศรีอยุธยา 
Time : 06.00-08.00 น./17.00-19.00 น ทุกวัน 
โทร/line : 0898129392
Email : arjanpong123

*** ข่าวพลังภูผา..***
ขอบใจที่ดูถูก..
www.arjanpong.com

" เมื่อกี้เขาขอสายใครล่ะเธอ?...."
" อ๋ออออ เขาจะคุยกับคนใช้ "

เสียงตอบเเบบขอไปที่ของคุณผู้ชายเจ้าของบ้าน ที่ตอบเเบบตัดความรำคาญ เมื่อถูกภรรยาถาม กับการที่ต้องลุกขึ้นมารับโทรศัพท์จากภายนอกที่ไม่ใช่ของตัวเอง ด้วยอารมณ์ที่ไม่ค่อยจะดีเท่าใดนัก ก่อนที่จะวางสายเเล้วบอกปลายสายให้โทรมาใหม่ในวันหลัง.....

เด็กหญิง เนตรชนก ปั้นปรือ เเม่หนูน้อยวัย 13 ปี จากอำเภอ #ปางศิลาทองจังหวัด #กำเเพงเพชร นั่งก้มหน้าล้างจานคนเดียวเงียบๆอยู่หลังบ้าน เเม่หนูน้อยได้ยินเสียง #โทรศัพท์ บ้านเมื่อสักครู่เเล้ว เเต่ไม่นึกว่าจะได้ยินคำพูดที่กรีดหัวใจอย่างนั้น....

" ใช่สิ...ไอ้เรามันก็เเค่คนใช้...." คิดอยู่ในใจเท่านั้น ไม่รู้ว่าน้ำตามันทะลักไหลออกมาอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัวตั้งเเต่เมื่อไหร่ เเม่หนูน้อยไม่เคยคิดที่จะมาอยู่เมืองหลวงเลยสักนิด ถ้าหากว่าป้าไม่ไปคะยั้นคะยอให้ช่วยรักษาหน้าของป้าไว้หน่อย กับการที่ป้าเเท้ๆ ทำงานเป็นเเม่บ้านอยู่ใน #กรุงเทพ เเต่ไปตกปากรับคำกับบ้านหลังนี้เอาไว้เเล้วว่า จะหาคนมาทำหน้าที่เป็นเเม่บ้านให้ โดยได้นัดหมายไว้กับอีกคนหนึ่งที่อยู่ทาง #อิสาน เเต่พอถึงเวลาจริงๆ เธอกลับเบี้ยวไป #เเต่งงาน เสียก่อน ก็เลยไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร ก็เลยมาขอทางพ่อทางเเม่ของหนูเนตร ว่าจะพามาทำงานที่กรุงเทพ โดยจะดูเเลให้เป็นอย่างดี ทั้งๆที่เเม่หนูน้อยก็ปฎิเสธมาโดยตลอด จะเป็นจะตายอย่างไรก็จะขออยู่ที่บ้าน เเต่ทว่าก็เห็นเเก่พ่อเเม่ ก็เลยต้องจำใจมา

" ฉันไม่ได้อยากมาอยู่ที่นี่เลยนะ!!.....พรุ่งนี้ฉันไม่อยู่เเล้ว...ฉันจะไปจากที่นี่......."

นั่นคือเสี้ยวหนึ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเด็กผู้หญิงจากเมืองกำเเพงคนนี้ เธอหอบถุงใส่เสื้อผ้าเก่าๆใบหนึ่ง ออกจากบ้านไปตายดาบหน้า เเม่หนูน้อยโชคดีได้ทำงานที่ #โรงงานเย็บผ้า เเห่งหนึ่งเเถว #พระราม4 ทำงาน 8 โมงเช้า ถึง ตีสอง ได้วันละ 100 บาท ที่พักหาเอาเอง เเต่ก็กัดฟันทนทำมาโดยตลอด งานจะหนักหนาสักขนาดไหนก็ไม่หวั่น เเต่ขอให้อยู่อย่างมีศักดิ์ศรี...

คืนนั้นเลิกงานดึก ก็มายืนรอรถเมล์อยู่ตรงหน้า #สวนลุม สักพักก็มีรถกระบะเก่าๆมาจอดอยู่ตรงหน้า เเล้วถามว่า "เท่าไหร่?" ตั้งเเต่นั้นมาเธอก็มาขออนุญาตหัวหน้างาน ขอนอนอยู่ที่โรงเย็บผ้าเลย นอนอยู่ตรงจักรนั่นเเหละ หักวันละ 20 บาท เธอก็ยอม

จวบจนกระทั่งเธอได้มารู้จักกับตลกชื่อดัง พล พันลาว ชีวิตของเธอก็เริ่มดีขึ้น ได้ไปฝึกร้องเพลงเเละเป็นนักร้องตามที่เธอใฝ่ฝัน ซึ่งเขาได้พาเธอไปพบกับ อ.สมปอง เปรมปรีดิ์ ที่ #เเกรมมี่ ท่านอาจารย์ก็เเต่งเพลงให้ร้องเพลงหนึ่งชื่อเพลง #คุณลำใย.....

วันนี้เธอกลับมาอีกเเล้ว เนตรชนก ปั้นปรือ หรือ #ลูกนกสุภาพร เธอกลับมาที่ซอยเดิม...ที่ๆเธอต้องหอบถุงเสื้อผ้าเก่าๆออกมาอย่างทุลักทุเล ที่ๆเธอมอมเเมมไปด้วยหยาดน้ำตาในวันนั้น เเต่วันนี้..เธอกลับมาด้วยรถเก๋งราคาเป็นล้าน ก่อนที่เธอจะหยุดอยู่ที่หน้าบ้านหลังนั้น พร้อมทั้งกระจกไฟฟ้าค่อยๆเลื่อนลงมา พร้อมกับรอยยิ้มที่มุมปากจากสาวน้อยเมืองกำเเพง

" ขอบใจนะ...ถ้าไม่มีวันนั้น ฉันก็จะไม่มีวันนี้........."

เสียงเครื่องยนต์เบาๆของรถหรู ค่อยๆเคลื่อนตัวออกไปอย่างช้าๆ ทิ้งไว้เเต่เพียงความสะใจของลูกผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ขยะเเขยงชนชั้นที่เรียกตัวเองว่าปัญญาชนคนชั้นสูง อย่างที่สุด......

..................

รายการ : #ข่าวพลังภูผา
Radio online : www.arjanpong.com
FM 89.75 MHz. #พระนครศรีอยุธยา 
Time : 06.00-08.00 น./17.00-19.00 น ทุกวัน 
โทร/line : 0898129392
Email : arjanpong123

*** ข่าวพลังภูผา..***
เสือกรุงเก่าประกาศศักดา!! ปิดท่าเรือปล้นทั้งตลาด!!..
www.arjanpong.com
ปี พ.ศ.2508 ที่ตลาดอำเภอท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา เกิดเหตุการณ์ปล้นครั้งยิ่งใหญ่ โดยการรวมตัวกันของโจรถึง 17 คน โจรกลุ่มนี้บุกเข้าปิดล้อมตลาดและสถานีตำรวจ กวาดเงินทองและทรัพย์สินไปมากมาย รวมทั้งยิงถล่มสถานีตำรวจอำเภอท่าเรืออย่างไม่เกรงอาญาแผ่นดิน ก่อนจะพากันหลบหนีการจับกุมไปอย่างไร้ร่องรอย......

การปล้นครั้งนี้เริ่มต้นขึ้นที่ “ เสือขาว ” โจรชื่อดังของอยุธยาเป็นคนออกความคิด ตามปกติเสือขาวเป็นโจรที่มีคุณธรรมอยู่ในใจปล้นเพียงหวังเงิน แต่ไม่ฆ่าใคร “ ไพลิน ” เมียของเสือขาวเพิ่งคลอดลูกคนแรก ขาวเห็นแก่ลูกและเมียจึงตั้งใจจะทำงานใหญ่ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายแล้วหอบเงินไปตั้งต้นชีวิตใหม่ แต่ไม่เป็นไปอย่างที่เขาคิด.....

เสือขาวเดินทางไปหาเสือใบเพื่อเก่าที่เคยติดคุกด้วยกันเพื่อชวนเสือใบร่วมปล้นตลาดท่าเรือ แต่เสือใบเป็นลูกน้องคนสนิทของเสือละมายโจรเถื่อนที่เชื่อถือในไสยศาสตร์ของขลังเชื่อว่าคนเองมีวิชาอาคมแก่กล้า ละมายไม่ถูกชะตากับขาวตั้งแต่แรกเห็น แต่เมื่อขาวพูดถึงเรื่องปล้นตลาดท่าเรือ ละมายก็เริ่มสนใจขึ้นมาและรับปากยอมร่วมมือกับขาวแล้วให้คนไปตามเสือศักดิ์มาช่วยอีกแรง ในที่สุดเสือทั้ง 3 ก๊ก รวม 17 คน ก็มารวมตัวกันเพื่อทำงานใหญ่......

แผนการปล้นก็เริ่มขึ้น เสือละมายเป็นผู้วางแผนในการปล้นทั้งหมด เสือขาวเป็นคนนำปล้น แบ่งพวกไปปล้นร้านทอง และอีกกลุ่มหนึ่งไปยิงสกัดด้านโรงพักไม่ให้ตำรวจออกมาวุ่นวาย หลังจากปล้นแล้ว เสือละมายออกความคิดให้ทุกคนแยกย้ายกันหนีตำรวจไปก่อนแล้วกลับมาแบ่งเงินกันทีหลัง....

พวกของเสือขาวไม่ไว้ใจละมายแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ละมายนัดวันแบ่งเงินกันเป็นที่เรียบร้อย โจรทั้งสามก๊กก็แยกย้ายกันไป การยิงถล่มสถานีตำรวจที่เกิดขึ้น ถือเป็นการกระทำที่ตบหน้าตำรวจฉาดใหญ่ สารวัตรพิชิตถูกเรียกตัวมาจากกองปราบเพื่อรับผิดชอบในคดีนี้โดยเฉพาะ......

สารวัตรพิชิต มีลูกน้องคู่ใจอยู่ 2 คน คือ จ่าพล และจ่าแม้น ทุกคนเริ่มงานไล่ล่าโจรกลุ่มนี้กันอย่างเอาจริงเอาจัง จนกระทั่งจับสมุนของเสือศักดิ์ ได้ 2 คน คือเปรี้ยว และ หวาน เมื่อพิชิตนำกำลังบุกรังเสือละมายก็พบว่าพวกเสือละมายหนีไปกันหมดแล้วเหลือแต่ “ เดี่ยว ” เด็กรับใช้ของเสือละมายที่หนีไม่ทัน......

เดี่ยวถูกจับขณะที่กำลังหลบตัวสั่นงันงก เดี่ยวให้ความร่วมมือกับตำรวจ บอกเล่าความเป็นมาทั้งหมดของกลุ่มโจร นับตั้งแต่ตอนที่มารวมตัวกัน ทำให้สารวัตรพิชิตได้เบาะแสเพิ่มเติมว่า เสือละมายเตรียมที่จะหักหลังเสือขาวอยู่แล้ว จนถึงวันนัดแบ่งเงิน เสือขาวไม่รู้ตัวว่ากำลังโดนหักหลังอยู่ ยังคงมาตามนัด แต่ที่นั่นกลายเป็นกับดักเพราะพวกสารวัตรพิชิตได้มาซุ่มรออยู่ก่อนแล้ว......

เสือขาว และ จุ่นคนสนิทเอาตัวรอดออกมาได้ ส่วน “ แบน ” เพื่อรักของขาวถูกตำรวจยิงตายไปต่อหน้า สร้างความกดดันให้ขาวมากขึ้น เมื่อรู้ตัวว่าถูกเสือละมายกับเสือใบเพื่อเก่าหักหลังแล้วยังมีตำรวจที่ระดมกำลังตามล่าตัวเขาไปทั่วทุกหัวระแหง เสือขาวหอบลูก-เมีย หนีไปหลายที่อยู่อย่างไม่เป็นหลักแหล่งทำให้ยากต่อการติดตามตัว......

ด้านเสือละมายนัดแบ่งเงินกับเสือศักดิ์ด้วยความลิงโลดที่ส่วนแบ่งหายไปหลายคน เสือศักดิ์รู้กันกับเสือละมาย ร่วมกันหักหลังเสือขาว แต่แล้วเสือละมายก็พบว่าทองที่ปล้นมาหายไป ในลังใบเดิมที่ซ่อนทองไว้กลับเต็มไปด้วยก้อนหิน เมื่อไม่มีใครเห็นทองทั้งเสือศักดิ์และเสือละมายต่างก็เข้าใจผิดกัน เสือศักดิ์กับฟุ้งคนสนิทกูกยิงตายไป แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีใครรู้ว่าจริงๆเลยว่าเงินและทองที่ปล้นมานั้นอยู่ที่ไหนกับใครกันแน่?......

เสือใบมั่นใจว่าขาวต้องเล่นไม่ซื่อแน่ๆ แอบเอาเงินไปจึงออกตามล่าเสือขาวด้วยตนเอง แต่ใบก็เสียท่าให้ขาว ขาวไม่ยอมยิงใบเพราะเห็นแก่มิตรภาพเก่าๆ จึงปล่อยไป แต่ใบก็หนีไม่พ้น เขาและลูกน้องถูกพวกสารวัตรพิชิตจับได้......

หลังจากที่เสือใบถูกจับก็มีคำสั่งให้ประหารชีวิตโจรทั้ง 6 คน ที่ถูกจับมาได้ ส่วนเดี่ยวรอดจากการถูกประหารเพราะให้ความร่วมมือกับทางราชการ เมื่อเสือใบถูกจับเสือละมายจึงออกโรงตามล่าเสือขาวเอง เขาตามล่าเสือขาวไปถึงบ้าน และได้ฆ่าจุ่น ไพลินและลูกตายหมดทั้งบ้าน.....

เมื่อขาวกลับมาเห็นศพของลูก-เมีย แถบคลั่ง เขาละทิ้งทุกอย่างออกตามล่าเสือละมายจนถึงที่ซ่อนตัวใหม่ของละมาย การดวลกันครั้งสุดท้ายของละมายและขาวเริ่มขึ้น ขาวพลาดถูกละมายยิงตกน้ำ พวกสารวัตรพิชิตตามมาทีหลังต่างเข้าใจว่าเสือขาวตายแล้ว แต่ก็ใช่ว่าละมายจะลอยนวลไปได้ พวกของสารวัตรพิชิตยิงกับเสือละมายต่อ เสือละมายที่ว่ามีคาถาอาคมหนังเหนียวที่จริงไม่ได้เป็นอย่างที่ใครๆ คิด วิชาอาคมใดๆ ก็ไม่สามารถช่วยเสือสะมายได้ เขาถูกยิงตายในที่สุด ปิดตำนานการปล้นสะท้านเมืองไว้ให้ลูกหลานกล่าวขานสืบมา....

Credit : ห้องสมุดตำนานคดีดัง
.............................
รายการ : ข่าวพลังภูผา
Radio online : www.arjanpong.com
FM 89.75 MHz. พระนครศรีอยุธยา 
Time : 06.00-08.00 น./17.00-19.00 น ทุกวัน 
โทร/line : 0898129392
Email : arjanpong123

*** ข่าวพลังภูผา..***
เสียงจากพระวัดไทร"จะให้อาตมาตีระฆัง ดังกี่เดซิเบลล่ะโยม?!!.."
www.arjanpong.com

วันที่ 3 ต.ค. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Last Stand” ได้เผยแพร่ภาพพร้อมข้อความ ระบุว่า “เขตบางคอแหลม กรุงเทพมหานคร ได้ส่งหนังสือถึง เจ้าอาวาสวัดไทร ย่านพระราม 3 ระบุว่า ประชาชนแจ้งเรื่องร้องทุกข์ว่า ได้รับความเดือดร้อน กรณีที่วัดไทร ทำการตีระฆัง ส่งเสียงดังรบกวน ตั้งแต่เวลา 03.30 น. – 04.00 น. เป็นประจำทุกวัน สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้พักอาศัยบริเวณดังกล่าว สำนักงานเขตบางคอแหลม จึงขอความร่วมมือวัดไทร ลดเสียงให้เหมาะสม ป้องกันการสร้างความเดือดร้อนแก่ผู้พักอาศัย”......

โดยสมาชิกเฟซบุ๊กดังกล่าวได้ระบุข้อความเพิ่มเติมด้วยว่า “เรียนรู้​คําว่า​ประเพณี​และวัฒนธรรม​ สิ่งที่ทํากันมาเป็นร้อยๆ ปี​ การที่คนไปร้องเรียนแล้วจะมาให้วัดปรับปรุง​สิ่งที่เคยทํามามันคงจะบ้ากันไปแล้ว​ ถ้าวัดตีระฆัง​ดังท่านก็เอาเครื่องวัดมาวัดระดับ​เสียง​ได้เลย​ จากหอระฆัง​ถึงคอนโดน่าจะประมาณ​ 800​ เมตร​ จะทําอะไรก็คิดก็ถามหรือมานั่งดูก็ได้ถ้ากลัวผี​ เดียวจะไปนั่งเป็นเพื่อน​ เรียนกันมาเสียดาย​เงิน​ ปล.วัดสร้างมา 300 กว่าปี​ คอนโด​…สร้างมาไม่ถึง ​10 ปี​ ปวดหัวกับพวกเอ็งจริงๆ​”

โดยผู้ที่ร้องเรียนวัดตีระฆังรบกวน ก็คือผู้อยู่อาศัยของคอนโดฯ ที่อยู่ติดกับวัดนั่นเอง.......

ล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. ที่ผ่านมา ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Last Stand” ได้ลบโพสต์ดังกล่าวออกไปแล้ว โดยขึ้นโพสต์ใหม่ ใช้พื้นหลังสีดำ และระบุข้อความว่า “ขออนุญาตลบโพสต์เรื่องตีระฆังก่อนนะครับ เนื่องจากอยู่ในระหว่างการดำเนินการ” ต่อมาเวลาประมาณ 19.00 น. เฟซบุ๊ก “Last Stand” ได้หายไปจากระบบการค้นหาในเฟซบุ๊กแล้ว......

ทั้งนี้ “ผู้สื่อข่าวเวิร์คพอยท์” ได้สอบถามไปยัง “ศูนย์รวมเหตุภูมินทร์” ซึ่งเป็นเจ้าของภาพถ่ายจดหมายเตือนจากสำนักงานเขตบางคอแหลม โดยทางศูนย์ฯ ได้ให้ข้อมูลว่า เอกสารฉบับนี้ ถูกปิดประกาศไว้ที่หน้าวัด และมีผู้ร้องเรียนจริง ซึ่งทางผู้พักอาศัยของทางคอนโดฯ กับวัดไทร มีกรณีพิพาทกันมาก่อนหน้านี้แล้วเป็นระยะๆ เช่น เรื่องเปิดเครื่องเสียงงานบุญ, เสียงแตรวงกองยาวแห่นาค เป็นต้น ซึ่งก่อนหน้านั้นจะเป็นตำรวจเป็นผู้มาดำเนินการ และอีกเรื่องที่เป็นปัญหาคือ มีการร้องเรียนเรื่องควันจากการฌาปนกิจ ไปรบกวน ส่วนรายละเอียดอื่นๆ คงต้องให้ทางวัดเป็นผู้ชี้แจง.......

นอกจากนี้ ยังมีรายงานด้วยว่า ทางสำนักงานเขตบางคอแหลมจะพิจารณาให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาลลงพื้นที่ เพื่อตรวจวัดระดับเสียงในพื้นที่ที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อน หากยังมีประชาชนร้องเรียนเข้ามาอีก หลังจากทำจดหมายแจ้งเตือนไปยังเจ้าอาวาสแล้ว ว่าให้ลดระดับเสียงในการตีระฆังให้เหมาะสม........

Credit : https://www.facebook.com/WorkpointNews/videos/2168624123361476/
...................................
รายการ : ข่าวพลังภูผา
Radio online : www.arjanpong.com
FM 89.75 MHz. พระนครศรีอยุธยา 
Time : 06.00-08.00 น./17.00-19.00 น ทุกวัน 
โทร/line : 0898129392
Email : arjanpong123

*** ข่าวพลังภูผา..***
ลองของลูกปืนเเช่น้ำมนต์ ปัง!! วิศวกรชะตาขาด!!
www.arjanpong.com
ช่วง 3 ทุ่ม ที่ผ่านมา ( 30 ก.ย.) ตำรวจภูธรเมืองปทุมธานี พร้อมเจ้าหน้าที่ อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เข้าตรวจสอบเหตุ คนยิงกันเสียชีวิต ภายในบ้านหลังหนึ่ง ของหมู่บ้านปาริชาติ ตำบลบางคูวัด อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี.....

ที่เกิดเหตุ เป็นบ้านทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น หน้าบ้าน มีรถเก๋งจอดอยู่ 2 คัน ในบ้าน บริเวณหน้าห้องน้ำ พบศพ นายบัญชา คุณวุฒิโอภาส อายุ 43 ปี อาชีพ วิศวกรไฟฟ้า นั่งจมกองเลือดเสียชีวิต มีบาดแผลถูกยิง เข้าที่ขมับซ้าย กระสุนฝังใน 1 นัด.....

หน้าบ้าน มี นายธงรบ โตจินดา อายุ 51 ปี นักวิจัยที่สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (ผู้ก่อเหตุ) อยู่ในสภาพควบคุมสติไม่อยู่ ข้างกัน มีอาวุธปืนขนาด .38 วางอยู่ 1 กระบอก.....

ตำรวจ จึงยึดไว้ตรวจสอบ พบว่า ภายในลูกโม่ มีกระสุนปืนอยู่อีก 4 นัด ข้างกัน มีขวดเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์วางอยู่จำนวนหนึ่ง.....

สอบสวน นายธงรบ อ้างว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองและเพื่อน ได้นั่งดื่มกินกัน ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ก่อนชักชวนกันมาดื่มต่อที่บ้านตนเอง โดยแวะซื้อเบียร์เข้ามา 6 ขวด เมื่อดื่มไปได้ครู่หนึ่ง ตนเอง นำอาวุธปืนออกมาเล่น จากนั้น ได้ท้าทาย ผู้ตายว่า ลูกกระสุนปืนทั้งหมด ได้นำไปแช่น้ำมนต์แล้ว จะยิงไม่ออก ผู้ตาย จึงนำกระสุนบรรจุเข้าโม่ลังเพลิง แล้วลั่นไกทันที กระสุนเจาะเข้าขมับซ้ายของตัวเอง ล้มลงต่อหน้าต่อตา.....

ตนเองจึงลากเพื่อนจากห้องโถงที่นั่งดื่มสุรา ไปบริเวณห้องน้ำ เพื่อปฐมพยาบาล ปั้มหัวใจ แต่เพื่อนกับนิ่ง จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ชีพเข้าช่วยเหลือ แต่เพื่อนก็เสียชีวิตแล้ว......

ขณะที่ พันตำรวจเอก พีรพล โชติกเสถียร ผู้กำกับการ สภ.เมืองปทุมธานี บอกว่า จากการสอบถาม เพื่อนบ้านใกล้เคียง บอกว่า นายธงรบ อาศัยที่บ้านนี้คนเดียวเพียงลำพังมา 5 ปี หลังภรรยาเส้นเลือดในสมองแตก และล้มในห้องน้ำ ต้องกลับไปรักษาตัวอยู่กับญาติที่จังหวัดปราจีนบุรี จากนั้นเจ้าตัว ก็มีอาการผิดปกติ เหมือนคนควบคุมสติไม่อยู่ บางคืน ออกมานั่งเป่าขลุ่ยหน้าบ้านกลางดึก ช่วงตี 3-4 บางวันก็ออกมารำดาบเป็นประจำ ปกติก็ไม่เคยพาใครมาบ้าน จนกระทั่งครั้งนี้ พาเพื่อนมานั่งดื่มเบียร์ และเกิดเหตุดังกล่าว......

เบื้องต้น ให้เจ้าหน้าที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์กระทรวงยุติธรรม เก็บพยานหลักฐานในจุดเกิดเหตุอย่างละเอียด เพื่อใช้ประกอบคดี และ สอบสวนให้แน่ชัดว่า ใครเป็นคนยิงกันแน่....

ส่วนศพ นำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง ส่วน นายธงรบ ได้คุมตัวไปสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง.....

Credit : http://www.thaich8.com/news_detail/73002

.........................

รายการ : ข่าวพลังภูผา
Radio online : www.arjanpong.com
FM 89.75 MHz. พระนครศรีอยุธยา 
Time : 06.00-08.00 น./17.00-19.00 น ทุกวัน 
โทร/line : 0898129392
Email : arjanpong123

*** บันเทิงเบื้องหลัง พลังภูผา..***
เสียงกระซิบจากหัวใจ...
www.arjanpong.com
"แม่ครับน้าหน่อยโทรมา.."
เสียงของทิกเกอร์ ลูกชายหัวเเก้วหัวเเหวนคนเดียวของเธอ เอ่ยขี้นเบาๆ ก่อนที่จะยื่นโทรศัพท์มือถือให้กับผู้เป็นเเม่ ที่นอนอยู่บนเตียงคนไข้ของโรงพยาบาลสมิติเวช หลังจากที่เธอเกิดอาการปวดท้องอย่างรุนเเรง อันเนื่องมาจากโรค IBS หรือเรียกว่า ลำไส้อักเสบ เจ้าโรคนี้จะมีอาการเจ็บปวดท้องเป็นปี รักษาไม่หาย รักษาหายยาก ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าอาหารและความเครียด จะเป็นตัวกระตุ้นให้เจ้าโรครัายนี้ ออกฤทธิออกเดชได้อย่างรุนเเรงเพียงใด!!...

เธอเป็นโรคนี้เมื่อย่างเข้าสู่วัยสาว ชีวิตของเธอนั้น มีคุณพ่อเป็นชาวอเมริกัน ส่วนคุณเเม่เป็นคนไทย เธอเกิดเเละเติบโตที่รัฐเเคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา จนกระทั่งจบเกรด 6 ก็กลับมาเมืองไทย มาเรียนต่อที่โรงเรียนนานาชาติร่วมฤดี จนจบมัธยมปลาย เเล้วศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา ที่มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เธอยอมรับกับตัวเองเลยว่าช่วงเวลาชีวิตช่วงนี้ เป็นช่วงระยะเวลาที่ดีที่สุดในชีวิต เพราะไม่ต้องไปวิตกก้งวลเรื่องราวอะไรต่างๆให้มันมากนัก ความสุขในครอบครัวในเวลานั้น เป็นสวรรค์ที่เธอจดจำเอามาไว้โดยตลอด.....

จนกระทั่งเมื่อเธออายุ 14 ได้มีโอกาสถ่ายเเบบเเฟชั่นเสื้อผ้าวัยรุ่น ลงนิตยสารเธอกับฉัน วัยหวานวัยน่ารัก เเพรสุดสัปดาห์ ก็ทำให้ชีวิตของเธอเปลี่ยนไปอย่างหน้ามือเป็นหลังมือ เมื่อเธอมีชื่อเสียงโด่งดัง ทุกคนรู้จักเธอในนามของ นิโคล เทริโอ งานก็ไหลมาเทมาจนล้นมือ ด้วยความที่ยังเป็นเด็ก การบริหารจัดการในเรื่องเรืยน เรื่องงาน จึงมีผลกระทบอย่างมาก จนกระทั่งเป็นโรค IBS โดยไม่รู้ตัว.....

เเล้วเจ้าโรคร้ายนี้เวลามันมีอาการ ก็มักจะปวดท้องอย่างรุนเเรงเเละต่อเนื่อง จึงไม่ต้องเเปลกใจเลยว่า อารมณ์ของเเม่สาวน้อยคนนี้ ก็ต้องคุ้มดีคุ้มร้ายไปด้วย!! หากคนใกล้ชิดไม่เข้าใจ ก็อาจจะทำให้มิตรภาพดีๆที่มีต่อกัน มันอาจจะสะดุดหยุดลงก็เป็นได้ โดยเฉพาะในเรื่องของหัวใจ เธอได้มอบความรักทั้งหมดให้กับพี่เเมว ชายหนุ่มที่มีความพร้อมที่สุดในการจะเป็นผู้นำครอบครัว ที่เธอหวังจะฝากชีวิตทั้งชีวิตไว้ให้ ถึงเเม้มันจะเป็นรักครั้งเเรก เเต่เธอก็ได้คู่ชีวิตที่ดีสุดเเล้วสำหรับลูกผู้หญิงคนหนึ่งที่ฝันใฝ่เเละปราถนาสำหรับชายในฝัน.....

หลังจากใช้ชีวิตร่วมกันกับชายหนุ่มที่เเสนดี จนมีพยานรักก็คือน้องทิกเกอร์ งานก็ยิ่งมากขี้น โดยเฉพาะฝ่ายชายเเทบจะเรียกว่าทัวร์คอนเสิร์ตตลอดทั้งปี ประกอบกับเจ้าโรคร้าย IBS มันก็เล่นงานเธอรุนเเรงขี้นเป็นเงาตามตัว จนกระทั่งเธอได้หลุดคำพูดสุดท้าย ที่เค้ามิอาจให้อภัยได้ออกไป!! จึงทำให้รักครั้งเเรกของเธอต้องหลุดลอยไป ด้วยอารมณ์ร้ายที่เเปรปรวนของเธอนี่เอง....

"มีไรหน่อย?..."
"เฮ้ย!! นิ๊กกี้ มึงอยู่ไหนวะเนี่ย??"
"โรงบาลลล โรคเก่านั่นเเหละ..."
"อ้าววว ไม่บอกเพื่อนบอกฝูงเลยนะมึง คุยได้มั๊ยเนี่ยยย.."
"เออๆ...."
เเม่สาวตอบเพื่อนไปด้วยอาการที่ยังไม่สร่างจากไข้เท่าใดนัก

"ไอ้ชุมันโทรมาบอกกูเมื่อกี้ว่า มันเห็นเเฟนพระเอกคนใหม่ของมึง ขับ BMW 420d Gran Coupe สีขาว รถของมึง เเต่คนนั่งเป็นอีนางงามคนนั้น ขับไปที่คอนโดลาดพร้าวเมื่อกี้เอง เเหม!! หัวร่อต่อกระซิกกันเป็นที่สนุกสนาน เอออ!! เเทนที่จะคิดมาเยื่ยมมึงสักนิดก็ไม่มี ใจมันทำด้วยอะไรวะ??"

"อ้าวววเฮ้ยยย!! นิ๊กกี้ มึงฟังอยู่หรือเปล่าวะ?? นิ๊กกี้ๆๆ..."

หมดเเรงเเล้ว..เเม่สาวน้อยค่อยๆหรี่เสียงโทรศัพท์มือถือเเล้วปิดเสียงลงไป พอเหอะ..เธอไม่อยากจะฟังอะไรอีกต่อไปเเล้ว บอบช้ำย่อยยับไปหมดทุกเศษเสี้ยวของหัวใจ เเหลกสลายไม่มีชิ้นดี เธอไม่อยากจะทนอีกต่อไปเเล้วกับคำหวานคารมชายที่ไร้ซึ่งสัจจะ สร้างภาพออกสื่ออยู่ตลอดเวลา...หยาดน้ำใสๆไม่รู้มันไหลออกมาตั้งเเต่ตอนไหน? เธอค่อยๆโอบกอดลูกน้อยที่คอยนั่งเฝ้าใกล้เตียงเเม่มาโดยตลอด ไออุ่นจากเลือดเนื้อเชื้อไข ได้ซึมซาบผ่านจากก้นลึกสุดใจของลูกน้อยจนเธอสัมผัสได้ ถึงความห่วงหาอาทรอย่างไร้เงื่อนไข...

เสียงกระซิบจากใจของลูกน้อยที่เธอกำลังโอบกอดอยู่นี่ สื่อข้อความมาถึงหัวใจของเเม่ ว่าเค้าจะไม่ทิ้งเธอไปไหน เขาจะอยู่กับเธอไปตลอดชีวิต....

..................................

รายการ : ข่าวพลังภูผา
Radio online : www.arjanpong.com
FM 89.75 MHz. พระนครศรีอยุธยา 
Time : 06.00-08.00 น./17.00-19.00 น ทุกวัน 
โทร/line : 0898129392
Email : arjanpong123

*** ข่าวพลังภูผา..***
เล่นอะไรกันเนี่ย??เกมสุดพิเรนทร์ เอาลูกโป่งวิ่งอัดใส่ก้นสาว!!
www.arjanpong.com
เมื่อวันที่ 28 ก.ย. โลกในออนไลน์ได้มีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง เกี่ยวกับคลิปวีดีโอกิจกรรม กีฬาส่งเสริมความสามัคคีของหน่วยงานแห่งหนึ่ง หลังจากปรากฏภาพการละเล่นเกมกีฬากันอย่างสนุกสนาน มีการใช้ตัวกระแทกลูกโป่งให้แตก แต่บางครั้งก็เป็นในลักษณะเป้ากระแทกก้นของอีกฝ่ายโดยเฉพาะฝ่ายชายเป็นฝ่ายกระทำฝ่ายหญิง ทำให้ถูกตั้งคำถามว่ากิจกรรมนี้เหมาะสมกับหน่วยงานหรือไม่......

จากการสอบถามไปยังแหล่งข่าวระดับสูงรายหนึ่ง ระบุว่า เป็นการจัดสัมมนาพัฒนาศักยภาพของพนักงานหน่วยงานภาครัฐ มีบุคคลากรจากทั่วประเทศเข้าร่วมกว่า 300 คน จัดกิจกรรมขึ้นในสถานที่แห่งหนึ่งใน จ.นครนายก ซึ่งภาพที่ออกมาแม้จะดูสนุกสนาน แต่บางภาพก็ดูไม่เหมาะสม เพราะเวลาผิดจังหวะ เป้าของฝ่ายชายไปกระแทกกับก้นฝ่ายหญิงด้วย ซึ่งความจริงแล้วน่าจะหาเกมกีฬาที่ดูเหมาะสมมากกว่าจะเล่นในลักษณะดังกล่าว......

อย่างไรก็ตามเป็นที่น่าสังเกตุว่า การจัดงานดังกล่าวเป็นการจัดในช่วงปลายปีงบประมาณ ทำให้ผู้ที่พบเห็นคิดได้ว่างบประมาณนั้น ถูกนำมาใช้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยหรือไม่ เพราะกีฬาที่เสริมสร้างความสามัคคีที่วางเอาไว้ กลับมีภาพของการเล่นเกมที่อาจกระทบในจริยธรรมของเจ้าหน้าที่ก็เป็นได้.....

Credit : https://dailynews.co.th/regional/668625
....................
รายการ : ข่าวพลังภูผา
Radio online : www.arjanpong.com
FM 89.75 MHz. พระนครศรีอยุธยา 
Time : 06.00-08.00 น./17.00-19.00 น ทุกวัน 
โทร/line : 0898129392
Email : arjanpong123@hotmail.com

*** #ข่าวพลังภูผา..***
"ลูกฉันอยู่ไหน??"สะเทือนใจ!! #สัตวแพทย์หญิง ยังไม่รู้ลูกตายคากองเพลิง!! 
www.arjanpong.com
จากกรณีเหตุเพลิงไหม้ ภายใน #หมู่บ้านซื่อตรง #เขตหนองจอก ซึ่งเป็นบ้านพักของ #ครอบครัวสัตวแพทย์ ซึ่งเหตุดังกล่าว ทำให้มีผู้เสียชีวิตสองราย คือ ด.ญ.ธารวีธ์ โภคานิตย์ หรือ น้องมีน และ ด.ญ.นิธารวีธ์ โภคานิตย์ หรือ น้องมีมี่ ซึ่งเป็นลูกสาวของครอบครัวนี้ ส่วน น.สพ.ชัชชัย โพธิ์พาณิชย์ อายุ 44 ปี ซึ่งเป็นพ่อได้รับบาดเจ็บสาหัส และ ส.พญ.กัญญาวี สุทธิพงษ์ อายุ 44 ปี ผู้เป็นแม่ เจ็บจากไฟลวก พักรักษาตัวอยู่ที่ #โรงพยาบาลหนองจอก......

เบื้องต้น น.สพ.ชัชชัย อาการน่าเป็นห่วง ยังอยู่ระหว่างเฝ้าระวัง และ ส.พญ.กัญญาวี ถูกไฟลวก ขณะนี้เริ่มรู้สึกตัวแล้ว...

อย่างไรก็ตาม ผู้บาดเจ็บทั้งสองคน ยังไม่ทราบว่าลูกสาวทั้งสองคนเสียชีวิตแล้ว โดย ส.พญ.กัญญาวี หลังจากฟื้นขึ้นมาได้ถามหาลูกสาวว่าอยู่ไหน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่และคนที่ไปเยี่ยมไข้ ก็ตอบได้เพียงแค่ว่า “ตอนนี้ลูกสาวทั้งสองคนอยู่อีกโรงพยาบาลอีกแห่งหนึ่ง” แต่ก็ไม่สามารถพูดอะไรไปมากกว่านั้นได้ เพราะไม่อยากให้กระทบกระเทือนจิตใจ และอยากให้คุณหมอทั้งสองคนพักรักษาตัวให้หายดีก่อน ก่อนที่จะบอกความจริงทั้งหมด........

Credit : https://www.thairath.co.th/content/1385517

..................................................

รายการ : ข่าวพลังภูผา
Radio online : www.arjanpong.com
FM 89.75 MHz. #พระนครศรีอยุธยา 
Time : 06.00-08.00 น./17.00-19.00 น ทุกวัน 
โทร/line : 0898129392
Email : arjanpong123@hotmail.com

*** ข่าวพลังภูผา..***
เข็นยังไง? คนไข้ร่วงเตียง!!...
www.arjanpong.com
จากกรณีกล้องวงจรปิดภายในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง บันทึกเหตุการณ์ที่พนักงานเข็นเตียงลงมาจากทางลาด แล้วเสียหลักทำให้คนตกลงจากเตียง ทำให้คนที่อยู่บริเวณดังกล่าวต้องรีบเข้ามาช่วยเหลือ ผู้ที่นำคลิปมาโพสต์ ระบุข้อความว่า พนักงานเข็นคนไข้ แต่ไม่ระวังทำคนไข้ตกเตียงได้รับบาดเจ็บ ฟกช้ำตามร่างกาย ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ตอนนี้คนไข้พักรักษาตัวอยู่......

ล่าสุด เมื่อวันที่ 26 กันยายน นพ.ไชยสิทธิ์ เทพชาตรี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลระยอง ชี้แจงกับผู้สื่อข่าวถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า ผู้ป่วยที่ตกเตียง ทางโรงพยาบาลได้ให้การดูแลรักษา ขณะนี้ปลอดภัยดี แพทย์ได้ตรวจสอบร่างกายแล้วปกติ และให้กลับบ้านแล้ว ส่วนเจ้าหน้าที่เวรเปลที่เกิดอุบัติเหตุ ตรวจสอบแล้วทราบว่าเพิ่งมาทำงานได้ไม่นานประกอบกับภายใน โรงพยาบาลระยอง มีการปรับปรุงเส้นทางเดิน ขณะเคลื่อนย้ายคนไข้อาจด้วยความไม่ชำนาญเส้นทาง จึงทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้น.....

จึงต้องขอโทษประชาชนมา ณ โอกาสนี้ จะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก และขอเรียนว่าช่วงนี้ทาง โรงพยาบาลระยอง มีการปรับปรุงภูมิทัศน์ในหลายพื้นที่ของโรงพยาบาล อาจทำให้ญาติผู้ป่วยและประชาชน เกิดความไม่สะดวก จึงขออภัยมา ณ ที่นี้.........

Credit : https://www.youtube.com/watch?v=rGuxmoNkNYI
: http://www.komchadluek.net/news/local/345432

..................................................

รายการ : ข่าวพลังภูผา
Radio online : www.arjanpong.com
FM 89.75 MHz. พระนครศรีอยุธยา 
Time : 06.00-08.00 น./17.00-19.00 น ทุกวัน 
โทร/line : 0898129392
Email : arjanpong123@hotmail.com

*** ข่าวพลังภูผา..***
หน.พยาบาลกราบขอโทษ!! คลิปฉาวกระชากคนไข้ ICU
www.arjanpong.com
ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า ปวรณา เกตุปาน ได้โพสคลิปวีดีโอความยาวประมาณ 18 วินาที เป็นเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่พยาบาลเข้ามาดูแลผู้ป่วยซึ่งนอนอยู่บนเตียง ในสภาพที่มีสายท่อเครื่องช่วยหายใจต่อระโยงระยางเอาไว้ ไม่สามารถขยับตัวเคลื่อนไปมา หรือช่วยเหลือตัวเองได้ จากนั้นพยาบาลก็จับร่างของผู้ป่วยดึงขยับตัวอย่างแรง ก่อนจะโยนผ้าห่มใส่ไปที่ใบหน้าแล้วเอาไปรองที่ศีรษะ สร้างความน่าเวทนาสงสาร และแสดงถึงความไม่เหมาะสมในจรรยาบรรณวิชาชีพเป็นอย่างมาก ซึ่งคลิปดังกล่าวถูกแชร์ และมีคนเข้ามาวิจารณ์การกระทำดังกล่าวจำนวนมาก......

พร้อมระบุข้อความว่า “จรรยาบรรณของพยาบาลแบบนี้เหรอ ? ความผิดที่ตัวบุคคลใช่หรือไม่ พ่อก็เคยป่วยหนักแบบนี้ แต่แม่เฝ้าตลอด ถ้าไม่เฝ้าตลอดไม่รู้ว่าจะเจอเหตุการณ์แบบนี้รึเปล่า แต่ที่เจออาจจะมีพูดจาห้าวหาญบ้าง แต่ไม่กระทำถึงขนาดนี้ เค้าไม่คิดว่าจะมีคนเห็นสิ่งที่เค้ากระทำบ้างเหรอ?"....

สอบถามไปยังนางสาวปวรณา เกตุปาน อายุ 30 ปี ผู้โพสต์คลิปเปิดเผยว่า คลิปถูกแชร์ส่งต่อๆ กันมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา โดยเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.พิษณุโลก ซึ่งจากข้อมูลที่ได้มาทราบว่า คนถ่ายคลิปนี้ไปเยี่ยมญาติที่ป่วยและนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ก่อนไปพบเหตุการณ์นี้และถ่ายคลิปไว้ ซึ่งคนไข้ไอซียูในคลิปเป็นผู้ป่วยไม่มีญาติ ก่อนโดนพยาบาลกระชากและปาผ้ายางใส่ ซึ่งเป็นภาพที่ใครเห็นแล้วก็ทนไม่ได้ ซึ่งตนเองเคยมีประสบการณ์โดยตรงในลักษณะคล้ายๆ กัน แต่ไม่รุนแรงเท่านี้ เมื่อมาเจอคลิปที่คนไข้โดนกระทำอีกในลักษณะเดียวกัน จึงนำคลิปมาโพสต์เป็นอุทาหรณ์และไม่ให้เจ้าหน้าที่กระทำกับคนไข้เช่นนี้อีก......

ทั้งนี้ตนไม่คิดว่าคลิปนี้จะได้รับความสนใจและสร้างเรื่องราวใหญ่โตขนาดนี้ และรู้สึกเสียใจต่อผลกระทบที่มีต่อพยาบาลที่อยู่ในคลิป เพราะไม่ได้โกธรหรือรู้จักกัน เพียงแต่ต้องการขอให้พยาบาล ซึ่งเป็นผู้ที่ผู้ป่วยและญาติฝากฝังคนไข้เอาไว้ให้ช่วยรักษา จึงอยากให้ดูแลคนไข้ตามสมควร......

ต่อมาทางผู้บริหาร รพ.พุทธชินราชพิษณุโลก นำโดย นายแพทย์วิสิทธิ์ เสถียรวันทนีย์ รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์อาวุโส ได้ร่วมกันแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน เกี่ยวกับคลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมกล่าวขอโทษต่อประชาชนและผู้ป่วยคนนี้ ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่ไม่สามารถกำกับดูแล ให้เป็นไปตามที่ควรจะเป็นได้ และผู้บริหารโรงพยาบาลพุทธชินราชพิษณุโลก ได้แสดงความเสียใจไปยังครอบครัวและญาติของผู้ป่วยโรคถุงลมโป่งพองอายุมากกว่า 90 ปี คนนี้ด้วย.....

แพทย์ระบุว่า หลังจากได้เห็นคลิปนี้แล้วว่า ตนเองและทุกคนก็ยอมรับไม่ได้ แต่ต้องให้เวลาในการสอบสวนข้อเท็จจริงให้ปรากฏเสียก่อนว่า ที่มาที่ไปของเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นมาได้อย่างไร โดยทางโรงพยาบาลพุทธชินราชได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว เพื่อดำเนินการทางวินัยก่อน เบื้องต้นได้ย้ายพยาบาลคนนี้ออกจากแผนกไปในส่วนที่ ไม่ได้ปฏิบัติงานที่ยุ่งเกี่ยวกับผู้ป่วยพลางก่อน ซึ่งล่าสุด พยาบาลคนนี้ได้ทราบเรื่องคลิปเมื่อไม่นานมานี้ ขณะนี้ ก็เสียใจต่อเหตุการณ์และเกิดภาวะความเครียด จึงต้องดูแลอย่างใกล้ชิดด้วยเช่นเดียวกันเพื่อไม่ให้เกิดเหตุร้ายซ้ำเติมขึ้นมาอีก......

ปัจจุบันโรงพยาบาลพุทธชินราชพิษณุโลก เป็นโรงพยาบาลศูนย์ ขนาดใหญ่ อันดับ 3 ของประเทศ มีผู้ป่วยเข้ารักษาตัวจำนวนมาก ประกอบกับ บุคลากรทางการแพทย์ โดยเฉพาะพยาบาลมีไม่เพียงพอ ซึ่งอาจจะเป็นส่วนหนึ่งของสาเหตุที่ทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นมาได้แต่ต้องรอผลสอบสวนข้อเท็จจริงให้ปรากฏก่อนจึงจะสรุปและหาแนวทาง ป้องกันทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เพื่อไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นมาอีก..

ด้าน น.ส.ศิริพร ศิริวัฒนไพศาล รักษาการหัวหน้าพยาบาล กล่าวว่า ต้องกราบขอโทษทุกท่านที่เกิดเหตุการณ์ขึ้น น้องพยาบาลก็เพิ่งทราบเมื่อเย็น ที่มีคลิปออกทางโซเซียล ปกติก็น้องพยาบาลคนนี้นิสัยดี แต่อาจจะมีความเครียดด้านอื่นๆ ที่ได้ปฏิบัติหน้าที่มาทั้งวัน หลังจากทราบว่าเป็นข่าวเจ้าตัวก็เครียดมาก......

Credit : https://www.youtube.com/watch?v=mT_rPJORWgs

.............................

รายการ : ข่าวพลังภูผา
Radio online : www.arjanpong.com
FM 89.75 MHz. พระนครศรีอยุธยา 
Time : 06.00-08.00 น./17.00-19.00 น ทุกวัน 
โทร/line : 0898129392
Email : arjanpong123@hotmail.com

*** ข่าวพลังภูผา..***
"เเล้วต่อเเต่นี้ฉันจะอยู่เพื่อใคร??"
เสียงร่ำไห้จากคุณป้าของน้องพิงค์ที่ถูกไฟคลอก!!
www.arjanpong.com
เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านพักในซอยพหลโยธิน 24 โดยที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น และดัดแปลงแบ่งให้เช่า ภายในซอยพหลโยธิน 24 สภาพถูกเพลิงไหม้บริเวณชั้น 2 เสียหายเกือบทั้งหมด เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร ได้ใช้น้ำฉีดสกัดกั้นเพลิงไม่ให้ลุกลามนานกว่า 30 นาที เพลิงจึงสงบ......

ตรวจสอบภายในบ้านพบผู้เสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อ นางสาวพนิดา โชคอวยพรชัย หรือน้องพิ้ง นักศึกษาชั้นปีที่ 2 มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย คณะบริหารธุรกิจระหว่างประเทศ ถูกไฟคลอกนอนเสียชีวิตในห้องนอน ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างการตรวจสอบของกองพิสูจน์หลักฐาน เบื้องต้นทางสำนักงานเขตจตุจักรได้นำถุงยังชีพไปให้เพื่อช่วยเหลือ......

ขณะที่เพื่อนบ้านซึ่งเห็นเหตุการณ์ บอกว่า ขณะเกิดเหตุชาวบ้านพยายามช่วยกันดับเพลิง แต่เพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็ว ประกอบกับมีเสียงระเบิดตามมา และมีเสียงร้องขอความช่วยเหลือจากภายในบ้าน แต่ไม่มีใครสามารถพังเข้าไปช่วยเหลือได้ เนื่องจากบ้านถูกล็อคด้านในบ้านกระทั่งเสียงร้องเงียบไป..

ขณะที่ญาติของผู้เสียชีวิต บอกว่า ปกติหลานสาวจะนอนตื่นสาย จะต้องไปปลุกทุกวันให้ไปเรียน วันนี้ตนเองและแม่ของน้องพิ้ง มีธุระต้องออกไปข้างนอก ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้......

จากการสอบสวน นางโสพรรณ พงษ์ไพฑูรย์ อายุ 50 ปี ผู้ดูแลบ้านเช่า กล่าวว่า บ้านเช่าหลังนี้ปลูกมานานกว่า 40 ปีแล้ว ก่อนหน้ามีเพียงที่ดินว่างเปล่า จึงมาสร้างเป็นบ้านเช่าแบ่งเป็นหลังๆ จำนวน 6 หลัง ซึ่งแบ่งให้เช่าเพียงเดือนละ 4,000 บาท ขณะเกิดเหตุตนกำลังทำงานบ้าน ก็ได้ยินเสียงคนร้องโวยวายว่าไฟไหม้ จึงได้วิ่งออกมาดู ก็พบว่ามีแสงเพลิงและกลุ่มควันจำนวนมากที่ี่ชั้นล่างของบ้าน จึงได้เรียกให้สามีนำถังดับเพลิงมาช่วยฉีดแต่ไม่เป็นผล......

จากนั้น ตนและสามีจึงได้ตะโกนเรียกและตรวจสอบดูว่ามีใครติดอยู่ในบ้านหรือไม่ ก็ได้ยินเสียงคนทุบผนังห้องที่เป็นแผ่นยิปซัม และร้องขอความช่วยเหลือว่า “ช่วยด้วย ช่วยด้วย” แต่ก็ไม่สามารถให้การช่วยเหลือได้เพราะประตูถูกล็อคจากด้านใน จากนั้น สามีจึงตะโกนบอกให้ น.ส.พนิดาทุบผนังยิปซั่มกระโดดลงมา แต่คาดว่าผู้เสียชีวิตไม่กล้าก่อนเสียชีวิตดังกล่าว

ด้าน ตร.เผยว่าเบื้องต้นจากการสอบสวนป้าของผู้เสียชีวิตทราบว่า เมื่อช่วงเช้าก่อนที่ป้าและแม่จะออกไปทำงาน ป้าของผู้ตายได้จุดธูปไหว้พระทิ้งไว้ และจะต้องกลับเข้ามาปลุกผู้ตายที่นอนอยู่ที่ชั้น 2 ไปเรียนในเวลา 10.00 น. แต่ก็มาเกิดเหตุเสียก่อน อย่างไรก็ตาม ต้องรอผลตรวจพิสูจน์ของกองพิสูจน์หลักฐานเพื่อสรุปสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้อย่างละเอียดอีกครั้ง......

หลังเกิดเหตุ น.ส.นวพร พิพัฒน์ธาราพรชัย อายุ 71 ปี ป้าของผู้เสียชีวิต ได้เดินทางกลับมาที่บ้านหลังเกิดเหตุพร้อมกับตะโกนหาผู้เสียชีวิตว่า “น้องพิ้ง น้องพิ้งเอ้ย ไปดีนะลูก หลับให้สบายนะ”......

ด้าน นายเวียงเงิน แก้ววงไพร อายุ 47 ปี พ่อของน.ส.พนิดา กล่าวว่า ตนและภรรยา คือ นางนภา โชคอวยพรชัย อายุ 59 ปี มีอาชีพขายเส้นก๋วยเตี๋ยวอยู่ที่ย่านสะพานควาย โดยมาเช่าบ้านอยู่ที่ซอยพหลโยธิน 24 ได้ประมาณ 20 ปีแล้ว ตั้งแต่น.ส.พนิดายังอยู่ในครรภ์ และมีลูกเพียงคนเดียว โดยปกติน.ส.พนิดาจะเป็นคนดี มีนิสัยร่าเริงเหมือนวัยรุ่นทั่วไป เป็นที่รักของบ้านใกล้เรือนเคียง ครอบครัวก็อบอุ่นเป็นปกติ......

ก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้มีลางสังหรณ์ใดๆ โดยช่วงเช้าตนก็ออกไปค้าขายกับภรรยาตามปกติ จนมารับแจ้งจากเพื่อนบ้านว่าที่บ้านเกิดเหตุไฟไหม้ และมาทราบภายหลังว่า ลูกสาวเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ตอนนี้ตนได้เข้าให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหมดแล้ว......

ซึ่งในวันที่ 25 ก.ย.นี้ ตนจะเดินทางไปรับศพลูกสาวที่นิติเวช โรงพยาบาลจตำรวจ โดยปรึกษากับทางญาติจะนำศพไปประกอบพิธีทางศาสนาที่ จ.สุพรรณบุรี ซึ่งเป็นบ้านเกิดของภรรยา ส่วนตัวมีความรู้สึกว่าลูกสาวยังไม่ได้จากไปไหน เขายังอยู่กับเรา แต่ส่วนภรรยายังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น......

Credit : https://www.youtube.com/watch?v=Z3t8nOSZwa0
: https://www.youtube.com/watch?v=XnNHQwNNUDQ

............................................

รายการ : ข่าวพลังภูผา
Radio online : www.arjanpong.com
FM 89.75 MHz. พระนครศรีอยุธยา 
Time : 06.00-08.00 น./17.00-19.00 น ทุกวัน 
โทร/line : 0898129392
Email : arjanpong123@hotmail.com

*** ข่าวพลังภูผา..***
ไล่ออก!!เเคชเชียร์สาวเซเว่น ตั้งใจทอนเงินผิด!!
www.arjanpong.com
เมื่อวันที่ 23 ก.ย. กรณีกระแสวิจารณ์คลิปแฉเหลี่ยมพนักงานสาวร้านสะดวกซื้อ 7-11 หลังลูกค้ายื่นแบงค์พันให้ แต่โมเมว่าเป็นแบงค์ร้อย ไม่รอดกล้องวงจรปิดจับพฤติกรรมน่าสงสัย ด้านบิ๊กซีพีแจงด่วนขออภัย ชี้มีพฤติกรรมส่อไปในทางทุจริต เร่งสอบข้อเท็จริง หากผิดไล่ออกทันที ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว......

ล่าสุด บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ออกคำชี้แจงพนักงานร้านเซเว่นทุจริต ฉบับที่ 2 โดยระบุว่า ตามที่มีคลิปกล้องวงจรปิดได้เผยแพร่ภาพพนักงานคนหนึ่งของร้าน มีพฤติกรรมที่เข้าใจได้ว่าทุจริตนั้น บริษัทฯ ได้ตรวจสอบแล้วพบว่า เป็นร้านของดีลเลอร์ภายในสถานีจำหน่ายน้ำมัน ปตท.ใน จ.พัทลุง ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นเรื่องของตัวบุคคลที่กระทำผิด ขณะนี้ทางปั๊มน้ำมันปตท. แห่งนี้กำลังจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป จึงขอเรียนแจ้งให้ทราบและขออภัยในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอีกครั้ง.....

Credit : https://www.dailynews.co.th/regional/667635

.................................

รายการ : ข่าวพลังภูผา
Radio online : www.arjanpong.com
FM 89.75 MHz. พระนครศรีอยุธยา 
Time : 06.00-08.00 น./17.00-19.00 น ทุกวัน 
โทร/line : 0898129392
Email : arjanpong123@hotmail.comอ

*** ข่าวพลังภูผา..***
หนุ่มใจเเหลกสลาย!! พ่ายรักเเฟนสาว ดิ่งชั้น 4 ดับสยอง!!
www.arjanpong.com
เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 20 ก.ย. ร.ต.ท.หญิงสุขุมาล ศรียะวงษ์ รองสว.(สอบสวน) สน.มีนบุรี รับแจ้งเหตุพบผู้เสียชีวิตบริเวณหน้าหมู่บ้านรื่นฤดี 7 ถนนหทัยราษฎร์ แขวงและเขตมีนบุรี กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์กู้ชีพรพ.นวมินทร์ และมูลนิธิร่วมกตัญญู ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณหน้าหมู่บ้านดังกล่าว ลักษณะเป็นอาคารพานิชย์กำลังก่อสร้างสูง 4 ชั้น บริเวณกองอิฐแดงด้านหน้าอาคารพบร่าง นายนัฐพล เจริญศิริ อายุ 24 ปี นอนหายใจรวยรินมีเลือดออกจากจมูกและปาก กู้ชีพทำการช่วยเหลือเพื่อยื้อชีวิต แต่ผู้บาดเจ็บทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตในเวลาต่อมา......

จากการสอบสวนนายมนตรี เจริญศิริ อายุ 47 ปี พ่อผู้ตาย กล่าวทั้งน้ำตาว่า ลูกชายของตนเพิ่งเลิกกับแฟนที่คบหากันมานานกว่า 4 ปี โดยช่วงเย็นที่ผ่านมาลูกชายและแฟนได้พูดคุยกันและตกลงว่าจะเลิกรากันก่อนและพาแฟนไปส่งขึ้นรถตู้กลับจ.อยุธยา หลังกลับมาลูกชายก็มีอาการเสียใจไม่พูดจากับใคร กระทั่งหายตัวไปจากบ้านย่านหทัยราษฎร์ จนได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ว่าพบศพลูกชายเสียชีวิตดังกล่าว......

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า ผู้ตายเกิดอาการเสียใจและผิดหวังเรื่องความรักจึงแอบขึ้นไปบนอาคารที่กำลังก่อสร้างก่อนจะกระโดดลงมาเพื่อฆ่าตัวตายดังกล่าว หลังจากนี้จะทำการสอบสวนญาติอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง ส่วนศพนำส่งนิติเวชรพ.ตร. เพื่อชันสูตรหาสาเหตุของการเสียชีวิตและส่งมอบญาติให้นำร่างไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป......

Credit : https://www.dailynews.co.th/crime/667052
: https://www.youtube.com/watch?v=NJJutG7mZ0Q

......................................

รายการ : ข่าวพลังภูผา
Radio online : www.arjanpong.com
FM 89.75 MHz. พระนครศรีอยุธยา 
Time : 06.00-08.00 น./17.00-19.00 น ทุกวัน 
โทร/line : 0898129392
Email : arjanpong123@hotmail.com